สายฟ้าฟอร์มเทพเรียงหน้ายิงฉลามเละ4-1รั้งรองจ่าฝูงแน่น+คลิป

ฟุตบอล : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังคงรักษาฟอร์มแรงอย่างต่อเนื่องเมื่อจัดการบุกไปปราบซ่า ชลบุรี เอฟซี ถึงถิ่น 4-1 โดยได้ประตู ธนะศักดิ์ ศรีใส, ฆาเบียร์ ปาตินโญ่ และ เอกชัย สำเร และ คาร์เมโล่ กอนซาเลส ก่อนที่ ฉลามชล จะได้ นูรูล ศรียานเก็ม ลงมายิงตีไข่แตกแต่ไม่ทันการ พร้อมกับคว้า 3 แต้มรั้งรองจ่าฝูงได้อย่างเหนียวแน่น ส่วน ฉลามชล ต้องอกหักหลังไม่มีแต้มในเกมนี้

การแข่งขันฟุตบอล "โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก" ที่สนาม ชลบุรี สเตเดี้ยม เป็นการพบกันของสองทีมมหาอำนาจของฟุตบอลไทยอย่าง "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับที่ 3 ของตาราง เปิดรังรับการมาเยือน "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูงในขณะนี้ โดยวันนี้ทางฝั่งของเจ้าบ้านจัดทัพใหญ่ลงสนามทั้ง สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, พิภพ อ่อนโม้ และ ติอาโก้ คุนญ่า ลงล่าตาข่ายในแดนหน้า ส่วนทีมเยือนก็จัดชุดใหญ่เช่นเดียวกันทั้ง ออสมาร์ อิบาเนซ, สุเชาว์ นุชนุ่ม และ ฆาเบียร์ ปาตินโญ่ คอยรับหน้าที่สอยประตู พร้อมกันนี้ทีมงานผู้ตัดสินยังเป็นชาวต่างชาติทั้งหมดอีกด้วย

เริ่มเกมการแข่งขันในครึ่งเวลาแรก เพียงแค่ 2 นาทีแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นประตูก่อนทันทีจากจังหวะฟรีคิกของ จิรวัฒน์ มัครมย์ ที่เปิดแบบกึ่งยิงกึ่งผ่านมาที่หน้าปากประตูก่อนที่จะโดน สินทวีชัย หทัยรัตนกุล นายด่านฉลามชลตะครุบเอาไว้ได้

เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 17 เกมต้องหยุดลงครู่หนึ่งจากจังหวะการเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรกของ บุรีรัมย์ ที่ส่ง ไค ฮิราโนะ ลงมาแทน ประทุม ชูทอง ที่เจ็บ แต่พอดาวเตะจากแดนปลาดิบเดินลงไปในสนาม กลับโดน "บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบนายใหญ่ของทีมเรียกให้กลับออกมา เรียกเสียงโห่ดังลั้นสนาม ชลบุรี สเตเดี้ยม

ต่อมา น.25 เสียงเชียร์ทั่วสนามชลบุรีสเตเดี้ยมต้องเงียบกริบเมื่อ ธีราธร บุญมาทัน เปิดฟรีคิกเข้าหัวของ ออสมาร์ อิบาเนซ โหม่งเช็ดบอลเปลี่ยนทางหนึ่งจังหวะก่อนที่จะลอดหว่างขาของ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล และเป็น ธนะศักดิ์ ศรีใส ตามซ้ำดาบสองโล่งๆ เข้าประตูไปอย่างง่ายดาย พร้อมส่งให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกนำ ชลบุรี 1 - 0

ให้หลัง 2 นาที ชลบุรี เอฟซี ได้โอกาสตีเสมอทันควันเมื่อ อดุล หละโสะ ได้ลองส่องไกลระยะเกือบ 30 หลาบอลพุ่งแรงแต่ก็ยังได้เสียวเมื่อบอลเหินแค่ข้ามคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย เกมเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายคราวนี้เป็นโอกาสของ "แชมป์เซราะกราว" บ้างเมื่อ ไค ฮิราโนะ สบโอกาสลักไก่ยิงไกลด้วยขวาส่งบอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น

หลังจากนั้นทั้งสองทีมจะพยายามเปิดเกมรุกใส่กันอย่างต่อเนื่อง และในช่วงทดเจ็บ ชลบุรี เอฟซี พลาดการได้ประตูตีเสอมอย่างน่าเสียดายเมื่อ ติอาโก้ คุนญ่า ตามซ้ำจังหวะยิงของ ชลทิตย์ จันทคาม เข้าประตูไปแล้ว แต่ผู้กำกับเส้นยก

ธงเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน แต่ผู้เล่น ชลบุรี เอฟซี ไม่เห็นด้วยเข้าไปรุมประท้วงผู้ตัดสินแต่ก็ไม่เป็นผล และจนแล้วจนรอดผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดจบ 45 นาทีแรก ส่งผลให้ ชลบุรี เอฟซี โดน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกมานำไปก่อน 1 - 0

