10การย้ายทีมสุดช็อกลูกหนังผู้ดี

10การย้ายทีมสุดช็อกลูกหนังผู้ดี

10การย้ายทีมสุดช็อกลูกหนังผู้ดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เวย์น รูนี่ย์ จะไป อาร์เซน่อล! การกระทำครั้งนี้ อาจเรียกว่าเป็นการตบของรักของคู่แข่งมาแบบไม่มีเกรงใจ

ทำให้ เดอะซัน สื่อจอมแฉของแดนผู้ดีย้อนประวัติ การย้ายทีมแบบสุดช็อกที่คุณอาจจะลืมไปแล้ว

เวย์น รูนี่ย์ จะไป อาร์เซน่อล! อ่านไม่ผิดหรอก อาร์เซน่อล กำลังทาบทาม เวย์น รูนี่ย์! อย่าเข้าใจผิดว่าเป็น อาร์เซน่อล ซารานดี้ ในลีกอาร์เจนติน่า เพราะมันไกลเกินไป
และการจากบ้านเกิดไปแดนละตินมันคงเป็นตลกที่ขำไม่ออก แต่ อาร์เซน่อล นี้อยู่แค่เมืองลอนดอนเท่านั้น
 
 
หลังจากเกิดข่าวลือล่าสุดที่ว่า อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือของ อาร์เซน่อล กำลังทาบทาม เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงร่างอวบ มาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และท่านประธานอิวาน กาซิดิส ก็ยืนยันว่า เรามีเงินจริงๆ นะ (ณ จุดนี้ อย่าดูถูกว่า "ปืนใหญ่" จนกรอบ
เพราะความจริงคุณพี่เขารวยมาก เป็นทีมเดียวใน พรีเมียร์ลีก ที่มีกำไร หุ้นส่วนได้ปันผลทุกปีแบบไม่ได้มีแค่ตัวเลขลอยๆ ถ้าคุณไปขึ้นเสียงใส่แฟน "กันเนอร์ส" ว่ายาจก ระวังจะหน้าแหกกลับมานะจ๊ะ) และกาซิดิส ยังยืนยันว่า เราพร้อมที่จะทุบกระปุกเพื่อแข้งรายนี้จริงๆ ไม่อิงอะไรทั้งนั้น (นอกจากค่าเหนื่อยที่อาจต้องคิดหนักหน่อย) 
 
การกระทำครั้งนี้ อาจเรียกว่าเป็นการตบของรักของคู่แข่งมาแบบไม่มีเกรงใจ ทำให้ เดอะซัน สื่อจอมแฉของแดนผู้ดีย้อนประวัติการย้ายทีมแบบสุดช็อกที่คุณอาจจะลืมไปแล้ว และเชื่อเถอะว่า กลยุทธ์ตัดกำลังคู่แข่ง ไม่ได้มีแค่ บาเยิร์น มิวนิค เท่านั้นที่เดินเกมนี้ใน บุนเดสลีกา เพราะที่ พรีเมียร์ลีก มันเป็นเรื่องธรรมดา
 
10. ริโอ เฟอร์ดินาน
2002 ลีดส์ - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
 
 
ริโอ เป็นหนึ่งในแข้ง "ยูงทอง" ยุครุ่งเรืองที่มีดาวรุ่งผุดขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น อลัน สมิธ, โจนาธาน วู้ดเกต และแฮร์รี่ คีเวลล์ ที่ตอนนี้ทุกคนก็อายุอานามไล่เลี่ยกัน ซึ่ง ลีดส์ ในสมัยนั้นเป็นทีมระดับท้าทายแชมป์พรีเมียร์ลีก และยังทะลุถึงรอบรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยนะ
นอกจากจะเล่นให้สโมสรได้อย่างยอดเยี่ยม ผลงานในทีมชาติอังกฤษชุดสู้ศึกเวิลด์คัพ 2002 ที่เกาหลี-ญี่ปุ่น ก็เข้าตามาก ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ออดอ้อนบอร์ดบริหารให้จ่ายค่าตัวกองหลังที่แพงที่สุดคนหนึ่งของโลกมาร่วมทัพ
และเชื่อว่าจนถึงตอนนี้ "ปิศาจแดง" ก็ถอนทุนคืนจากเงินที่เสียไปได้เรียบร้อยแล้ว และเร็วๆ นี้ จะมี เทสติโมเนี่ยลแมตช์ ให้กับ ริโอ หลังจากรับใช้ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มานาน 11 ปี
 
