มทภ.4สั่งเสริมกำลังตรวจจุดอ่อนรปภ.ใต้ยันดูแลปชช.เต็มที่
คนร้ายซุ่มยิง ก่อนยิงปะทะทหารพรานแม่ลาน ปัตตานี ทำให้ทหารเสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ แม่ทัพภาค 4 สั่ง ทุกหน่วยกองกำลัง ตรวจสอบจุดอ่อนแผนรปภ. ด้าน ''พล.อ.อ.สุกำพล'' ยัน ไทย ไม่เป็นรองBRN ระบุ ข้อเสนอทุกอย่าง ต้องอยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญ
พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ว่า ขณะนี้ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยกองกำลัง ตรวจสอบจุดอ่อนในแผนรักษาความปลอดภัยทุกแผนอย่างละเอียด ตรงไหนเป็นเป้าหมาย เป็นจุดอ่อน ต้องดำเนินการแก้ไขปรับปรุง ลดความเสี่ยงลงนั้นลง นอกจากนี้ ในช่วงนี้มีกำลังพลบางส่วนเข้ามาพื้นที่ใหม่ ซึ่งยังขาดประสบการณ์การทำงาน จึงมีการให้ฝึกเพิ่มเติม และให้ทำงานร่วมกับผู้มีประสบการณ์ เพื่อลดการสูญเสียอันเกิดจากความประมาท หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์
แม่ทัพภาคภาคที่ 4 กล่าวต่อว่า ในส่วนของขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ยังดีอยู่ โดยทางเจ้าหน้าที่ทุกนายเข้าใจในสถานการณ์ดีว่า ทางฝ่ายตรงข้ามต้องการอะไร ทางเจ้าหน้าที่จะพยายามเต็มที่ในการยับยั้ง และดูความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มที่
ปัตตานีป่วนอีก!โจรใต้จ่อยิงทหารตาย2นาย
ได้เกิดเหตุคนร้ายสุ่มยิงเจ้าหน้าที่ทหารพรานร้อย ร.2207 ปัตตานี ขณะลาดตระเวนเส้นทาง เหตุเกิดบริเวณใต้สะพาน หมู่ 6 ต.แม่ลาน อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี จนเกิดการปะทะกันนาน กว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ หลังเสียงปืนสงบ เจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียชีวิต 2 นาย คือ ส.ท.รณวิทย์ เสียงสาย และ อส.ทพ.เชียงศักดิ์ พุทรา ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงจัดกำลังติดตามไล่ล่าคนร้ายอย่างต่อเนื่อง สำหรับความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
ปัตตานี เพิ่มความเข้ม - โจรใต้จ้องป่วน
บรรยากาศในพื้นที่ จ.ปัตตานี หลังเกิดเหตุความไม่สงบอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง
ของจังหวัด เพิ่มความเข้มในการดูแลรักษาความสงบและความปลอดภัยให้กับครูและโรงเรียน อย่างเข้มงวดและเป็นพิเศษ โดยเน้นหนักในการลาดตระเวนและเฝ้าบริเวณโรงเรียน และตามเส้นทางครู ที่ต้องเดินทางไปและกลับโรงเรียน เพื่อเฝ้าระวังเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งโรงเรียน ขณะที่ หน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงยังคงแจ้งเตือนมาว่า กลุ่มก่อความไม่สงบอาจก่อเหตุรุนแรงเพื่อทำลายบรรยากาศการเจรจาในวันที่ 13 มิ.ย. นี้ โดยเตรียมก่อเหตุกับทุกเป้าหมายที่อ่อนแอ อีกทั้ง ได้นำอาวุธและยุทโธปกรณ์ในการก่อเหตุไปวางตามจุดต่าง ๆ พร้อมก่อเหตุทุกช่วงที่มีโอกาสและจังหวะ จึงทำให้ทางกำลังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ จ.ปัตตานี มีการตรึงกำลังอย่างแน่นหนาตลอด 24 ชั่วโมง
'สุกำพล' ชี้ สิ้นปีสถานการณ์ใต้จะดีขึ้น
