10 จุดเฝ้าระวัง พื้นที่เสี่ยงรอบกรุงเทพฯ

แม้จะมีคำยืนยันจากฝ่ายความมั่นคงว่าเหตุระเบิดปากซอยรามคำแหง 43/1 ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงไม่โยงสถานการณ์ทางการเมือง แต่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้เตรียมความพร้อมและเฝ้าระวังพื้นที่ 10 จุดเสี่ยงดังนี้

จุดแรก เป็นจุดสำคัญ ศูนย์รวมการบริหารราชการแผ่นดิน คือ ทำเนียบรัฐบาล เขตดุสิต และจุดที่สองจะอยู่บริเวณใกล้เคียง คือ รัฐสภา จุดที่สาม ยังคงเป็นสถานที่ราชการ คือ ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ตั้งอยู่ในศูนย์ราชการเขตหลักสี่ จุดที่สี่ บ้านเอกอัครราชทูตและสถานทูต แม้ไม่ระบุประเทศชัดเจน แต่น่าจะเป็นประเทศสำคัญๆ รวมถึง บ้านประธานองคมนตรี บริเวณสี่เสาเทเวศร์ และต้องเฝ้าระวังทำเนียบองคมนตรี ที่ตั้งอยู่บริเวณกระทรวงการต่างประเทศเดิม จุดต่อมาคือ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จุดนี้จะมีประชาชนค่อนข้างพลุกพล่าน ซึ่งรวมถึงบริเวณโดยรอบแยกราชประสงค์ด้วย นอกจากนี้ ตำรวจยังระบุว่าศูนย์การค้าสำคัญๆ ก็จะเป็นจุดเสี่ยงเช่นกัน

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ยืนยันว่าอุปกรณ์ที่เก็บได้ในบริเวณที่เกิดเหตุไม่เหมือนกับอุปกรณ์ที่ใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นระเบิดแสวงเครื่องประกอบจากดินดำธรรมดา อานุภาพไม่รุนแรง แต่ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจากนี้จะเฝ้าพื้นที่อย่างเข้มข้น

ขณะเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาลได้เพิ่มกำลังเพื่อดูแลความปลอดภัย โดย พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่บอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด เป็นการเตรียมความพร้อมรับการเคลื่อนไหวการชุมนุมจากหลายกลุ่มการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มแพทย์ชนบทและอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นเร็วๆ นี้

อีกสถานที่สำคัญที่รัฐสภา ซึ่งจะมีการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ระหว่างวันที่ 29-31 พฤษภาคมนี้ ได้ประสานขอกำลังตำรวจ 300 นาย มาประจำการโดยรอบรัฐสภา ส่วนภายในอาคารให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดตรวจตราบุคคลเข้าออก ทั้งอาวุธและวัตถุระเบิด ซึ่งนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุซ้ำรอยกับซอยรามคำแหง 43/1 แน่นอน และรับประกันความปลอดภัยให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา เจ้าหน้าที่รวมถึงสื่อมวลชน แต่กำชับเจ้าหน้าที่ให้ทำงานเต็มอัตราห้ามป่วย ห้ามลา

นอกจากนี้ ได้ขอความร่วมมือจากผู้ที่มาติดต่อว่าอาจจะไม่ได้รับความสะดวก เพราะต้องคุมเข้มเพื่อความปลอดภัย และขอความร่วมมืออย่าพกอาวุธเข้ามาเด็ดขาด - สำนักข่าวไทย