ไทยแจงคดีเขาพระวิหารรอบสุดท้าย ชี้ไม่เคยแตะต้องเขตแดน

ไทยแจงคดีเขาพระวิหารรอบสุดท้าย ชี้ไม่เคยแตะต้องเขตแดน

ไทยแจงคดีเขาพระวิหารรอบสุดท้าย ชี้ไม่เคยแตะต้องเขตแดน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(20 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ทีมทนายความฝ่ายไทยคดีเขาพระวิหารได้ขึ้นชี้แจงต่อศาลโลกรอบที่ 2 ยืนยัน ไทยถอนกำลังออกจากพื้นที่พิพาท พร้อมกับหักล้างเหตุผลของฝั่งกัมพูชาที่เสนอมาอย่างเข้มข้น

การให้ถ้อยแถลงทางวาจาของทีมทนายความฝ่ายไทยต่อศาลโลก รอบสุดท้าย คดีเขาพระวิหาร ได้เริ่มขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ศ.อแลง แปลเลต์ ทนายความฝ่ายไทย ขึ้นชี้แจงเป็นคนแรก ซึ่งชี้ให้เห็นว่าศาลไม่มีอำนาจในการตีความในคดีเดิมอีก เนื่องจากกัมพูชาไม่มีเหตุผลที่มีน้ำหนักในการร้องขอให้ศาลตีความ เพราะในคดีเดิมไม่มีเนื้อหาเรื่องเส้นแบ่งเขตแดน ในแผนที่ ภาคผนวก 1 หรือ 1 : 200,000 ที่ศาลเคยปฏิเสธที่จะตัดสินไปแล้ว

รวมถึงยืนยันว่า ไทยได้ปฏิบัติตามคำตัดสินในบทปฏิบัติการทุกประการเรื่องการถอนทหาร ขณะเดียวกันสมเด็จพระนโรดม สีหนุ อดีตกษัตริย์ของกัมพูชา ไม่ได้ทักท้วงมติ ครม.ในการขึงรั้วลวดหนามรอบปราสาท ว่าเป็นแค่พื้นที่เล็กน้อย 2 - 3 เมตรเท่านั้น

ส่วนทางด้าน น.ส.อลินา มีรอง ทนายความของฝ่ายไทย ระบุอย่างชัดเจนว่า กัมพูชา ต้องการเปลี่ยนชื่อคำร้อง ให้ศาลตีความของเส้นเขตแดน พร้อมทั้งยืนยันว่า ไทยไม่ได้มีการปลอมแปลงแผนที่ใหญ่ หรือ Big Map ตามที่กัมพูชากล่าวหา เพราะไม่มีใครสามารถสร้างแผนที่ขึ้นมาใหม่ได้โดยง่าย แต่ศาลให้ดึงออกมาจากแผนที่ใหญ่ และผู้พิพากษาเองก็ใช้แผนที่นี้ประกอบการพิจารณามาโดยตลอด

ทั้งนี้จากการถ่ายทอดเส้นในแผนที่เก่าในภาคผนวก 1 มาลงแผนที่ใหม่นั้น จำเป็นต้องเอาหลักความเป็นจริง คือ ยึดเส้นเขตแดนตามหลักภูมิศาสตร์ตามธรรมชาติ เช่น ภูเขา แม่น้ำ หรือ หลักสันปันน้ำ แต่แผนที่แผ่นที่ 3 และ 4 ของกัมพูชาทำออกมาคลาดเคลื่อนกับความเป็นจริง คลาดเคลื่อนจากหลักสภาพภูมิศาสตร์ทั้งหมด และยังปฏิเสธที่จะยึดตามหลักสันปันน้ำ ดังนั้น ถือว่า กัมพูชาไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงสนธิสัญญาในการแบ่งเส้นเขตแดนสันปันน้ำในปี 1904 และปี 1908 และจากการที่กัมพูชายึดแผนที่ในภาคผนวก 1

ต่อมา ศ.โดนัลด์ แม็คเรย์ อีกหนึ่งทนายฝ่ายไทย ก็ขึ้นมาย้ำเรื่องการที่กัมพูชาพยายามผูกโยงคำพิพากษาวรรคแรกกับวรรคที่สอง โดยวรรคแรกบอกว่าให้ปราสาทพระวิหารตั้งอยู่บนพื้นที่อธิปไตยของกัมพูชา และด้วยเหตุนี้ถือเป็นการตอกย้ำจุดยืนอีกจุดของไทย ที่ว่ากัมพูชาพยายามจะให้เรื่องเส้นเขตแดน กับเรื่องพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารเป็นเรื่องเดียวกัน แต่จริงๆ 2 สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน และศาลไม่สามารถตีความให้สองสิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวกันได้

ซึ่งหลังจากการให้ถ้อยแถลงของฝ่ายไทยเสร็จสิ้นลง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะได้มีการโทรศัพท์ทางไกล ไปขอบคุณคณะทำงานทีมกฎหมายฝ่ายไทย ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook