"แฝดเกรียน" ต่อย "วรเจตน์" ซ่าอีก! ยิงทนายเจอข้อหาพยายามฆ่า
แฝดเกรียนโจทก์เก่า 'วรเจตน์ ภาคีรัตน์' โดนจับข้อหาพยายามฆ่าอีกคดี หลังก่อเหตุยิงถล่ม 'ทนายเปี๊ยก' ที่รับว่าความให้อดีตผู้ใหญ่บ้านชื่อดังย่านคลองหลวง ลูกพี่ใหญ่ของแฝดเกรียน จนแพ้แล้วไม่ได้ประกันตัว เลยแค้นลากปืน 9 ม.ม. ยิงถล่มไม่ยั้ง ขณะที่ทนายเปี๊ยกเลี้ยงฉลองสงกรานต์จนบาดเจ็บสาหัส เผยประวัติสุดแสบก่อเหตุทะเลาะวิวาทไปทั่ว ขึ้น-ลงโรงพักเป็นว่าเล่น ขนาดอยู่ระหว่างประกันตัวสู้คดีตื้บอาจารย์คนดัง ยังไม่วายมาก่อเหตุซ้ำอีก
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 เม.ย. ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.นราเดช ทิพย์รักษ์ ผกก.สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พร้อม พ.ต.ท.ปรากฏ นาคใหญ่ สว.สส. และ พ.ต.ท.ภูริสิทธิ์ ทิมทอง สว.สส.ภ.จว.ปทุมธานี ร่วมกันคุมตัว นายสุพจน์ หรือ แบงก์ ศิลารัตน์ อายุ 32 ปี และ นายศิพัฒน์ หรือ เบนซ์ ศิลารัตน์ อายุ 32 ปี สองพี่น้องฝาแฝด พักอยู่บ้านเลขที่ 180 ซ.รังสิต-นครนายก 13 แยกซอย 7 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ส่งฟ้องศาลในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนติดตัวเข้าไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรเร่งด่วนแก่พฤติการณ์
พ.ต.อ.นราเดช เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาทั้งคู่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 ม.ม. ยิง นายจงกล พิจิตรพลากาศ หรือ ทนายเปี๊ยก อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 512/14 ม.4 ต.คูคต นายธีรพล นุ่มมาก อายุ 42 ปี และ นายวาสนา คุ้มมา อายุ 27 ปี จำนวนหลายนัดได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่นายจงกลนั่งดื่มกินฉลองงานสงกรานต์อยู่กับลูกน้อง เหตุเกิดภายในซอยพหลโยธิน 62 หรือซอย 39 แยก 11 ต.คูคต หลังเกิดเหตุนายจงกลให้การยืนยันว่า ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุคือ นายสุพจน์ และ นายสุพัฒน์ ซึ่งนายจงกลรู้จักดี เนื่องจากทั้งคู่เป็นลูกน้องคนสนิทของอดีตผู้ใหญ่คนหนึ่ง เจ้าของบ่อนไก่ชนย่าน อ.คลองหลวง ที่นายจงกลรับว่าความให้ ในคดีที่ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวทำร้ายร่างกายกักขังหน่วงเหนี่ยว จนศาลอุทธรณ์สั่งพิพากษาจำคุกผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว
พ.ต.อ.นราเดช กล่าวอีกว่า ต่อมาผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวต้องการประกันตัว แต่ติดขัดเรื่องกฎหมาย นายจงกลจึงไม่สามารถยื่นเรื่องขอประกันตัวได้ เป็นเหตุให้ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวรวมถึงผู้ต้องหาทั้งคู่ กล่าวอาฆาตและข่มขู่นายจงกลไว้ กระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว เบื้องต้นหลังควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งคู่ส่งฟ้อง ศาลอนุญาตให้ผู้ต้องหาทั้งคู่ประกันตัวออกไปต่อสู้คดี
สำหรับประวัติของผู้ต้องหาทั้งคู่ เป็นคนมีนิสัยใจร้อน ไม่พอใจอะไรก็จะแสดงออกด้วยการชกต่อยอยู่บ่อยครั้ง เคยถูกจับในข้อหาทำร้ายร่างกาย ในท้องที่ สน.สายไหม สน.ดอนเมือง สน.ธัญบุรี นอกจากนั้นยังเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปในกรณีก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และแกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ ซึ่งเคลื่อนไหวการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 เมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2555 โดยศาลตัดสินจำคุกทั้งคู่ และอยู่ระหว่างการประกันตัวเพื่อสู้คดีในศาลอุทธรณ์