ครม. โยกซี10มท. อภินันท์ นั่งอธิบดีกรมประชา
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติโยก ซี 10 มหาดไทย ตั้ง 'วัลลภ พริ้งพงษ์' นั่งอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมตั้ง 'อภินันท์' นั่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์
การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยผลการประชุม ครม. ที่สำคัญ คือ การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ระดับ ซี 10 ในหลายตำแหน่ง อาทิ นายแก่นเพชร ช่วงรังษี อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) ย้ายไปเป็น รองปลัดกระทรวงมหาดไทย แล้วโยก นายวัลลภ พริ้งพงษ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปนั่งเป็นอธิบดี สถ. แทน ขณะเดียวกัน ยังมีการแต่งตั้ง นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ให้ นายอภินันท์ จันทรังษี ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ โดยตั้ง นายธงชัย ลืออดุลย์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ แทน
พร้อมกันนี้ ครม. ยังมีมติเห็นชอบ ตามที่ กระทรวงมหาดไทย เสนอ ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กู้เงินในประเทศ ภายในกรอบวงเงินรวม 5,848 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินลงทุนสำหรับการลงทุนในแผนงานระยะยาว จำนวน 5 แผนงาน โดยให้ทยอยดำเนินการกู้เงินตามความจำเป็นรายปีจนกว่าการดำเนินงานจะแล้วเสร็จ
นอกจากนี้ ครม. ยังได้เห็นชอบให้ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) จัดทำ ร่างแผนปฏิบัติการเพื่อผลักดัน ส่งเสริม เร่งรัด และติดตามผลการดำเนินงาน IPv6 ในประเทศไทย จำนวน 340 ล้านล้านล้านล้านเลขหมาย เพื่อจะสามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนหมายเลข IP
นายกฯสั่งรมต.แจงข้อมูลงบ57ต่อสื่อมวลชน
ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีการพูดถึงการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ที่ผ่านมา โดย นายกรัฐมนตรี เห็นว่ามีหลายประเด็นที่ถูกฝ่ายค้านบิดเบือนอย่างไม่เป็นความจริงและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมีเวลาไม่เพียงพอในการชี้แจง จึงขอให้แต่ละกระทรวงรวบรวมข้อมูลที่ถูกพาดพิงและบิดเบือนแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เพื่อให้สาธารณชนเข้าใจข้อเท็จจริงอย่างถูกต้อง ขณะที่ นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ รองประธานกรรมาธิการเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณดังกล่าว ได้แจ้งต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ทางคณะกรรมาธิการ ได้ขอความร่วมมือให้หน่วยงานที่ถูกเชิญไปชี้แจงในชั้นคณะกรรมาธิการเข้าชี้แจงด้วยตัวเองด้วย
ครม.เร่งผลักดันIPv6รองรับระบบ4G
นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ICT เสนอร่างแผนปฏิบัติการ เพื่อผลักดัน ส่งเสริม เร่งรัด และติดตามผลการ ดำเนินงานในการปรับปรุงเวอร์ชั้น IPv6 ในประเทศไทย เนื่องจาก IPv4 มีจำนวนหมายเลขประมาณ 4,000 เลขหมาย ที่จะหมดลงในเวลาอันใกล้ ขณะที่ IPv6 มีจำนวนหมายเลข 340 ล้านล้านล้านหมายเลข ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว จะเป็นการปรับปรุงระบบอินเทอร์เน็ตของประเทศไทยในรอบ 30 ปี เพื่อรองรับระบบ 4G ในอนาคต
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังมีการอนุมัติยุทธศาสตร์การบูรณาการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อพัฒนาระบบ IT อย่างยั่งยืนต่อไป
ครม.ทำเอกสารแจงเสถียรภาพศก.แจกปชช.
นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสํานักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้รับทราบการออกเอกสารประกอบการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของรัฐบาล ในการชี้แจงและให้ข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจไทยในระยะที่ผ่านมา รวมถึงแนวโน้มในช่วง 1 ปีหลังจากนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากเงินทุนไหลเข้า ทำให้ค่าเงินบาทมีความผันผวน ดังนั้น เพื่อให้เศรษฐกิจไทยโตได้ร้อยละ 5 ในปีนี้ จึงได้มีการจัดทำกรอบการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจขึ้น และจัดทำเป็นเอกสารรูปเล่ม ออกมาเผยแพร่ให้กับประชาชนได้รับทราบ
ครม.เห็นชอบแผนพัฒนาสถิติของปท.
ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า คณะรัฐมนตรี เห็นชอบสนับสนุนการพัฒนาระบบสติถิของประเทศ โดยให้ส่วนราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม นำแผนพัฒนาสติถิรายสาขา เช่น ตัวเลขจีดีพี ข้อมูลทางสติถิประชากร เข้าเป็นส่วนหนึ่งของแผนราชการ และคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้มีการจัดสรรงบประมาณ ในการจัดทำข้อมูลสติถิให้หน่วยงานภาครัฐอีกด้วย
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เห็นว่า การจัดทำข้อมูลทางสติถิ และรวบรวมตัวเลขของหน่วยงานต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างเต็มระบบ ในลักษณะของฐานข้อมูลกลาง ถือเป็นสิ่งสำคัญ และมีความจำเป็นสำหรับการพัฒนาระบบให้บริการแบบ e-Government ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การเตรียมความพร้อมประเทศ เข้าสู่ยุคประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ครม.เห็นชอบให้ส่งใบสั่งทางไปรษณีย์ได้
ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า คณะรัฐมนตรี เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.จราจรทางบก เรื่องการส่งใบสั่งทางไปรษณีย์ โดยมีสาระสำคัญคือการแก้ไขเพิ่มเติมข้อความในมาตรา 140 เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถส่งใบสั่งพร้อมพยานหลักฐานการกระทำผิดกฏจราจรไปยังภูมิลำเนาของเจ้าของรถ หรือผู้ครอบครองรถทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ และให้ถือว่าเจ้าของรถ หรือผู้ครอบครองรถได้รับใบสั่งนั้นเมื่อพ้นกำหนด 15 วัน นับตั้งแต่วันส่ง โดยเหตุที่มีการเสนอแก้กฎหมายดังกล่าว เนื่องจากการกระทำผิดกฎหมายจราจรบางอย่างนั้น เจ้าหน้าที่ไม่สามารถออกใบสั่งและแสดงหลักฐานได้ในขณะที่มีการกระทำความผิด เช่น การขับรถฝ่าไฟแดง หรือการขับรถโดยใช้ความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนด