หนุ่มหื่นติดใจสาวแม่ลูกอ่อน ปีนบ้านฆ่าข่มขืนต่อหน้าเด็ก
ตำรวจระยองจับ หนุ่มรับจ้างสักลาย ออกอาการติดใจ สาวแม่ลูกอ่อนเพิ่งมาสักรูปหัวใจ ย่องเบาปีนขึ้นบ้าน ขอมีเซ็กซ์ สาวขัดขืนบีบคอดับ ข่มขืนต่อหน้าลูก
(10 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ได้เปิดแถลงข่าวการจับกุมตัว นายอนุชา ศรีมันตระ อายุ 32 ปี ชาว จ.อำนาญเจริญ ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าข่มขืนหญิงสาวแม่ลูกอ่อน เจ้าของรีสอร์ทแห่งหนึ่งในตำบลแกลง ก่อนจะนำศพไปทิ้งอำพรางคดี พร้อมกับลักพาตัวลูกสาวของผู้เสียชีวิตไปด้วย
สำหรับเหตุดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เพ ได้รับแจ้งเหตุพบศพหญิงสาวถูกฆาตกรรม นำมาทิ้งไว้ในป่าละเมาะในซอยกรูน 2 ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ น.ส.ทัตพิชา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ก่อนจะสืบสวนตามรอยกลับไปยังที่พักของผู้เสียชีวิต พบร่องการต่อสู้และข่มขืนกระทำชำเรา อีกทั้งยังพบว่าลูกสาววัยขวบเศษของผู้เสียชีวิตหายตัวไป จนกระทั่งติดตามสืบสวนหาเบาะแสคนร้ายได้ในที่สุด
จากการสอบสวน นายอนุชา ให้การว่า เป็นช่างรับจ้างสักลายอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ผู้เสียชีวิตเคยจ้างให้ไปสักลายเป็นรูปหัวใจสีแดงให้ที่บ้านพักที่ก่อเหตุ ส่วนตนรู้สึกแอบชอบผู้เสียชีวิต จึงหาจังหวะกลับมาหาและต้องการขอร่วมหลับนอนมีเพศสัมพันธ์ด้วย ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์มาจอดไว้ที่ด้านหลังบ้านพักผู้เสียชีวิต ปีนบันไดหนีไฟของอาคารขึ้นไปและงัดประตูเข้าไปหา
นายอนุชา ให้การต่ออีกว่า ตนย่องเข้าไปผู้เสียชีวิตที่กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่กับลูกสาวแบเบาะ พร้อมกับปลุกให้ น.ส.ทัตพิชา ตื่น ก่อนจะออกปากขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย แต่ผู้เสียชีวิตขัดขืนพยายามกัดตน ตนจึงจับล็อคคอเอาไว้ในท่านอน จนผู้เสียชีวิตนอนแน่นิ่งไปและข่มขืนกระทำชำเราลงสำเร็จความใคร่ 2 ครั้งซ้อน ก่อนจะพบว่า น.ส.ทัตพิชา เสียชีวิตแล้ว
ตนจึงกลับไปเอารถปิกอัพและทำการใช้ผ้าห่อศพ น.ส.ทัตพิชา ก่อนจะแบกศพขึ้นรถและนำไปโยนทิ้งอำพรางที่ป่าละเมาะดังกล่าว ส่วนลูกสาววัยขวบเศษของผู้เสียชีวิตได้นำไปฝากไว้กับคนรู้จักที่ อ.ปลวกแดง จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการสอบสวน เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายอนุชา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่คุ้มกันอย่างแน่นหนา แต่ก็ถูกกลุ่มญาติของผู้เสียชีวิตต้องการจะมาเข้ามารุมประชาทัณฑ์ จึงได้รีบนำตัวกลับอย่างชุลมุนวุ่นวาย ทั้งนี้ยังพบว่า นายอนุชา เคยมีประวัติก่อเหตุลักทรัพย์และพยายามฆ่าผู้อื่นในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เพิ่งออกจากเรือนจำได้แค่ 3 เดือน