9. แอชลี่ย์ โคล
2006 อาร์เซน่อล - เชลซี
 
 
"โคลหื่น" เติบโตมาจากระบบเยาวชนของ อาร์เซน่อล การย้ายทีมจากทางเหนือของลอนดอนมาอยู่ฝั่งตะวันตก ไม่ถือว่าเป็นเรื่องช็อกเท่าไร
แต่ออกไปทางเรื่องยาวมากกว่า "ปืนใหญ่" เป็นทีมที่ขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องของความประหยัด ตังนั้นก็จะให้ค่าจ้างนักเตะตามสมควร แต่จากการเข้ามาโอบอุ้ม เชลซี ของ โรมัน อับราโมวิช ก็ทำให้เกิดภาวะเงินสะพัดใน พรีเมียร์ลีก และด้วยผลงานที่กระเด็นเข้าตา โชเซ่ มูรินโญ่ มันก็อดไม่ได้ที่จะต้องซื้อมาใช้งาน 
 
ขณะนั้น โคล ได้รับค่าเหนื่อยจากรั้วไฮก์บิวรี่ เพียงแค่สัปดาห์ละ 55,000 ปอนด์ (ประมาณ 2.5 ล้านบาท) ไม่ว่าจะพยายามขอขึ้นค่าแรงแค่ไหนก็ไม่คืบหน้า และก็เหมือนที่บรรดามนุษย์เงินเดือนเคยกล่าวไว้ว่า "วิธีการขึ้นเงินเดือนที่เร็วที่สุดคือการหาที่ทำงานใหม่" ทำให้ โคล ตัดสินใจย้ายที่ทำกิน ด้วยค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ส่งผลให้โดนตราหน้าว่า "หิวเงิน" และเป็นที่เกลียดชังของสาวก "กันเนอร์ส" มาจนปัจจุบัน 
 
8. โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
2012 อาร์เซน่อล - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
 
 
เป็นความทรงจำที่ยังสดใหม่ และคงไม่ต้องเล่ายาว เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วนี่เองสำหรับการย้ายของ "อาร์วีพี"
ซึ่งใครก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เขาคือกองหน้าที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลก มีระเบียบวินัย เป็นนักเตะตัวอย่างที่น่าชื่นชม แข้งดัตช์ ย้ายมาอยู่กับ อาร์เซน่อล ในปี 2004
แต่ไม่เคยประสบความสำเร็จกับสโมสร เป็นช่วงเวลาอันว่างเปล่าของ อาร์แซน เวนเกอร์ และด้วยสัญญาที่เหลืออยู่เพียงปีเดียวกับการตัดสินใจไม่ต่อสัญญา ทำให้ทีมต้องตัดใจขาย แต่ก็ได้กำไรและได้ราคาดี
 
การขยับจาก เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ไป โอลด์ แทรฟฟอร์ด สำหรับบอร์ดบริหารของ อาร์เซน่อล ทุกอย่างคือธุรกิจ ซื้อมา ขายไป กำไร จบ
แต่สำหรับแฟนบอลเป็นเรื่องของความรู้สึก และเป็นการตั้งคำถามไปยังนโยบายว่า ตกลงแล้วจะขายนักเตะกินตลอดชาติหรือเปล่า?
 
7. คาร์ลอส เตเวซ
2008 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - แมนเชสเตอร์ ซิตี้
 
 
ดาวยิงหุ่นมะขามข้อเดียวกระโดดข้ามฟากเมืองมาแบบไม่เกรงใจใคร เหมือนกับที่ เทอร์รี่ คุ้ก เคยทำเมื่อ 10 ปีก่อนหน้าตัวเขา แถมยังไม่ยอมเซ็นสัญญา 5 ปีทั้งที่ "ปิศาจแดง" พร้อมที่จะให้ค่าเหนื่อยเป็นเบอร์ 1 ของทีมในเวลานั้น
การย้ายครั้งนี้เป็นที่สนุกสนานของแฟน "เรือใบสีฟ้า" ที่เย้ยหยันว่าพวกเราสามารถฉกของรักของคู่แข่งมาได้ และแม้ มาร์ค ฮิวส์ จะจากไป แต่ เตเวซ ยังเป็นแข้งหลักภายใต้การทำทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ในเวลาต่อมา
 
6. เฟร์นานโด ตอร์เรส 
2011 ลิเวอร์พูล - เชลซี
 
 
เป็นที่ทราบกันว่า การมาครั้งนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ ไม่อยากได้ แต่ โรมัน อับราโมวิช เงินเหลือ และหลังจากฤดูกาลอันน่าผิดหวังกับการจากไปของ ราฟาเอล เบนิเตซ
ทำให้ดาวยิงสเปนอยากจะย้ายไปหาความสำเร็จที่อื่น ซึ่งต้องยอมรับว่า  ณ ขณะจิตนั้น "สิงห์บลูส์" มีอันดับในตารางคะแนนเหนือกว่า "หงส์แดง"
และแม้ เคนนี่ ดัลกลิช จะไม่อยากขาย แต่เงิน 50 ล้านปอนด์ (2,250 ล้านบาท) ก็ยั่วใจบอร์ดบริหาร พร้อมกับเงื่อนไขที่ว่า ขายของเก่าเอาไปซื้อของใหม่ดีกว่า บวกกับนักเตะออกปากว่าอยากย้าย ทำให้งานนี้ลงตัว 
 
5. โรบินโญ่
2008 เรอัล มาดริด - แมนเชสเตอร์ ซิตี้
 
 
การย้ายครั้งนี้มีข่าวที่ทำให้ดาวยิงบราซิเลี่ยนหน้าแหกที่สุดในชีวิต หลังกลุ่มทุนจาก อาบู ดาบี ตัดสินใจเทคโอเวอร์ "เรือใบสีฟ้า" ต่อจากเจ้าของทีมชาวไทยที่คุณก็รู้ว่าใคร ท่านชี้ค มานซูร์ ก็ร่อนเงิน 32.5 ล้านปอนด์ (1,462.5 ล้านบาท) ใส่ "ราชันชุดขาว" ที่ประเคน โรบินโญ่ ให้ทันทีแบบไม่ต้องคิดมาก เพราะกำไรเนื้อๆ ในวันสุดท้ายที่ปิดตลาดซัมเมอร์พอดิบพอดี
 
หลังจากทราบเรื่องราวตัวเองต้องเก็บของออกจาก ซานติอาโก เบร์นาเบว แข้งจอมเทคนิคก็กล่าวทันทีว่า "ในวันสุดท้าย (ของตลาดซื้อขาย) เชลซี ยื่นข้อเสนอที่ยอดเยี่ยมมากเข้ามา แล้วผมก็รับมันไว้" พ่อคุณคงรู้แค่ว่าทีมนี้ใช้สีฟ้าเป็นหลัก แต่อาจจะสับสนไปหน่อย!
 
4. เอริค คันโตน่า 
1992 ลีดส์ - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
 
 
"ก็องโต้" ช่วยพา "ยูงทอง" เลื่อนชั้นจาก ดิวิชั่น 1 ขึ้นมาสู่ พรีเมียร์ลีก ในปี 1992  และซัดแฮตทริก ในคอมมูนิตี้ ชิลด์ ปีเดียวกัน ช่วยให้ทีมเอาชนะ ลิเวอร์พูล
เขาไม่ต่างอะไรจากเทพประจำทัพ 3 เดือนต่อมา บิลล์ โฟเธอร์บี้ ประธานสโมสรลีดส์ โทรไปหา มาร์ติน เอ็ดเวิร์ดส์ บอร์ดบริหารของ "ปิศาจแดง" เพื่อขอซื้อ เดนนิส เออร์วิน แต่ เอ็ดเวิร์ดส์ ตอบทันทีว่าไม่ขาย ในทันทีนั้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็บอกว่า อย่าเพิ่งวางสาย ขอคุยก่อน
และท่านเซอร์ (ซึ่งตอนนั้น ยังไม่ได้ยศเซอร์) ก็บอก โฟเธอร์บี้ ว่า อยากได้ คันโตน่า ที่น่าแปลกก็คือ ท่านประธานแห่งถิ่นเอลแลนด์ โร้ดส์ ไฟเขียว ขายให้ในราคาที่ถูกเหมือนได้เปล่า 1 ล้านปอนด์ถ้วน (45 ล้านบาท)
 
3. แอนดี้ คาร์โรลล์
2011 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด - ลิเวอร์พูล
 
 
สืบเนื่องจากการขาย เฟร์นานโด ตอร์เรส ให้ เชลซี "หงส์แดง" กำเงิน 50 ล้านปอนด์ (2,250 ล้านบาท) ไว้ในมือพร้อมกับความต้องการศูนย์หน้ารายใหม่ หลุยส์ ซัวเรซ ย้ายเข้ามาจาก อาแจ็กซ์
ด้วยชื่อเสียงเรื่องความสามารถ แต่ เคนนี่ ดัลกลิช ก็ยังอยากได้ดาวยิงอังกฤษอีกสักคน และมองไปที่ แอนดี้ คาร์โรลล์ ซึ่งมีความสูงใหญ่ น่าจะเหมาะกับการเล่นลูกโด่ง ในเมื่อ ซัวเรซ เล่นบอลกับพื้น
 
ก่อนหน้านั้นเพียงแค่ปีเดียว ลิเวอร์พูล เคยขอซื้อแข้งรายนี้ในราคาแค่ 1 ล้านปอนด์ (45 ล้านบาท) เท่านั้น แต่เมื่อ "สาลิกาดง" ทราบข่าวซึ่งขึ้นหน้า 1 ในนสพ. กีฬาทั่วประเทศว่า ลิเวอร์พูล ร่ำรวยจากการขาย ตอร์เรส ค่าตัวของดาวยิงร่างโย่งก็เพิ่มขึ้นอีก 35 เท่า! ซึ่งหลังจากย้ายมาสู่ถิ่นแอนฟิลด์ เจ้าตัวยังพูดเลยว่า งง! เพราะบอกกับผู้บริหารไปแล้วว่าไม่อยากย้าย
 
2. คาร์ลอส เตเวซ และฮาเวียร์ มาสเคราโน่
2006 โครินเธียนส์ - เวสต์แฮม
 
 
เตเวซ ติดชาร์ทอีกครั้ง ใครจะไปเชื่อว่า เวสต์แฮม ซึ่งเป็นทีมระดับกลางๆ ในตอนนั้นจะดึงเอาดาวรุ่งอารืเจนไตน์เข้ามาพร้อมกันทีเดียวถึง 2 คน โดยผลงานของทั้งคู่ในฟุตบอลโลก 2006 ถือว่าโดดเด้งเข้าตา และทุกคนก็คิดว่า เตเวซ และมาสเคราโน่ ควรไปแจ้งเกิดกับทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปมากกว่า 
 
ทั้งคู่มีเอเย่นต์คนเดียวกันคือ เคีย จูรับเชี่ยน และการเซ็นสัญญาครั้งนี้ เป็นครังแรกที่มีการใช้ระบบเจ้าของร่วมสำหรับทีมในพรีเมียร์ลีก
ซึ่งในเวลาต่อมา ก็มีการเคาะกฎออกมาว่ามันผิด ทำให้ "ขุนค้อน" อ่วมกับค่าปรับ 5.5 ล้านปอนด์ (247.5 ล้านบาท) โชคดีที่ไม่โดนปรับแต้ม และ "เอล อาปาเช่" ที่ตอนแรกยังปรับตัวไม่ได้ก็มาระเบิดฟอร์มท้ายฤดูกาล ทำให้ เวสต์แฮม รอดตกชั้นแบบหวุดหวิดด้วยการยิงใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
 
1. โซล แคมป์เบลล์ 
2001 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ - อาร์เซน่อล
 
 
"บิ๊กโซล" นับเป็นปราการหลังในตำนานของ "ไก่เดือยทอง" เลยก็ว่าได้ หลังจากรับใช้ทีมมานาน 9 ปี ลงเล่นไป 250 นัด เวลานั้นเขากำลังจะหมดสัญญา และหลังจากประกาศว่าต่อสัญญาแน่
แต่อยู่ๆ ก็เปลี่ยนใจ อยากจะเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่ง สเปอร์ส ในตอนนั้นก็เป็นทีมกลางๆ ค่อนไปทางบน แต่เต็มที่คงได้แค่ ยูฟ่า คัพ ซึ่งคงไม่ท้าทายพอสำหรับกองหลังที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลกในช่วงเวลาดังกล่าว
 
ที่คลาสสิคก็คือ โซล แคมป์เบลล์ ได้รับการยกย่องจากสาวก "ไก่เดือยทอง" ว่าเป็นพระเจ้าของทีม แถมยังเคยให้สัมภาษณ์ว่าชีวิตนี้ไม่มีทางไปอยู่กับสุดยอดคู่แค้นอย่าง อาร์เซน่อล แน่ๆ แต่ก็นั่นล่ะ บางทีชีวิตก็ต้องการการเปลี่ยนแปลง และเมื่อเวลาเปลี่ยน ใจคนเราก็สามารถเปลี่ยนได้
 
 
credit เรื่องราวและภาพต้นฉบับ :: The Sun
เนซึมิ หอยทะเลคุง แปล และเรียบเรียง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook