เบิ้มมอบตัวอ้างเอกยุทธตายก่อนโดนรัดคอโบ้ยบอลทำ

เบิ้มมอบตัวอ้างเอกยุทธตายก่อนโดนรัดคอโบ้ยบอลทำ

เบิ้มมอบตัวอ้างเอกยุทธตายก่อนโดนรัดคอโบ้ยบอลทำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สุทธิพงษ์ พิมพิสาร 'เบิ้ม' มอบตัว ปัดลงมือฆ่ารัดคอ'เอกยุทธ' ซัด 'สันติภาพ' บีบคอตายก่อน ได้ 1 แสน ตร.พาชี้จุดทำแผน ขณะที่ คนขับรถ ขอโทษญาติ อ้าง ไม่ได้ตั้งใจฆ่า ด้าน รองนายกฯเฉลิม ยินดี 'อภิสิทธิ์-หมอพรทิพย์'ร่วมสอบ

นายสุทธิพงษ์ พิมพิสาร อีกหนึ่งผู้ที่ถูกออกหมายจับ ในคดีอุ้มฆ่า นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจนครบาล โดยยอมรับว่า ร่วมกับ นายสันติภาพ เพ็งด้วง คนขับรถของนายเอกยุทธ ก่อเหตุจริง แต่อ้างว่า นายสันติภาพ เป็นผู้ลงมือฆ่านายเอกยุทธ ขณะวิ่งหนีลงไปจากรถ บริเวณย่านร่มเกล้า จากนั้นตนทำตามคำสั่งของนายสันติภาพ ด้วยการเอาเชือกรองเท้า รัดคอ นายเอกยุทธ หลังเสียชีวิตแล้วเท่านั้น และได้ช่วยขนย้ายและฝังอำพรางศพที่จังหวัดพัทลุง โดยได้เงินตอบแทน 100,000 บาท และหลังจากเสร็จภารกิจ นายสันติภาพ ขับรถพาตนมาทิ้งไว้ที่ อ.โพธิ์ทอง โดยหลังจากนี้ ตำรวจจะนำตัว นายสุทธิพงษ์ ขึ้นเครื่องไปชี้จุดก่อเหตุที่ จังหวัดพัทลุง ก่อนฝากขัง

ด้าน พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ตำรวจทำตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมได้ทำหนังสือเชิญ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันทน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม มาร่วมตรวจสอบในคดี เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและพร้อมเปิดรับข้อมูลทุกด้าน

 

'บอล'ขอโทษญาติ 'เอกยุทธ'อ้างไม่ตั้งใจฆ่า'เบิ้ม'ลงมือ

พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสดิ์ ผกก.สน.วังทองหลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว นายสันติภาพ หรือ บอล เพ็งด้วง คนขับรถของ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดัง ออกมาจากห้องขังของ สน.วังทองหลาง เพื่อนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเพิ่มเติม ในการชี้จุดที่ซ่อนปืนในรถตู้ โดยมีการจำลองเหตุการณ์บริเวณด้านหน้าของ สน.วังทองหลาง

ทางด้าน นายสันติภาพ ที่วันนี้อยู่ในอาการอิดโรย กล่าวว่า เมื่อคืนนอนหลับสบายดี และอยากกล่าวฝากขอโทษญาติของ นายเอกยุทธ เพราะตนไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ถึงขั้นเสียชีวิต เนื่องจากได้ตกลงกับเพื่อนแล้วว่า หลังได้เงินแล้ว จะแยกย้ายกันหลบหนี แต่ นายสุทธิพงษ์ หรือ เบิ้ม พิมพิสาร นั้น เป็นคนรัดคอ นายเอกยุทธ จนเสียชีวิต

ทางด้าน ผกก.สน.วังทองหลาง กล่าวว่า ในการคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปขออำนาจศาลอาญา รัชดาภิเษก ฝากขังวันนี้ จะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ 1 หมู่ หรือ 12 นาย ในการดูแลความเรียบร้อย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ไปรับตัว นายทิวากร เกื้อทอง และ นายชวลิต วุ่นชุม จากห้องขังของ สน.หัวหมาก มาที่ สน.วังทองหลาง แล้ว เพื่อเตรียมส่งตัวไปฝากขังที่ศาลวันนี้

