ผบ.ตร.เผย"สันติภาพ"เป็นอดีตนักเลง ฉายา"บอลนูโว พัทลุง" ปัดรีบเร่งปิดคดี แค่โชคดีได้ผู้ต้องสงสัยเร็ว
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูล นายสันติภาพ หรือบอล เพ็งด้วง พบว่าเป็นนักเลงในพื้นที่ จ.พัทลุงซึ่งรู้กันดี มีฉายาว่า "บอลนูโว พัทลุง" มีประวัติอาชญากรรมเกี่ยวกับการชิงทรัพย์และกรรโชกทรัพย์มาก่อน หลังตรวจสอบภูมิหลังในการเข้ามาทำงานกับนายเอกยุทธก็พบว่า ที่นายเอกยุทธรับเข้ามาทำงานเพราะดูหน่วยก้านแล้วเป็นคนใจถึง ครั้งแรกมาทำงานเป็นหน่วยรักษาความความปลอดภัยเมื่อปลายปี 2555 ก่อนขยับขึ้นมาเป็นคนขับรถ
"ทั้งนี้ จากการซักถามพบว่า เหตุจูงใจที่ก่อเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากความแค้น และมีการชิงทรัพย์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ตนอยู่ที่ภาคใต้มาก่อนรู้ว่า คนพัทลุงเป็นคนจริงใจ คนนักเลง เขาเป็นคนที่ซื่อๆ ตรงๆ อาจจะแปลกกว่าอาชญากรรมอื่นที่เกิดขึ้นแต่เป็นของจริง ทำก็ทำจริง และเมื่อทำก็รับว่าทำจริง การก่อเหตุของคนภาคใต้มาจากความจริงใจความรักเพื่อน เมื่อเพื่อนขอร้องให้ช่วยก็ทำ จึงไม่กล้าปฏิเสธเพื่อน" ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวด้วยว่า การสืบสวนสอบสวนยืนยันว่าตำรวจไม่ได้เร่งปิดคดี แต่ทำงานในเชิงบูรณาการที่มีความรวดเร็วโดยการใช้เครื่องบิน ทุกฝ่ายช่วยกันหมด ทั้งเก็บหลักฐาน การชันสูตรศพ รวมถึงการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และทางผู้ต้องหาก็อยู่กับตำรวจได้เพียงแค่ 48 ชม. จึงต้องมีการเร่งรีบทำงาน อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่จบคดีเพราะยังมีหลายสิ่งที่ต้องทำเพิ่ม แต่ก็ทำด้วยความรวดเร็วเหมือนเดิม นอกจากนี้ ยินดีที่จะเปิดรับข้อมูลของคดีจากฝ่ายอื่นๆ โดยจะเปิดศูนย์หมายเลขด่วน 1599 ที่ใครมีข้อมูลก็สามารถแจ้งเข้ามาได้เพื่อจะประกอบในคดี พร้อมทั้งจะเชิญ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ มาช่วยในการให้ข้อมูลข้อสังเกตของคดีด้วย โดยจะทำหนังสือเชิญไปวันนี้ แต่หากท่านไม่ว่างก็จะให้ตำรวจไปหารือ ทั้งนี้เพื่อให้สังคมเห็นถึงหลักฐานต่างๆ ยืนยันและให้มั่นใจว่าตำรวจปฏิบัติตามขั้นตอนตามกฎหมายทุกอย่าง พร้อมทั้งสามารถตอบกับทางสังคมได้หมด
"เราอาจจะโชคดีที่ได้รถตู้และผู้ต้องสงสัยรวดเร็ว ทำให้คดีมีความคืบหน้า และตำรวจทำตามสิ่งที่ปรากฏ แต่ว่าช่วงต้นของคดีตำรวจทำงานก็ต้องระมัดระวังเพราะนายเอกยุทธเป็นคนที่มีชื่อเสียง และอยู่ในแวดวงความขัดแย้งทางการเมือง ก็ต้องระวังในช่วงต้นว่าต้องให้ข่าวอย่างไร เพราะเกรงว่าถูกจับตัวไปก็จะมีอันตราย ก็ต้องระวังในการซักถามผู้ต้องหา กระทั่งเกิดความรอบคอบในการซักถามผู้ต้องหาจนมีการรับสารภาพจึงได้เปิดมาตามขั้นตอน และทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานความจริงที่มีอยู่" ผบ.ตร.กล่าว
(ขอบคุณภาพข่าวจาก innnews)