กลับมาสู้กันต่อในครึ่งเวลาหลัง ชลบุรี เปลี่ยน 2 ผู้เล่นโดนถอดเอา แอนเดอร์สัน ดอสซานโตส, ชลทิตย์ จันทคาม  ออก และส่ง อาทิตย์ สุนทรพิธ กับ อืรฟาน บัชดิม ลงมาเล่นแทน แต่กลับเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายได้ประตูออกหนีห่างออกไปเป็น 2 - 0 จากจังหวะโต้กลับเร็วและเป็น ฆาเบียร์ ปาตินโญ่ หัวหอกลูกครึ่งฟิลลิปปินส์-สเปน ชาร์จจ่อๆ ในกรอบหกหลาบอลตุงตาข่ายอย่างเด็ดขาด

ผ่าน 1 ชม.ของเกม ชลบุรี เอฟซี ได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะเล่นเตะมุมสั้นและเป็น อาทิตย์ สุนทรพิธ ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนที่จะยิงด้วยซ้ายส่งบอลหลุดกรอบออกไปอีกครั้ง ให้หลัง 3 นาที ชลบุรี ได้ยิงอีกครั้งคราวนี้เป็น ติอาโก้ คุนญ่า หลุดเข้าไปยิงด้วยขวาแต่กลับยิงแรงเกินไปบอลข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้น

ต่อมา น.78 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้ประตูที่ 3 เมื่อ คาร์เมโล่ กอนซาเลซ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษทางฝั่งขวาก่อนจะเปิดกลับเข้ามาให้กับ เอกชัย สำเร วิ่งมาชาร์จผ่านตัวนายด่าน ชลบุรี เอฟซี เข้าไป ผ่านมาถึง น.80 ชลบุรี เอฟซี

ได้ประตูตีไข่แตกมาเป็น 1 - 3 จากจังหวะโยนยาวให้กับ นูรูล ศรียานเก็ม หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดด้วยขวาบอลผ่านมือ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เข้าไปอย่างสวยงาม แต่อย่างไรก็ตาม บุรีรัมย์ มาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะในช่วงทดเวลาลาดเจ็บจาก คาร์เมโล่ กอนซาเลซ เป็น 4 - 1

กลับมาสู้กันต่ออีกไม่นานผู้ตัดสินก้เป่านกหวีดยาวจบเกมการแข่งขันปรากฎว่า บุรีรัมยื ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ ชลบุรี เอฟซี ไปได้ 4 - 1 ถึงถิ่น ชลบุรี สเตเดี้ยม คว้า 3 แต้มพร้อมกับยังรั้งรองจ่าฝูงไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ส่วน ฉลามชล ไม่ชนะเกมนี้ทำให้ฟอร์มเริ่มสะดุด 2 เกมหลังสุดยังสะกดคำว่าชนะใครไม่เป็น

รายชื่อตัวจริงของทั้งสองทีม

ชลบุรี เอฟซี : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล (GK), แอนเดอร์สัน ดอสซานโตส (อาทิตย์ สุนทรพิธ), ชลทิตย์ จันทคาม (อืรฟาน บัชดิม), สุทธินันท์ พุกหอม, โฟเด้ ไดอากิเต้, เจษฎากรณ์ เหมแดง, อนุชา กิจพงษ์ศรี, อดุล หละโสะ (นูรูล ศรียานเก็ม), คาซูโตะ คูชิดะ, พิภพ อ่อนโม้ (C), ติอาโก้ คุนญ่า

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK), ธีราทร บุญมาทัน, ประทุม ชูทอง (ไค ฮิราโนะ) (เอกชัย สำเร), ออสมาร์ อิบาเนซ, ธนะศักดิ์ ศรีใส, คาร์เมโล่ กอนซาเลซ, สุเชาว์ นุชนุ่ม (C)(อนาวิน จูจีน), จิรวัฒน์ มัครรมย์, สุรัตน์ สุขะ, ฆาเบียร์ ปาตินโญ่, สุรีย์ สุขะ

 

ชลบุรี เอฟซี 1 - 4 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด TPL

 

ส่วนผลคู่อื่นๆ

สุพรรณบุรี เอฟซี ชนะ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 3-1
ราชบุรี มิตรผล เอฟซี แพ้ สงขลา ยูไนเต็ด 0-1
โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี ชนะ สมุทรสงคราม เอฟซี 2-1
อาร์มี่ ยูไนเต็ด ชนะ เชียงราย ยูไนเต็ด 3-2
แบ็งค็อก ยูไนเต็ด ชนะ ชัยนาท เอฟซี 3-2
ทีโอที เอสซี เสมอ บางกอกกล๊าส เอฟซี 1-1
บีอีซี เทโรศาสน ชนะ อินทรีเพื่อนตำรวจ 3-2