 


"พล.ต.ต.อนุชัย"พร้อม สอบ เสธ.เอี่ยวคดีเอกยุทธ

พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ว่า สำหรับผู้ต้องหาอีก 1 ราย  คือ นายสุทธิพงษ์ พิมพิสาร หรือ เบิ้ม ที่ยังหลบหนี มีรายงานว่า ได้ประสานจะพาเข้ามอบตัววันนี้จริง ส่วนการติดตาม เซิร์ฟเวอร์ จากกล้องวงจรปิดภายในบ้านพักนั้น ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างเร่งติดตาม โดยในวันนี้ พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เดินทางไปตรวจสอบในพื้นที่ จ.พัทลุง คาดว่าจะมีความชัดเจนวันนี้

นอกจากนี้ ยังกล่าวด้วยว่า หากทนายความของ นายเอกยุทธ มีข้อมูล หรือเบาะแสเกี่ยวกับคดี โดยเฉพาะกรณีอ้างว่ามี เสธ. คนดัง เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังนั้น ก็สามารถให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ โดยในฐานะที่เป็นประธานสอบสวนคดีดังกล่าว ยินดีรับข้อมูลและพร้อมตรวจสอบ

 

ตร.คุม 'บอล' ชี้ตัว 'เบิ้ม' ก่อนฝากขัง

พ.ต.ท.ณัฐนิติ หลุ๊ดหล๊ะ สารวัตรป้องกันและปราบปราม สน.วังทองหลาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ คุมตัว นายสันติภาพ เพ็งด้วง ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าชิงทรัพย์ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง ออกจาก สน.วังทองหลาง แล้ว เพื่อนำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล และชี้ตัว นายสุทธิพงษ์ หรือ เบิ้ม พิมพิสาร ผู้ร่วมก่อเหตุ ที่เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนด้วย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เข้ามาเก็บดีเอ็นเอของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ว่าตรงกับ
ดีเอ็นเอที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุหรือไม่ และล่าสุดขณะนี้ พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง อีก 1 ชุด ได้คุม
ตัว นายทิวากร เกื้อทอง และ นายชวลิต วุ่นชุม ผู้ต้องหาที่ร่วมกับ นายสันติภาพ ฆ่าชิงทรัพย์ นายเอกยุทธ
ออกจาก สน.วังทองหลาง ไปฝากขังที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก แล้ว โดยมีรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามประกบ
ท้ายไปด้วยอีก 1 คัน ซึ่งเจ้าหน้าที่คุมตัว นายทิวากร และ นายชวลิต ถึงศาลแล้ว ก็รอให้เจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่ง
คุมตัว นายสันติภาพ มาถึงศาล จึงจะยื่นคำร้องฝากขังพร้อมกันทั้ง 3 คน

 

ทนายเอกยุทธมั่นใจCCTVเป็นหลักฐานสำคัญ

นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ ที่ถูกฆาตกรรมเสียชีวิต เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สำหรับคดีการเสียชีวิตของนายเอกยุทธนั้น ขณะนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการดำเนินการสืบสวนสอบสวน โดยเฉพาะการตามหาเซิร์ฟเวอร์ จากกล้องวงจรปิดที่ถูกคนร้ายถอดออกไปจากบ้านพัก ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีเบาะแส หรือข้อมูลที่สำคัญอยู่ในนั้น หากได้ข้อมูลตรงนั้นมา ก็เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมากขึ้น ส่วนกรณีที่ ตนเองสงสัยว่า อาจจะมี เสธ. คนดัง บงการอยู่เบื้องหลังนั้น ยังไม่ได้มีการกล่าวหาใคร แต่ยืนยันว่ามีข้อมูลและมั่นใจว่าการสังหารครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ประเด็นชิง
ทรัพย์เพียงอย่างเดียว แต่ข้อมูลและพยานหลักฐานจะสาวไปถึงหรือไม่นั้น ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ

อย่างไรก็ตาม นายสุวัตร ยืนยันว่า ไม่ติดใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีการพูดคุยและประสานข้อมูลกับตนมาตลอด ตั้งแต่การให้เข้าร่วมในการสอบปากคำ นายสันติภาพ เพ็งด้วง ผู้ต้องหา

 

ผบ.ทบ. ขู่ฟันทหารโยงคดี 'เอกยุทธ'

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงคดีฆาตกรรม นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และเจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ ที่มีการพาดพิงถึงนายทหารระดับสูงของกองทัพ โดยกล่าวว่าขณะนี้เป็นเพียงกระแสข่าว ซึ่งยังไม่ทราบว่าทหารคนดังกล่าวเป็นใคร จึงไม่อยากให้นำเรื่องนี้มาเชื่อมโยงกัน และควรปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาความจริง ส่วนกรณีที่มีนายทหารของกองทัพเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็ต้องถูกลงโทษตามกกฎหมายและทางวินัย เพราะที่ผ่านมา ได้เน้นย้ำกับผู้บังคับหน่วยทุกคนให้ดูแลกำลังพล อย่าให้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย และหากกระทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ เพราะทำให้กองทัพเสื่อมเสีย

ทั้งนี้ ยังไม่ต้องการให้ทุกฝ่ายรวมถึงสื่อมวลชน ชี้นำสังคม เพราะยังไม่ทราบข้อเท็จจริงแน่ชัด ซึ่งย้ำว่าจะต้องรอผลพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์

 

ฝากขัง 3 มือฆ่า เอกยุทธ แจ้ง 7 ข้อหาหนัก

พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง คุมตัว นายสันติภาพ เพ็งด้วง นายทิวากร เกื้อทอง และ นายชวลิต วุ่นชุม
3 ผู้ต้องหาที่ ร่วมกันฆ่าชิงทรัพย์ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง มาขอ
อำนาจศาลอาญา รัชดาภิเษก เพื่อทำการฝากขังผลัดแรก เนื่องจากการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ และต้องรอการ
สอบพยานเพิ่มเติม รอผลการพิมพ์มือ การตรวจสอบประวัติอาชญากรของผู้ต้องหา จึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้
เป็นเวลา 12 วัน นับจากวันนี้ถึงวันที่ 25 มิ.ย.นี้ โดยพนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ ทั้ง 3 คน 7 ข้อหา
หนัก อาทิ ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย/ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน/
ร่วมกันปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทั้งนี้ ในท้ายคำร้องของพนักงานสอบสวน ได้ยื่นคัดค้านการประกันตัว ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เนื่องจากคดีนี้เป็นคดี
อุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และอยู่ในความสนใจของประชาชน ผู้ต้องหาไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัว เกรงว่าอาจหลบหนี ศาลพิเคราะห์แล้ว สอบถามผู้ต้องหาไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้

 

ผบ.สส.โยนตร.สอบเสธ.คนดังโยง'เอกยุทธ'

พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวถึงกระแสข่าว ที่มี นายทหารระดับสูง เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และเจ้าของเว็บไซต์ ไทยอินไซเดอร์ โดยกล่าวไม่ทราบเรื่องนี้ว่า มีข้อเท็จจริงอย่างไร ซึ่งการที่ทหารของกองทัพ จะมีส่วนเกียวข้องหรือไม่นั้น ทางกองทัพ ก็ไม่สามารถที่จะทราบได้ เนื่องจาก กองทัพมีบุคลากรอยู่มากมาย จึงปล่อยให้เป็นเรื่องส่วนตัวและควรให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการหาข้อเท็จจริง ซึ่งกองทัพยินดีจะให้ความร่วมมือเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ พล.อ.ธนะศักดิ์ ยังเลี่ยงที่จะพูดถึงกระแสข่าวการโยกย้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก โดยให้เหตุผลว่า เป็นเรื่องของอนาคต ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ซึ่งรวมถึงกระแสข่าวการปฏิวัติรัฐประหารด้วยเช่นเดียวกัน

 

