จ่อหมายจับมือยิงหลานเต๋าสมชายรู้ทะเบียนรถคู่อริแล้ว

จ่อหมายจับมือยิงหลานเต๋าสมชายรู้ทะเบียนรถคู่อริแล้ว

จ่อหมายจับมือยิงหลานเต๋าสมชายรู้ทะเบียนรถคู่อริแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รอง ผบช.น. เผย รู้ทะเบียนรถคนร้าย ยิงเด็กช่าง หลาน 'เต๋า สมชาย' ดับในตลาดวงศกรแล้ว จ่อออกหมายจับ รอหลักฐานชัด ยันเป็นเหตุทะเลาะวิวาทกับอริต่างสถาบัน ด้านญาติเศร้ารับศพ ตั้งวัดปากบึง เผย ผู้ตาย รู้ตัวถูกตาม แต่ขาไม่ดี จึงวิ่งหนีไม่ทัน

พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้า กรณี นายศตวรรษ จำนงค์ภักดิ์ อายุ 19 ปี นศ.คณะช่างไฟฟ้า ชั้นปี 3 โรงเรียนช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ หลานชาย "เต๋า สมชาย เข็มกลัด" ดารานักร้องชื่อดัง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนจนเสียชีวิต ในตลาดวงศกร ย่านสายไหม ว่า ขณะนี้ได้เร่งรัดให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม เพื่อตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถจักรยานยนต์ ที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้พอจะทราบบ้างเเล้วว่ามีหมายเลขใดบ้าง เนื่องจากในวันเกิดเหตุ ภาพจากกล้องวงจรปิดปรากฏภาพคนร้ายว่า มาด้วยกัน 2 คน ขับรถจักรยานยนต์มา 2 คัน โดยคาดว่าน่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบไม่นานนัก ส่วนการออกหมายจับนั้น ยังคงต้องรอพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความชัดเจนอีกซักระยะ ขณะที่สาเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้ ยืนยันว่า เป็นเหตุทะเลาะวิวาทกับคู่อริต่างสถาบันแน่นอน

นอกจากนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังกล่าวถึงมาตรการป้องเหตุนักเรียนอาชีวะทะเลาะวิวาทในช่วงเปิดภาคเรียน ว่า ทางตำรวจมีมาตรการรองรับอยู่แล้ว โดยได้มีการเรียกประชุมแนวทางการป้องกันกับทางโรงเรียน ผู้ปกครอง รวมถึงหัวโจกของสถาบันนั้นๆ อยู่ตลอด

 

ญาติเศร้ารับศพ เด็กช่างหลาน 'เต๋า สมชาย'

นายชัชชาญ จำนงภักดิ์ และนางมยุเรศ จำนงภักดิ์ พ่อและแม่ พร้อมด้วยญาติ ประมาณ 10 คน เดินทางมารับศพ นายศตวรรษ จำนงภักดิ์ หรือ น้องนิว อายุ 20 ปี นักศึกษานักศึกษาคณะช่างไฟฟ้า ชั้นปี 3 โรงเรียนช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ หลานชายของ เต๋า-สมชาย เข็มกลัด ที่ถูกยิงเสียชีวิต บริเวณตลาดวงศกร ย่านสายไหม โดยจะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ วัดปากบึง ย่านร่มเกล้า เป็นเวลา 3 วัน

โดย นายชัชชาญ กล่าวว่า ผู้ตาย เป็นลูกชายคนเดียว และเป็นคนที่มีนิสัยเรียบร้อยไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน และเรียนที่โรงเรียนช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพมา 2 ปีแล้ว แต่เป็นภูมิแพ้ ส่งผลให้ขาเดินไม่ได้ ต้องหยุดเรียนไป 1 ปี และเพิ่งจะกลับมาเรียนอีกครั้ง โดยอีก 3 เดือน ก็จะได้ไปฝึกงานแล้ว  ซึ่งช่วงนี้เปิดภาคเรียน ได้เพียง 8 วัน ไม่คิดว่าจะมีปัญหาเรื่องคู่อริต่างสถาบัน และผู้ตายทราบดีว่า อาจมีอันตรายจึงระมัดระวังตัว ด้วยการเปลี่ยนเส้นทางไป-กลับบ้าน เป็น 2 ทาง คือ ทางสายไหม และตลาดวงศกร เมื่อเกิดเหตุก็แยกกับเพื่อนอีกคนหลบหนี แต่ลูกชายตนมีปัญหาที่ขาทำให้วิ่งหนีไม่ทัน

ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต แพทย์ระบุว่า เกิดจากบาดแผลถูกระสุนปืนทะลุปอดและหัวใจ ทำให้เสียโลหิตปริมาณมาก

 

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook