ไฟไหม้ร้านค้าสวนจตุจักรใกล้BTSวอด20ห้อง-คนหนีวุ่น
รายงานข่าวแจ้งว่า ได้เกิดเพลิงไหม้ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่กู้ภัย รายงานว่า จุดเกิดเหตุบริเวณ ตลาดนัดสวนจตุจักร ถนนพหลโยธิน โครงการ 6 ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟฟ้า บีทีเอส หมอชิต โดยเพลิงโหมลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นร้านค้าที่ปลูกติดกันเป็นแถวจำนวนมาก และส่วนใหญ่ก็ยังปิดบริการอยู่เนื่องจากเป็นช่วงเช้า ทำให้ยังไม่มีคนมาจับจ่ายซื้อของ ล่าสุด เพลิงได้โหมไหม้ไปกว่า 20 ล็อคร้านค้าแล้ว เจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงกว่า 10 คัน เข้าสกัด และตำรวจได้ทำการปิดถนนกำแพงเพชร 3 เพื่อให้รถดับเพลิงเข้าพื้นที่ได้ง่ายขึ้น ซึ่งยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต และยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ ล่าสุด นายจรัสพันธ์ วัชโรทัย ผอ.สำนักงานตลาดนัดจตุจักร เปิดเผย ความคืบหน้า กรณีเหตุเพลิงไหม้ภายในตลาดนัดสวนจตุจักร โครงการ 6 ล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้แล้ว โดยขณะนี้กำลังฉีดน้ำเพื่อดับเถ้าถ่านอยู่ รายงานเบื้องต้นทราบว่า ไฟไหม้ร้านค้าไปประมาณ 10-15 คูหา ส่วนใหญ่เป็นร้านขายเสื้อผ้าสำเร็จรูป แต่อย่างไรก็ตามความเสียหายและสาเหตุเพลิงไหม้นั้น ต้องรอให้เพลิงสงบสนิท จึงจะสามารถตรวจสอบได้อีกครั้งอย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กู้ภัย รายงานว่า เพลิงได้โหมไหม้ร้านค้าไป 3 แถว ๆ ละ 12 ร้าน รวมเป็น 36 ร้านค้า และมีผู้บาดเจ็บจำนวน 1 ราย จากการสำลักควัน คืบไฟไหม้สวนจตุจักร วอด 36 คูหา เสียหาย 20 ล. ความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ภายในร้านค้า ตลาดนัดสวนจตุจักร ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะนี้ล่าสุด เพลิงได้สงบลงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังต้องใช้น้ำดับเพื่อป้องกันการปะทุ พร้อมกันนี้ ได้กันพื้นที่ห้ามไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่บริเวณภายในเด็ดขาดทั้งนี้ จากการตรวจสอบ พบว่า ต้นเพลิงเกิดจากแผงค้าเลขที่ 242 ซอย 61/2 โครงการ 6 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านขายเสื้อผ้าสำเร็จรูป ถูกไฟไหม้เสียหายรวมทั้งหมด 36 ห้อง มูลค่าความเสียหายในเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท นอกจากนี้ มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการเข้าปฏิบัติหน้าที่ อีก 2 นายขณะที่ นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกล่าวว่า จากการสอบถามพยานแวดล้อม ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นประกายไฟและมีไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว จึงสันนิษฐานว่า เกิดจากเหตุไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการหารือ เพื่อพิจารณาหามาตรการป้องกันต่อไป