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการเกิดเหตุรุนแรงในภาคใต้ว่า ภาพรวมเท่าที่ดูหน้าที่ของตำรวจ ทหาร หรือ หน่วยความมั่นคง เป็นเหมือนมีหน้าที่ล่อเป้า ซึ่งต้องทำเพราะมีภารกิจต้องคุ้มครองครู พระ ซึ่งทำเป็นเวลา โอกาสที่จะเพลี่ยงพล้ำมีมาก เพราะแต่ละวันเจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจจำนวนมากและถ้ากำลังตำรวจ อส. ลงไปช่วย ก็จะเข้มแข็งมากขึ้น ก็พยายามป้องกันไม่ให้เกิด แต่ทางฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบ ก็เปลี่ยนวิธีอยู่ตลอด ซึ่งทหารมีเป้าหมายที่จะต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้ลดความรุนแรงลง ทั้งนี้ ก็ต้องทำด้วยกฎมายซึ่งทำยากก็ต้องค่อย ๆ ทำ และอดทนต้องใช้เวลา อย่าใจร้อน วันนี้จุดแข็งคือชาวบ้านเห็นว่าเราทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดแล้ว
อย่างไรก็ตาม ต้องขอเวลาอีกสักนิด สิ้นปีก็คงจะดีขึ้น ซึ่งทหารมีแผนและมีตารางเดินของตัวเอง ทหารเป็นฝ่ายสูญเสีย ก็ยังต้องนิ่ง เรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่และมั่นใจว่าทำมาถูกทางแล้ว และขอขอบคุณคำแนะนำทั้งหลายที่มีเข้ามาด้วย
นอกจากนี้ พล.อ.อ.สุกำพล ยังเปิดเผยถึงการพูดคุยกับขบวนการบีอาร์เอ็น ในวันที่ 13 มิถุนายน ว่า ขณะนี้ การพูดคุยก็ดำเนินไป แต่กับทางทหารก็ขนานกันอยู่ ไม่เกี่ยวข้องกัน เมื่อใดที่การพูดคุยมาเกี่ยวกับการปฏิบัติการ ต้องมาพูดคุยกันอีกที ทางกลุ่มที่ไปพูดคุยรู้ว่าจะต้องคุยอย่างไร เพียงแต่ทาง บีอาร์เอ็น มารุกถามก่อน
โดยการพูดผ่านยูทูป ไม่ใช่ว่าทางกลุ่มบีอาร์เอ็น บอกอะไรมาไทยต้องไปสนองทั้งหมด ทั้งนี้ ประเทศไทย ไม่ได้เป็นมวยรองบ่อนขนาดนั้น ต้องค่อย ๆ ทำไป และที่ขอมานั้น ถ้าไม่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ไทยก็คงทำให้ไม่ได้
ส่วนการสร้างกำแพงถาวร ระหว่างไทยกับมาเลเซีย ยาว 600 กิโลเมตร นั้น พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า เป็นวิธีที่ดี แต่ถ้าได้รับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านที่ดี ก็เท่ากับได้กำแพงที่ดีเหมือนกัน ซึ่งทางมาเลเซีย ก็เคยประกาศเจตนารมณ์ที่ช่วยไทยในเรื่องการไม่ให้ที่พักพิงและเรื่องการถือ 2 สัญชาติ แต่ตอนนี้ มาเลเซีย ก็เพิ่งตั้งรัฐบาลใหม่ ยังไม่ถึงเวลาที่จะคุยกัน ถ้าคุยกันอย่างจริงจัง ก็คงไม่ต้องสร้างกำแพง
เลขาสมช.ระบุเหตุรุนแรงใต้โยงคุย13มิ.ย.นี้
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึง การเตรียมความพร้อมในการหารือกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ โดยยอมรับว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ มีความเชื่อมโยงกับการหารือดังกล่าว เนื่องจาก ยังมีเครือข่ายของกลุ่มบีอาร์เอ็น บางส่วนที่ไม่ต้องการให้เกิดการหารือระหว่างกัน ซึ่งได้ย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่เคยใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา พร้อมกันนี้ พล.ท.ภราดร ยังกล่าวถึงการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในบางพื้นที่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะครบกำหนด ในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ ซึ่งขณะนี้ กอ.รมน. ยังอยู่ในระหว่างการประเมินสถานการณ์
"ณ ตอนนี้ กระบวนการก่อเหตุกับกระบวนการพิจารณาในพื้นที่ ซึ่งเราจะครบกำหนด พ.ร.ก.ครบกำหนด ในวันที่ 19 มิถุนายน เพื่อจะมีการพิจารณาถึงเรื่องนี้ ใช่ครับ ยังดูในตอนนี้ กำลังดูในทางสถิติแล้ว ก็ดูในเหตุผล ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง กอ.รมน. กำลังประเมินให้อยู่"