งมทรัพย์สินเอกยุทธที่หัวไทร7 ช.ม. ยังเหลว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทาง พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้นำกำลังชุด
ประดาน้ำได้ลงพื้นที่บริเวณสะพานแพร่งเมือง อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เพื่อหาของกลาง คือ สร้อยนาฬิกา เสื้อผ้า รวมทั้งทรัพย์สินส่วนตัวของ นายเอกยุทธ ตามคำให้การของ นายสันติภาพ เพ็งด้วง และ นายสุทธิพงศ์ หรือ เบิ้ม พิมพิสาร ผู้ต้องหารายล่าสุดที่ตำรวจจับกุมตัวได้ ซึ่งล่าสุด ผ่านไปนานกว่า 7 ชั่วโมงแล้ว ก็ยังไม่พบทรัพย์สินดังกล่าว

 

ศาลพิจารณาให้ฝากขัง3มือสังหาร'เอกยุทธ'

ภายหลังพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ควบคุมตัว นายสันติภาพ เพ็งด้วง, นายชวลิต วุ่นชุม และ นายทิวากร เกื้อทอง ผู้ต้องหาคดีอุ้มฆ่าและอำพรางศพ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง ไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาเมื่อเช้านี้ ล่าสุด ศาลได้พิจารณาคำร้องขอฝากขังแล้ว อนุญาตให้ฝากขังทั้ง 3 คน ผลัดแรก เป็นเวลา 12 วัน โดยในวันนี้ไม่มีญาติของทั้ง 3 คน เดินทางมาขอยื่นประกันตัวแต่อย่างใด จากนั้น ทางเจ้าหน้าที่จากกรมราชทัณฑ์ ได้ควบคุมตัวทั้ง 3 ไปขังที่เรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพแล้ว

 

ผู้การเมืองคอนเผยยังไม่พบของ'เอกยุทธ'

พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.
ถึงกรณีตามหาทรัพย์สินของ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ว่า ทางทีมงานได้นำกำลังชุดประดาน้ำได้ลงพื้นที่บริเวณสะพานแพร่งเมือง อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ตามคำให้การรับสารภาพของ นายสันติภาพ เพ็งด้วง และ นายสุทธิพงศ์ พิมพิสาร ผู้ต้องหาฆ่า นายเอกยุทธ ว่า ได้นำทรัพย์สินของคนตาย ประกอบด้วย สร้อย แหวน นาฬิกา เสื้อผ้า มาทิ้งไว้ในบริเวณดังกล่าว แต่จากการค้นนานกว่า 8 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่พบอะไร ซึ่งทางทีมงานยังคงทำการค้นหาต่อไปจนถึงช่วงเย็น ถ้าหากยังไม่พบคงต้องมาประเมินกันใหม่ว่า จุดที่ผู้ต้องหาบอกถูกต้องหรือไม่

 

เฉลิมยินดีอภิสิทธิ์หมอพรทิพย์ร่วมสอบคดีฆ่าเอกยุทธ

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และทนายความ สุวัตร อภัยภักดิ์ ได้ออกมาระบุว่า การเสียชีวิตของ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง เป็นการฆาตกรรมอำพราง ซึ่งคดีดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับคดีทนายความ สมชาย นีละไพจิตร แต่ว่าตำรวจกลับสรุปประเด็นเป็นการชิงทรัพย์ ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่า ขณะนี้ได้ทำหนังสือเชิญ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ให้เข้ามาร่วมตรวจสอบในคดี พร้อมเชิญบุคคลทั้ง 4 มาให้ข้อมูลและชี้แจงข้อสงสัยต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยการชี้แจงจะทำต่อหน้าสื่อมวลชน แต่หากการชี้แจงของบุคคลทั้ง 4 ยังไม่สามารถสรุปผลได้ จะให้มีการยื่นคณะกรรมาธิการตำรวจ ให้ดำเนินการเชิญบุคคลทั้งหมดมาชี้แจงประเด็นดังกล่าวอีกครั้งเพื่อให้เกิดความโปร่งใสขึ้น ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังเชื่อว่า คดีดังกล่าวตำรวจได้ทำถูกต้องตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานทุกอย่าง

 

ผกก.สภ.หัวไทรลั่นยังไม่พบทรัพย์'เอกยุทธ'

พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรขาวเขียว ผกก.สภ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงกรณีตามหาทรัพย์สินของ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ว่า คณะค้นหาได้นำกำลังชุดประดาน้ำของตำรวจลงงมหา บริเวณคลองใต้สะพานแพร่งเมือง อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่เช้าจนถึงเวลานี้ ยังไม่พบสิ่งของใดๆ ของ นายเอกยุทธ เลย ทั้งนี้ คลองดังกล่าวมีความลึกและนำเชี่ยวมาก เพราะเป็นคลองที่เชื่อมกับทะเล ห่างจากปากอ่าวประมาณแค่ 100 เมตร แต่ทางทีมค้นหายังมั่นใจว่า ทรัพย์สินต่างๆ ยังไม่น่าจะถูกน้ำพัดออกทะเลไป อย่างไรก็ตาม การค้นหาน่าจะไปถึงช่วงเย็น จากนั้นคงต้องมาประเมินว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

 

หมอพรทิพย์เมินเฉลิมเชิญสางคดีเอกยุทธ

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรม เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. กรณีที่ สน.วังทองหลาง ที่รับผิดชอบในการทำสำนวนคดีอุ้มฆ่า นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ได้ทำหนังสือเชิญมาร่วมให้ข้อมูลและสังเกตการณ์ในการทำคดี ว่า ยังไม่ได้รับหนังสือเชิญดังกล่าว โดยทราบจากทางสื่อเท่านั้น และหนังสือดังกล่าวก็ไม่ได้ระบุว่าเชิญตนไปในฐานะอะไร เพราะขณะนี้อยู่ในตำแหน่งผู้ตรวจการกระทรวงยุติธรรม ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะถ้าจะให้ร่วมตรวจพิสูจน์หลักฐาน ก็น่าจะทำหนังสือเชิญไปยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มากกว่า 

อย่างไรก็ตาม หากระบุว่า เป็นการขอร้องส่วนตัว ก็คงมาไม่ได้เช่นกัน เพราะว่าทางตำรวจทำเรื่องขอมาเป็นหนังสือราชการ ก็ต้องให้สังกัดที่รับผิดชอบประสานกัน ส่วนตนนั้นไม่มีหน้าที่แล้ว ทั้งนี้ หากญาติ นายเอกยุทธ จะขอร้องให้ช่วยดำเนินการนั้น คงต้องขอดูความเหมาะสมก่อน

 

นำเบิ้มทำแผนฝังศพ 'เอกยุทธ' 4 จุดที่พัทลุง

พล.ต.ต.นัยวัฒน์ เผดิมชิต ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน หน่วยปฏิบัติการพิเศษพัทลุง ได้นำตัว นายสุทธิพงศ์ พิมพิสาร หรือ เบิ้ม อายุ 27 ปี 1 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ที่ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล เมื่อเช้าที่ผ่านมา นำตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คดีฆ่าฝังศพ นายเอกยุทธ ในพื้นที่ จ.พัทลุง 4 จุด โดยจุดแรกเริ่มจากที่ริมคลองชลประทานริมถนนสายเอเชีย ที่ผู้ต้องหานัดแนะกับพวก 2 คน มารอรับ และเดินทางเข้าจุดที่ขุดหลุมฝังศพในพื้นที่ หมู่ 8 บ้านเขาจิงโจ้ ต.ชัยบุรี อ.เมือง และช่วยกันนำศพฝังยังจุดดังกล่าว ต่อจากนั้นได้เดินทางไปที่โรงแรมบังกะโล โทนี ในเขตเทศบาลเมือง ก่อนได้เปิดห้องแบ่งเงินและนอนพักที่โรงแรมดังกล่าว โดยที่ตนได้เงินเพียง 1 แสนบาท และรุ่งขึ้นอีกวันก็ได้ไปแวะทานกาแฟที่บริเวณห้างโลตัสพัทลุง ก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนี

ซึ่งหลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำตัวขึ้น ฮ. ของตำรวจ ก่อนที่จะนำตัวขึ้นเครื่องบินกลับ เพื่อนำไปทำแผนในพื้นที่ กทม. ต่อไป

 

 

***ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง***

 

บช.น.ย้ำฆ่าเอกยุทธไม่เกี่ยวเสธ.ไอซ์ - 'เบิ้ม'มอบตัวน.1

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=459088

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook