ทูตวีรชัยมั่นใจโต้เขมรได้ทุกข้อฉะพยายามทำให้เสียเวลา

ทูตวีรชัยมั่นใจโต้เขมรได้ทุกข้อฉะพยายามทำให้เสียเวลา

ทูตวีรชัยมั่นใจโต้เขมรได้ทุกข้อฉะพยายามทำให้เสียเวลา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชฑูตไทยประจำ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า จุดหลักของกัมพูชา ในการชี้แจง รอบที่ 2 วันนี้ (18 เม.ย.) ได้พยายามเน้นที่จะลดความสำคัญของแผนที่อื่น โดยต้องการให้แผนที่ 1:200,000 ขึ้นมาเพียงอันเดียว ขณะที่ ไทย ยืนยันว่า ไม่ยอมรับแผนที่ 1:200,000 แต่รับแค่บทพิพากษาเฉพาะแค่ตัวปราสาท ซึ่งวันนี้ (19 เม.ย.) เรามีเหตุผลที่จะพยายามทำลายข้อโต้ตอบของกัมพูชาให้หมดทุกข้อ โดยจะใช้ทนายความทั้งหมด 5 คน ซึ่งตนเองจะขึ้นชี้แจงปิดคนสุดท้าย  ทั้งนี้ ไม่มีความกังวล แต่เป็นการให้ความสำคัญกับการให้การของกัมพูชามากกว่า แม้ว่ากัมพูชา จะพยายามสร้างประเด็นใหม่ขึ้นมา โดยอ้าง The Annex 6 ที่ระบุถึงคำให้สัมภาษณ์ของ สมเด็จพระนโรดมสีหนุ อดีตกษัตริย์กัมพูชา ซึ่งไม่ถือว่ามีน้ำหนักมากนัก รวมถึง กัมพูชา ยกการเจาะแผนที่ The Big Map หรือ Map 85D ขึ้นมา ซึ่งในคำพิพากษาก็ไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่จะระบุว่า เป็นพื้นที่พิพาทและทีมทนายความของฝ่ายไทย ก็ได้เตรียมตอบโต้ไว้หมดแล้ว ไม่มีอะไรน่าตกใจอย่างไรก็ตาม นายวีรชัย ระบุว่า เทคนิคที่กัมพูชาพยายามหาเรื่องเล็ก เรื่องน้อย ยั่วโมโห กล่าวหาทนายความทุกคน เช่น การอ้างว่า ตนกล่าวตำหนิศาล ทั้งที่ข้อเท็จจริง ได้กล่าวตำหนิฝ่ายกัมพูชา ไม่ได้ตำหนิศาลแต่อย่างใด ซึ่งสามารถอ่านในเอกสารได้ กัมพูชาพยายามกล่าวหาเพื่อให้ไทยได้โต้แย้ง และทำให้เวลาหมดไปโดยเปล่าประโยชน์ เวลานี้ คนไทย จึงต้องหนักแน่น อย่าไปตกหลุมของกัมพูชา และเชื่อว่า วันนี้ (19เม.ย.) จะสนุกในการโต้แย้ง ฮอร์นัมฮงย้ำคำพิพากษาไม่มีผลต่อสัมพันธ์2ปท. นายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์หลังจากเสร็จสิ้นจากการขึ้นชี้แจงต่อศาลโลก เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ว่า คำพิพากษามี 2 ส่วน ส่วนหนึ่งคือเหตุผล อีกส่วนหนึ่งคือ บทปฏิบัติการ โดยกล่าวว่า ถ้าอ้างอิงตามบทปฏิบัติการ ปราสาทพระวิหารและอาณาบริเวณใกล้เคียงนั้น อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา แต่หากจะถามว่า อาณาบริเวณใกล้เคียงอยู่ที่ไหน บริเวณใกล้เคียงก็ได้รับการแสดงอย่างชัดเจนแล้วในแผนที่ภาคผนวก 1 และในส่วนที่เป็นเหตุผลของคำพิพากษาโดย ฮอร์ นัมฮง ชี้ว่า ศาลได้พูดชัดเจนว่า ทั้งสองฝ่ายได้ยอมรับว่า มีเส้นเขตแดนระหว่างสองชาติอยู่แล้ว ทั้งนี้ รองนายกฯกัมพูชา ได้แสดงความมั่นใจว่า ศาลจะพิจารณาทุกแง่มุมทางกฎหมายที่กัมพูชาได้เสนอ ส่วนบริเวณใกล้เคียงที่ศาลขอให้ชี้แจงเพิ่มเติมนั้น ประเทศไทยผลิตแผนที่หลายชุด แต่ในปี 2505 ศาลได้ตัดสินคดีบทบพื้นฐานของแผนที่ภาคผนวก 1 อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าศาลจะตัดสินอย่างไรจะไม่มีผลต่อความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ เพราะทั้งไทยและกัมพูชา โดยจะเชื่อมความสัมพันธ์อันดีต่อเนื่องต่อไป ตชด.เกาะติดผลศาลโลกสั่งกำลังเตรียมพร้อม พล.ต.ท.สุรพงษ์ เขมะสิงคิ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย-เขมร ระหว่างการต่อสู้คดีประสาทพระวิหาร ที่ศาลโลก ว่า มีการวางกำลังดูแลพื้นที่อย่างเต็มที่ พร้อมติดตามสถานการณ์ต่อสู้ที่ศาลโลก พร้อมกำชับกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 ที่ดูแลพื้นที่ให้อยู่ในความสงบ แต่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ต่างๆ อย่างเต็มที่ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ขณะนี้ ทั้งฝ่าย ตชด. ทหาร ชาวบ้าน และทางกัมพูชา ก็เข้าใจว่าต้องรอผลการตัดสินของศาลโลก ยังไม่มีท่าทีคุกคามต่อกัน จึงยังไม่น่าเป็นห่วง พร้อมทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ ที่มาแสดงความเคลื่อนไหวแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้กำชับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานดูแลพื้นที่ว่า ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงาน และซักซ้อมแผนการระวังที่ตั้ง และการทำงานร่วมกับทหารแล้ว โดยไม่ให้แสดงท่าทีคุกคาม ให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย    
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook