มทภ.4เข้มใต้เน้นดูแลปชช.ห่วงใช้ต่อรองถกBRN
แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุ พร้อมรักษาความปลอดภัยช่วงเดือนรอมฎอน ยังไม่ได้รับรายงาน 'สะแปอิง' เตรียมป่วน ขณะที่ คนร้ายลอบวางเพลิงหน่วยบริการทางหลวง ปัตตานี วอด เชื่อ สร้างสถานการณ์ หวังทำลายบรรยากาศการพูดคุย
พล.ท.สกล ชื่นสกุล แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย ก่อนมีการพูดคุยสันติภาพกับ ขบวนการบีอาร์เอ็นว่า ยังไม่มีการปรับแผนการรักษาความปลอดภัยแต่อย่างใด และพร้อมที่จะดูแลช่วงเดือนรอมฎอน ขณะที่ยังไม่ได้รับรายงานว่า นายสะแปอิง บาซอ แกนนำคนสำคัญเตรียมเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ ส่วนการแจ้งเตือนต่าง ๆ นั้น เป็นการเพิ่มความระมัดระวังไม่ให้ประมาทมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้การทำงานของ ศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบาย และยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชาย
แดนภาคใต้ หรือ ศปก.กปต. นั้น ไม่ทับซ้อนกับหน่วยงานที่มีอยู่ แต่เป็นการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่า ผู้บัญชาการทหารบก มอบหมายให้ พล.ต.ชรินทร์ อมรแก้ว เสนาธิการ กองทัพภาคที่ 4 เป็นตัวแทนในการพูดคุยสันติภาพกับขบวนการบีอาร์เอ็น ในวันที่ 13 มิถุนายน นี้
โจรใต้วางเพลิงทางหลวงปัตตานีวอด
เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน จังหวัดปัตตานี เข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงหน่วยบริการทางหลวงบ่อทอง ถนนสาย 43 บ้านควนคูหา หมู่ที่ 1 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ถูกวางเพลิงได้รับความเสียหายทั้งหลัง จากการสอบสวนทราบว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายประมาณ 5 คน เข้ามาบริเวรหน่วยบริการทางหลวง และได้ทำลายกล้องวงจรปิดบริเวรหน่วยบริการทางหลวง จำนวน 11 ตัว จากนั้นได้ใช้อุปกรณ์ตัดประตูเหล็ก เข้าไปลาดน้ำมันจุดไฟเผาด้านในหน่วยบริการหน่วยทางหลวง ทำให้ได้รับความเสียหายดังกล่าว จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ เพื่อทำลายบรรยากาศการเจรจาในช่วงวันที่ 13 มิถุนายนนี้
ทหารชงรอมฎอนสันติภาพถกไฟใต้BRN-สมช.ย้ำลดรุนแรง
พล.ต.ชรินทร์ อมรแก้ว เสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 คณะพูดคุยสันติภาพครั้งที่ผ่านมา เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการพูดคุยสันติภาพในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ว่า ในฐานะตัวแทนกองทัพภาคที่ 4 และจากการลงพบปะพูดคุยกับประชาชนพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้สะท้อนความเห็นมาว่า ยังคงเห็นด้วยกับการคุยสันติภาพ และได้เสนอแนวคิดเดือนรอมฎอนสันติภาพ ซึ่งปีนี้ ประมาณต้นเดือนกรกฎาคม ให้มีการปลอดความรุนแรงลดความสูญเสียทุกประเภทในช่วงเดือนศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจะมีการนำเข้าไปถกในวงพูดคุยสันติภาพด้วย เพื่อปูทางสร้างสันติสุขต่อไป
ทั้งนี้ ทางคณะทีมพูดคุยระดับหัว 4 คน คือ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ได้มีการสรุปกรอบประเด็นที่จะไปพูดคุยในวันที่ 13 มิ.ย.กันแล้ว ซึ่งในวันนี้ (11 มิถุนายน) จะมีการแจ้งให้คณะผู้ร่วมทีมทราบต่อไป
'ภราดร' ยัน คุย BRN 13 มิ.ย. ลดความรุนแรง
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า การพูดคุยกับกลุ่ม BRN วันที่ 13 มิถุนายน นี้ ยังเน้นที่การลดความรุนแรงในพื้นที่ เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ด้านการหารือกับ ภาคประชาสังคมในพื้นที่ยังพบว่ามีความเห็นต่างกับที่ BRN แถลง ซึ่งทางรัฐบาลจะนำเรื่องดังกล่าวไปเป็นข้อมูลในการเจรจาต่อไป ส่วนเรื่องภาษาที่ตีความไม่ออกนั้น ได้ให้ผู้เชี่ยวชาญฝั่งไทย แปลความหมายแล้ว ทั้งนี้อีก 1 - 2 วัน ทางตนเองก็จะเข้าพบ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ก่อนการเดินทาง โดยจะเข้าพบเพียงคนเดียว แต่ยืนยันว่า กรอบการพูดคุยยัง 15 คน เท่าเดิม ส่วนการขึ้นโต๊ะเจรจาอาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง
นอกจากนี้ พล.ท.ภราดร ยังกล่าวว่า ขณะนี้ทาง BRN ยังไม่ได้ชี้แจงว่า มีกลุ่มอื่นเข้าร่วมเจรจา แต่ทาง มาเลเซีย มีความพร้อมในเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ไม่มั่นใจว่าเป็นสถานที่เดิมหรือไม่ ส่วนการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ยังคงเข้ม และก็ไม่ประมาท
คุมเข้มหาดใหญ่ หวั่นป่วนก่อนถกบีอาร์เอ็น
กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ ทหารค่ายเสนาณรงค์ และ อส.อำเภอหาดใหญ่ สนธิกำลังตั้งจุดตรวจถาวรบนเส้นทางขาเข้าตัวเมืองหาดใหญ่ โดยเฉพาะ ถนนสายหลักทั้ง 3 สาย ทั้งถนนเพชรเกษม ถนนกาญจนวนิช และถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ และเพิ่มมาตรการเข้มงวดในการตรวจสอบรถต้องสงสัยทุกประเภท รวมทั้ง กลุ่มบุคคลเป้าหมายที่หน่วยงานด้านความมั่นคง ได้แจ้งเตือนให้เฝ้าระวัง เพื่อเตรียมพร้อมรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ก่อนที่จะมีการเจรจาสันติภาพรอบ 3 กับกลุ่มบีอาร์เอ็น ในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ เพราะอาจจะมีก่อเหตุรุนแรงตอบโต้ของกลุ่มก่อความไม่สงบเพื่อต่อต้านการเจรจาสันติภาพ ซึ่งพื้นที่ อ.หาดใหญ่ เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ขณะเดียวกัน ทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยใน 4 อำเภอชายแดนสงขลา ทั้ง อ.จะนะ อ.เทพา อ.นาทวี และ อ.สะบ้าย้อย ให้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังพื้นที่ให้มากยิ่งขึ้น และให้จัดกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายอย่างต่อเนื่อง