ธีระชัย เล่นแรง ฉะ พณ.ทำตัวอย่างไม่ดี
![ธีระชัย เล่นแรง ฉะ พณ.ทำตัวอย่างไม่ดี](http://s.isanook.com/ns/0/ud/238/1190362/457869-01.jpg?ip/crop/w728h431/q80/jpg)
'ธีระชัย' อดีต รมว.คลัง ยุค 'รัฐบาลปู 1' เล่นแรง ฉะ พณ. ทำตัวอย่างไม่ดี เตือนระวังภาคเอกชนเลียนแบบ
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงว่า ยังไม่สามารถคำนวนกำไรขาดทุนจำนำข้าวได้ เพราะต้องรอให้ขายข้าว จนหมดเสียก่อนนั้น โดยส่วนตัวแล้วขอใช้คำว่า " เฮ้อ!!! ฟังแล้วลมจับ" ทั้งนี้เพราะกระทรวงพาณิชย์มีหน้าที่กำกับดูแลนักบัญชีทั่วประเทศ แต่กลับไม่ปฏิบัติตามหลักการบัญชีเสียเอง เป็นที่น่าละอายมากนะ เพราะถ้าบริษัทธุรกิจเอกชน ขอใช้หลักการนี้บ้าง จะได้หรือไม่ กรณีบริษัทซื้อสินค้ามาลอตใหญ่ ขายไปเพียงบางส่วนที่เหลือยังค้างอยู่ในสต๊อก จะขออ้างว่าเนื่องจากยังมีสินค้าที่ขายไม่หมด ก็เลยขอยังไม่ปิดบัญชีประจำปี ธุรกิจเอกชนจะขอทำเหมือนกระทรวงพาณิชย์ ได้หรือไม่ครับ
"ผมก็บังเอิญเคยเรียนวิชาสอบบัญชีที่ประเทศอังกฤษ จึงขออธิบายหลักวิธีทางบัญชีไว้ เพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจดังนี้
ก.ทุกองค์กรต้องมีการปิดบัญชีเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ อาจจะเป็นทุกเดือน หรือทุก 3 เดือน ทุก 6 เดือน หรือทุก 12 เดือนก็ได้ แต่โดยทั่วไปต้องไม่เกินรอบ 1 ปี
ต่อไปนี้ สมมุติต้องการปิดบัญชี ณ วันที่ 31 มกราคม 2556 (เพื่อให้ตรงกับของคณะกรรมการปิดบัญชี) ก็ให้หาข้อมูล 3 บรรทัดตามนี้
ข.จนถึงวันที่ดังกล่าว รัฐบาลใช้เงินไปในการรับจำนำสะสมเป็นจำนวนเท่าใด ก็ตั้งไว้เป็นบรรทัดแรก
ค.จนถึงวันที่ดังกล่าว รัฐบาลขายข้าวไปทั้งสิ้นได้เงินเท่าไร ก็ใส่เป็นบรรทัดที่ 2
ง.ณ วันที่ดังกล่าว มีการตรวจนับสต๊อกโดยบุคคลที่เชื่อถือได้หรือยัง เขาพบว่ามีข้าวอยู่จริงๆ เท่าใด ให้ใช้เฉพาะตัวเลขที่นับสต๊อกเหลืออยู่จริงๆ
จ.สต๊อกข้าวที่มีอยู่ ณ วันที่ดังกล่าว มีคุณสมบัติและสภาพเฉลี่ยอย่างไร ให้ตีตามราคาตลาดในวันนั้น โดยลดทอนราคาตลาดลงตามสภาพเฉลี่ย เป็นบรรทัดที่ 3
ฉ.กำไรขาดทุน ก็คือคำนวนโดยเอาบรรทัดแรก ลบด้วย บรรทัดที่ 2 และบรรทัดที่ 3 เท่านั้นเอง ฉะนั้นจะเห็นได้ ว่าถ้าจะตั้งใจทำกันจริงๆ แล้ว จะไม่ยากเย็นอะไรเลย