ตร.ค้นบ้านหน.แก๊งค้าอาวุธข้ามชาติยึดปืนสงครามอื้อ
ผู้บังคับการปราบปราม นำกำลังเจ้าหน้าที่ บุกค้นหมู่บ้านกลางเมือง หัวหน้าแก๊งค้าอาวุธข้ามชาติอเมริกา พบของกลางจำนวนมากคอมพิวเตอร์ - บ้านมีพิรุธ
พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผู้บังคับการปราบปราม นำกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมหมายค้นเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 123/316 ภายในหมู่บ้านกลางเมือง ถนนประเสริฐมนูญกิจ 25 ซึ่งเป็นบ้านของ นายนริศ เลขกุล หัวหน้าขบวนการค้าอาวุธข้ามชาติ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจากการตรวจค้นเบื้องต้น พบอาวุธปืนกลยาว อาวุธปืนทราโว่ สไนเปอร์ ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของอาวุธปืน กระสุนปืน รวมไปถึงยังพบอุปกรณ์ต้องสงสัยที่คาดว่าจะใช้ในการติดตั้งเลเซอร์อาวุธปืน
พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า การตรวจค้นดังกล่าว สืบเนื่องจากทางการสหรัฐฯ สามารถจับกุม นายนริศ กับพวกรวม 6 คน ได้ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา กองปราบปรามจึงมีการขยายผลว่า ขบวนการดังกล่าวมีปลายทางในการจัดส่งอาวุธมาที่ใดบ้าง ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เข้าตรวจค้นบริษัทของ นายนริศ ซึ่งพบว่า เป็นบริษัทส่งออกและนำเข้าโคมไฟ แต่ไม่พบอาวุธซุกซ่อนอยู่ เบื้องต้นพบเครื่องคอมพิวเตอร์ ขณะที่พบพิรุธ เนื่องจากซีพียูคอมพิวเตอร์ มีการถูกถอดฮาร์ดดิสก์ออกไป จึงขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านหลังกล่าว และพบอาวุธจำนวนมาก โดยจากนี้จะประสานเจ้าหน้าเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD ให้เข้าร่วมตรวจสอบเนื่องจากพบเขม่าบนผนัง รวมถึงฝ้าเพดานมีการปรับปรุงใหม่
ทั้งนี้เชื่อว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นที่อาวุธที่จัดส่งมาทางพัสดุกว่า 240 ครั้ง ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา จากนี้จะต้องมีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมถึงนำข้อมูลดังกล่าวส่งให้สหรัฐฯ ดำเนินการต่อไป เบื้องต้นถือว่า นายนริศ มีความผิดข้อนำเข้าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต
'ชัจจ์'ตรวจอาวุธสงครามบ้านแก๊งค้าข้ามชาติ
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปตรวจสอบปืนสงครามที่ตรวจยึดได้ภายในบ้านพักย่านเกษตร-นวมินทร์ ของ นายนริศ เลขะกุล อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกทางการของสหรัฐอเมริกา ควบคุมตัว พร้อมพวกรวม 6 คน ในข้อหาส่งออกอาวุธควบคุมมายังประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย ทั้งปืนสั้น ปืนยาว และเครื่องกระสุน ไม่ต่ำกว่า 240 ครั้ง
จากการตรวจค้นพบปืนสงคราม และปืนสั้น เกือบ 30 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องพักทั้ง 3 ชั้น มีทั้งปืนรุ่นเก่าที่เคยใช้ในสมัยสงครามโลก และปืนสงครามรุ่นใหม่ ซึ่งหลายกระบอกไม่มีใช้ในไทย
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ปืนเหล่านี้บางส่วนไม่สามารถออกใบทะเบียนได้ เพราะเป็นปืนสงคราม ซึ่งเชื่อว่า ปืนเหล่านี้น่าจะนำไปขายต่อ เพราะ นายนริศ เปิดเว็บไซต์ขายปืนอยู่ด้วย แต่เพิ่งปิดไปหลังถูกดำเนินคดีที่สหรัฐฯ และเตรียมนำปืนทั้งหมดไปตรวจสอบหาที่มาและผู้รับซื้อ เพื่อขยายผลขบวนการปืนเถื่อน