ภราดรเชื่อยิงปัตตานี6ศพแค่ล้างแค้นไม่เกี่ยวถกBRN

ภราดรเชื่อยิงปัตตานี6ศพแค่ล้างแค้นไม่เกี่ยวถกBRN

ภราดรเชื่อยิงปัตตานี6ศพแค่ล้างแค้นไม่เกี่ยวถกBRN
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เปิดเผย สำนักข่าว INN ถึงเหตุการณ์กราดยิงร้านขายของชำใน จ.ปัตตานี มีผู้เสียชีวิต 6 ศพ ว่า ไม่เกี่ยวข้อง และไม่ใช่การตอบโต้การพูดคุย ระหว่างไทยกับ BRN เมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา และไม่ได้เป็นการกดดันให้ไทยรับ 5 ข้อเสนอของกลุ่ม BRN ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเบื้องต้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เชื่อว่าเป็นการล้างแค้น เนื่องจากในที่เกิดเหตุ พบป้ายที่มีข้อความในลักษณะที่ต้องการแก้แค้น อย่างไรก็ตาม ต้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงก่อนส่วนการเข้าหารือที่ศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศปก.กปต. นั้น อยู่ระหว่างการประสานกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ปัตตานีตรึงกำลังหลังเหตุยิงชาวบ้านดับ6 บรรยากาศในพื้นที่ จ.ปัตตานี โดยทั่วไปประชาชนออกมาใช้ชีวิตอย่างปกติ ในท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยจากกำลังเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวดและเป็นพิเศษกว่าที่ผ่านมา หลังจากคนร้ายกราดยิงใส่ร้านชำ เลขที่ 17/12 หมู่ 5 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส 1 ราย ผู้เสียชีวิตคือ นายสมพร พงศ์ธัญญะวิริยะ นายมะรูดี การี นายวิเชียร เฉลิมจิตรอุทัย นายโกศล พันธ์สืบน้อย นายสมาน เอียงมา เป็นเจ้าของร้าน และ ด.ช.จักรกฤษณ์ เอียงมา บุตรชายของเจ้าของร้าน ส่วนผู้บาดเจ็บ คือ นายอดุลย์ ดวงแก้ว กระสุนถูกบริเวณแขนและขา อาการสาหัส นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเมืองปัตตานี จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ตึงกำลังหนาแน่นตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ เพื่อเฝ้าระวังเหตุร้ายที่อาจจะเกิดจขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง 'ปณิธาน'ยันไทยเสียท่าBRNชิงยื่น5ข้อนำแนะปรับกลยุทธ์ นายปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการพูดคุยระหว่างรัฐบาลไทย กับขบวนการบีอาร์เอ็น ว่า ขณะนี้ฝ่ายไทยไม่ได้เปรียบในการพูดคุย เพราะเป็นช่วงที่จัดระบบ เตรียมการก่อนเจรจา และไม่ควรนำมาเป็นเงื่อนไขการชิงความได้เปรียบเสียเปรียบ แต่ทางด้านขบวนการบีอาร์เอ็น ได้ดำเนินการเชิงรุก เสนอเงื่อนไข 5 ข้อ เป็นการผลักดันให้ฝ่ายรัฐบาลไทยเข้าสู่กระบวนการเจรจา ส่วนเงื่อนไขทั้ง 5 ขั้น นายปณิธาน กล่าวว่า ไม่ควรยอมรับ เพราะยังไม่ถึงเวลาที่เข้าสู่กระบวนการเจรจา เงื่อนไขทั้ง 5 ข้อ ตามที่เสนอมา และยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการลดความรุนแรง อย่างไรก็ตาม อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวแนะนำรัฐบาล ว่า ต้องปรับยุทธศาสตร์ การทำงานร่วมกันต้องเป็นเอกภาพ ควรมีหัวหน้าคณะทำงานที่มีประสบการณ์มากกว่านี้ ควรมีผู้เชี่ยวชาญในการพูดคุย และที่ต้องปรับกลยุทธ์ให้ทันขบวนการบีอาร์เอ็น ทั้งนี้ การเลือกตั้งของประเทศมาเลเซีย จะไม่มีผลกระทบต่อการพูดคย แต่หากมีการเปลี่ยนขั้วการเมืองของมาเลเซีย คงต้องปรับกระบวนการพูดคุยตามด้วย ยะลา คุมเข้มทุกตารางนิ้ว - ยิงหนุ่มธารโตดับ บรรยากาศทั่วไปในพื้นที่ จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ยังคงคุมเข้มทุกพื้นที่ เนื่องจากพื้นที่ใกล้เคียงยังคงเกิดเหตุการณ์อยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรณีเหตุการณ์คนร้ายยิงร้านขายของชำ ที่ จ.ปัตตานี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย จากเหตุการณ์ดังกล่าว ประชาชนต่างสงสัยว่า เจ้าหน้าที่บ้านเมืองไปไหนกันหมด ทำไมไม่สามารถดูแลความปลอดภัยประชาชนได้ ขณะที่มีกำลังอยู่เต็มพื้นที่ ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ จ.ยะลา เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดและชนิด ยิง นายมะ แบเลาะ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 ม.3 บ้านซาไก ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา ซึ่งผู้ตายก็เป็นบุคคลไม่ค่อยสมประกอบ เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนถึงสาเหตุการถูกทำร้ายจนเสียชีวิตในครั้งนี้ต่อไป    ทหารปัตตานีรวบผู้ต้องสงสัย 1 ราย พ.ท.ภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจ 21 ปัตตานี นำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย บริเวณบ้านเช่าห้องแถว บ้านบานา อ.เมือง จ.ปัตตานี พบกระสุน M16 จำนวน 13 ปลอกพร้อมเชิญตัวผู้ต้องสงสัยได้อีก 1 ราย เพื่อนำสอบสวนและสืบสวนขยายผลต่อไป และอาจจะเกี่ยวโยงกับเหตุการณ์กราดยิงใส่ร้านชำในพื้นที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อคืนที่ผ่านมา หรือไม่ อยู่ระหว่างการสอบสวน และสืบสวน ของ เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 21 'ทักษิณ'FBขอทุกกลุ่มร่วมถกมั่นคงทำใต้สงบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟสบุ๊ก Thaksin Shinawatra ว่า เมื่อวันที่ 27 เมษายน ได้บินไปถึงกัวลาลัมเปอร์ พบกับ นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรี และพบกับ นายนาจิบ ราซะก์ นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 28 เมษายน โดยได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่อง ASEAN และสังเกตการณ์เลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซีย ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 5 พ.ค.นี้ ซึ่งเท่าที่ประเมินทางพรรค UMNO ก็น่าจะชนะอย่างไม่มีปัญหา เหลือเพียงว่า จะถึง 2 ใน 3 หรือไม่ ขึ้นอยู่กับรัฐที่เป็น Swing Vote บางรัฐ ซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนไทย นอกจากนั้น ยังได้พบกับนักธุรกิจมาเลเซียที่สนใจไปลงทุนในไทย อีก 4-5 ราย และในวันที่ 29 เมษายน ก่อนจะเดินทางมายังฮ่องกง ก็ได้พบกับครูสอนศาสนา ซึ่งอยู่ทางภาคใต้ของไทย จึงได้ขอความร่วมมือช่วยกันทำให้ภาคใต้สงบ โดยขอให้เชิญทุกกลุ่มมาพูดคุยกับคณะของสภาความมั่นคง เพื่อประสานความเข้าใจ และช่วยกันพัฒนาประเทศให้เกิดความผาสุก   
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook