DSIรู้ตัวเจ้าของรถหรูไฟไหม้แล้ว-จ่อสอบขนส่งศรีสะเกษ

DSIรู้ตัวเจ้าของรถหรูไฟไหม้แล้ว-จ่อสอบขนส่งศรีสะเกษ

DSIรู้ตัวเจ้าของรถหรูไฟไหม้แล้ว-จ่อสอบขนส่งศรีสะเกษ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ดีเอสไอ เผย ผลการตรวจสอบรถหรูไฟไหม้ รู้ตัวเจ้าของรถแล้ว จ่อเรียกมาสอบสวน เจ้าตัวหนีเตลิดหลังพบมีการสวมซากจริง รับ ศรีสะเกษ มีการรับจดทะเบียนรถแบบซิกแซกเร่งสอบ ล่าสุด 'ธาริต' เผย รับเป็นคดีพิเศษแล้ว

พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า คดีไฟไหม้รถหรู ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า รถลัมโบร์กีนี รุ่นกัลลาร์โด สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ถ 3278 กรุงเทพมหานคร ที่มีการนำแผ่นอะลูมิเนียมตอกหมายเลขตัวรถใหม่ปิดทับของเดิม ซึ่งหมายเลขตัวรถเดิมที่ติดมากับรถ คือ ZHWBE 37 S 07 LA 02560 ส่วนหมายเลขตัวรถใหม่ คือ ZHWGE 12 T 98 LA 06056 ซึ่งหมายเลขของตัวรถเดิมเลขนั้น ตรงกับเอกสารที่ดีเอสไอติดตามอยู่ว่า เป็นรถลัมโบร์กีนี สีขาว ที่มีบุคคลนำเข้ามาช่วงเดือนตุลาคม ปีที่ผ่านมา จำนวน 3 คัน ถือว่ามีการสวมซากชัดเจน ตามที่ดีเอสไอแกะรอยอยู่ ซึ่งในวันนี้ จะนำรายงานเสนอกับ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอ เสนอเป็นคดีพิเศษต่อไป

โดยเบื้องต้น ทราบตัวเจ้าของรถทั้งหมดแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นใคร ต้องรอให้รับเป็นคดีพิเศษก่อน โดยจะเสนอให้รวบเป็นคดีเดียวกันทั้งหมด เพื่อง่ายต่อการสืบสวนสอบสวน

สำหรับผู้ที่อยู่ในส่วนที่ต้องเรียกมาสอบสวนในคดีนี้ นอกจากเจ้าของรถแล้ว ที่ทราบว่ารู้ตัวและหลบหนีไปแล้ว ก็จะมีขนส่งจังหวัดศรีสะเกษ ที่รับจดแจ้งทะเบียน ว่าที่ผ่านมาจดแจ้งไปแล้วกี่คัน หรือผู้ที่ทำการขนส่งรถยนต์ดังกล่าว และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

 

รับ ศรีสะเกษ มีการรับจดทะเบียนรถแบบซิกแซกเร่งสอบ

พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบรถยนต์หรูที่ถูกเพลิงไหม้ในพื้นที่ สภ.กลางดง จ.นครราชสีมา ว่า หลังจากได้เข้าตรวจสอบข้อมูล องรถยนต์หรูดังกล่าวร่วมกับ สภ.กลางดง พบว่ารถยนต์ 1 ใน 6 คันนั้น คือ ลัมโบร์กีนี สีขาว เป็นรถยนต์ที่ตรงกับข้อมูลของดีเอสไอ ว่า เป็นรถที่เลี่ยงภาษีศุลกากร โดยการนำชิ้นส่วนเข้ามา เพื่อประกอบเป็นรถยนต์ เพื่อเลี่ยงภาษี เนื่องจาก รถยนต์หรูที่นำเข้าจากต่างประเทศนั้น จะต้องเสียภาษีสูงถึง 200% แต่หากมีการนำชิ้นส่วนเข้ามา เพื่อมาประกอบในประเทศ แล้วนำไปจดทะเบียน จะเสียภาษีแค่ 10% เท่านั้น ซึ่งการกระทำดังกล่าว ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร โดยในแต่ละปี มีผู้นำเข้ารถยนต์หรูในลักษณะเป็นรถจดประกอบ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ยังกล่าวยอมรับว่า ดีเอสไอมีข้อมูลว่าใน จ.ศรีสะเกษ นั้น มีการรับจดทะเบียนรถยนต์ที่มีลักษณะการซิกแซก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่า มีทั้งหมดกี่แห่ง

 

ตร.กลางดง ไม่กล้ายกรถหรูลงหวั่นพัง

พ.ต.อ.มาโนช เกิดขวัญ ผกก.สภ.กลางดง เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า หลังจากที่ทางดีเอสไอ มาตรวจสอบรถหรูที่ถูกไฟไหม้ เสียหายกว่า 100 ล้านบาท เมื่อวานนี้นั้น ทาง สภ.ท้องที่ จะยังไม่ยกรถหรูที่เหลืออยู่อีก 2 คัน ที่ยังไม่โดนไฟไหม้ ลงมาจากรถเทรเลอร์ลงมาตรวจสอบ เนื่องจากไม่มีเครื่องมือที่จะยกรถลงมาได้ และหวั่นว่าจะเกิดความเสียหายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งรถทั้งหมดนั้นราคาคันละกว่า 40 ล้าน จึงต้องรอให้ผู้บังคัญชาสั่งการมาเพื่อหารถมาเทียบนำรถลงมาต่อไป ส่วนหน่วยงานที่ติดต่อประสานมาอีก คือ กรมศุลกากร ที่จะมาทำการอายัดรถเอาไว้ตรวจสอบเพิ่มเติม หลังที่ ดีเอสไอ อายัดไปก่อนหน้านี้แล้ว

 


"ธาริต" เผย รับคดีรถหรูเป็นคดีพิเศษแล้ว

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึง กรณีไฟไหม้รถหรูที่ ต.หางดง อ.ปากช่อง
จ.นครราชสีมา ว่า ขณะนี้ทางดีเอสไอ ได้รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า เจ้าของรถลัมโบร์กีนี รุ่นกัลลาร์โด สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ถ 3278 กรุงเทพมหานคร คือ นางสุกัญญา สมบัติดี บริษัทนำเข้า คือ บริษัทจำกัด พีเอเอ็นเอ็กซ์เพรส และบริษัทที่แจ้งเป็นผู้ดำเนินการประกอบรถ คือ บริษัทธรรมะมอเตอร์ลิส จำกัด โดยมี นางพรพิมล เคหาฐาน เป็นเจ้าของบริษัท ซึ่งคาดว่ารถคันที่ไฟไหม้ดังกล่าว กำลังอยู่ในระหว่างทางการจะนำไปจดทะเบียนที่ จ.ศรีสะเกษ

ทั้งนี้ ยังพบอีกว่า มีรถต้องสงสัยที่คาดว่ามีการหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร และภาษีสรรพสามิต และได้ทำการจดทะเบียนไปแล้ว จำนวน 5,832 คัน โดยมีพื้นที่นายทะเบียนในการจดภาษี 21 จังหวัด ซึ่ง จ.ศรีสะเกษ มีการจดทะเบียนรถหรูไปแล้ว 19 คัน

ส่วนในกรณีที่ว่า มีลูกชายนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้น นายธาริต เปิดเผยว่า ในทางการข่าวมีการกล่าวถึงจริง แต่ในการตรวจสอบยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ยืนยันจะทำการตรวจสอบให้ถึงที่สุด พร้อมทั้งกล่าวว่า คดีหลีกเลี่ยงภาษีเป็นคดีที่อยู่ในความดูแลของดีเอสไออยู่แล้ว และคดีนี้ก็เป็นคดีที่ค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อน เกี่ยวข้องกับเงินภาษีจำนวนมหาศาล จึงไม่ได้เป็นการแย่งหน้าที่ของตำรวจแต่อย่างใด

 

 

 

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook