ล่า จับร.ต.ต.ทองหล่อ จับสาวลาวล็อกมืดขืนใจ

( เมื่อ 24 เม.ย ) พ.ต.ท.สมภพ สุภาพร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมกำลังนำหมายศาลจ.สมุทรปราการ รุดไปสน.ทองหล่อ เพื่อจับกุม ร.ต.ต.ชาตรี สืบสมาน อายุ 53 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 51 เขตบ้านบาตร แขวงป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับ แต่คนร้ายไหวตัวหลบหนีก่อนเจ้าหน้าที่ไปถึง ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.วันที่ 21 เม.ย.เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่งพา น.ส.นัท(นามสมมติ) และแฟนหนุ่ม ทั้งสองเป็นลูกจ้างสัญชาติลาวเข้าแจ้งความสภ.เมืองสมุทรปราการว่า ถูกคนขับรถแท็กซี่อ้างเป็นตำรวจบังคับให้แฟนหนุ่มลงรถกลางทาง ก่อนนำน.ส.นัทใส่กุญแจมือไพล่หลังไปข่มขืนตลอดทั้งคืนในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ เขตอ.เมืองสมุทรปราการ

น.ส.นัทให้การว่า ช่วงเวลา 15.00 น.วันเกิดเหตุตนและแฟนว่าเหมารถแท็กซี่สีเขียวเหลือง ทะเบียน มง-8929 กทม. จากที่ทำงานย่านพุทธมณฑลให้ไปส่ง จ.ระยองโดยใช้ทางด่วน ขณะที่รถแท็กซี่วิ่งมาถึงทางลง ถ.สุขุมวิทใกล้พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ คนขับแท็กซี่เลี้ยวรถลงด้านล่างจากนั้นไล่แฟนลงจากรถ ก่อนนำกุญแจมือมาล็อกแขนตนแบบไพล่หลัง จากนั้นพาเข้าห้องอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใกล้ทางลงทางด่วน ลงมือข่มขืนตลอดทั้งคืนโดยที่ยังล็อกกุญแจมือตนไพล่หลังตลอดเวลา จนถึง 10.00 น.ของวันรุ่งขึ้นจึงพาไปส่งยังร้านก๋วยเตี๋ยวที่ทำงานอยู่ โดยคนร้ายบอกว่าเป็นนายตำรวจอยู่สน.ทองหล่อ พร้อมกับจดชื่อและเบอร์โทร.ให้ไว้ และข่มขู่ไม่ให้บอกใคร

ภายหลังรับแจ้งความเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทะเบียนรถแท็กซี่ดังกล่าว พบชื่อผู้ครอบครองตรงกับชื่อที่คนร้ายให้ไว้กับผู้เสียจริง จึงค้นข้อมูลจากทะเบียนราษฎรพบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นตำรวจจริง ก่อนให้ผู้เสียหายชี้รูปภาพปรากฏว่าชี้ได้อย่างแม่นยำ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมหลักฐานออกหมายจับ

พ.ต.ท.สมภพ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนสภ.เมืองสมุทรปราการประสานพ.ต.อ.สัมฤทธิ์ เกตุแย้ม พงส.ผทค.สน.ทองหล่อ ผู้บังคับบัญชาของนายตำรวจคนดังกล่าวแล้ว เพื่อให้ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว โดยผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นจะไม่เข้าไปยุ่งกับคดี ปล่อยเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ หากพบว่าผิดจริงก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมาเวลา 16.00 น.ผู้ต้องหาติดต่อขอเข้ามอบตัวกับพ.ต.ท.สมภพ ในวันที่ 25 เม.ย.เวลา 14.00 น.ที่สภ.เมืองสมุทรปราการ เบื้องต้นตั้งข้อกล่าวหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยทรมานหรือทารุณโหดร้ายหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย