โอ๊คFBยันเจ๊งจำนำข้าวไม่ถึง2.6แสนล.อย่าวัดแค่กำไร
'พานทองแท้' ยอมรับผ่าน FB จำนำข้าวไม่มีทางได้กำไร เชื่อ ข้าวราคาดี ชาวนาจะกลับมาไถ่ถอนคืน ยันขาดทุน ไม่ถึง 2.6 แสนล้าน ซัด ปชป. อย่าวัดแค่กำไร ขณะที่ ''วราเทพ'' ยัน 18 มิ.ย. รู้ผลขาดทุน-ปรับวงเงินจำนำข้าว ปัด ตอบลด 13,000/ตัน
นายพานทองแท้ ชินวัตร โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงโครงการรับจำนำข้าว ว่า นโยบายหาเสียงของ "พรรคเพื่อไทย" ที่ได้ทำ "สัญญาประชาคม" ไว้กับ "กระดูกสันหลังของชาติ" คือ การ "รับจำนำข้าว" การดำเนินการจำนำข้าวในช่วงแรก เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่จะทำให้ "ชาวนาไทย ได้ลืมตาอ้าปาก" มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับชาวนาชาติอื่นๆ รัฐบาลเพื่อไทย ได้กำหนดราคารับจำนำข้าวไว้ที่ "เกวียนละ 15,000 บาท" ขาดตัว พรรคประชาธิปัตย์ พยายามจะโจมตีรัฐบาลว่า จำนำข้าวขาดทุน 2 แสน 6 หมื่นล้าน รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ก็ยืนยันว่ามันไม่มากขนาดนั้น ปีหนึ่งน่าจะอยู่ที่ 6 หมื่นกว่าๆ หรือถ้าคิดแบบขายข้าวที่มีอยู่ ได้ราคาต่ำสุด ประมาณแสนกว่าๆ ประชาชนเมื่อได้ฟังทั้ง 2 ฝ่ายเถียงกัน ว่าขาดทุนมาก หรือขาดทุนน้อย ยังไงก็เป็นผลเสียต่อรัฐบาล เพราะประชาชนจะเข้าใจว่า รัฐบาลบริหารไม่ดี ทำให้โครงการขาดทุนไม่มากก็น้อย จริงๆ แล้วการรับจำนำข้าวเป็นโครงการที่ไม่หวังผลกำไร รัฐจะต้องชดเชยส่วนต่างของราคาให้กับชาวนาในกรณีที่ราคาข้าวในตลาดโลก ไม่ถึงหมื่นห้า ซึ่งยังไงๆ ก็ไม่ถึงอยู่แล้ว
เรื่องกำไรไม่ต้องพูดถึง ต่อให้ราคาข้าวในตลาดโลกราคาเกินหมื่นห้าขึ้นไป สมมุติอยู่ที่ 18,000-20,000 โครงการก็ไม่กำไรอยู่ดี เพราะว่าในเมื่อชาวบ้านจำนำไว้หมื่นห้า ถ้าราคาข้าวขึ้นเป็น 2 หมื่น กำไรก็ตกเป็นของชาวนาไม่ใช่รัฐบาลอยู่ดี เพราะชาวนาก็จะมาไถ่ข้าวไปขายเองเพราะได้กำไรมากกว่า เพื่อความโปร่งใส และหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิด รัฐบาลควรจะประกาศไปเลยว่า ราคาข้าวในตลาดโลกเท่าไร ราคาที่จะรัฐจะรับจำนำในปีนี้จะเป็นเท่าไร ปริมาณผลผลิตข้าวที่เข้าโครงการเท่าไร ใน 1 ตัน จะขาดทุน 3 พัน 5 พัน ก็ว่ากันไป หักลบกลบหนี้เรียบร้อย ต้องนำเงินภาษีอากรไปชดเชย กี่หมื่น กี่แสนล้าน ก็บอกไป พี่น้องประชาชนจะคิดเองว่า เห็นด้วยหรือไม่ ในนโยบายจำนำข้าว ไม่ใช่ทำงานคิดนโยบายมาแทบตาย แต่กลับปล่อยให้พรรคฯ อื่น มาตีกินคะแนนไปแบบนี้
'วราเทพ'ย้ำรู้ผลขาดทุนจำนำข้าว18มิ.ย.นี้
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมการติดตามดำเนินโครงการการรับจำนำข้าวเปลือก 4 จังหวัดภาคกลาง ว่า ในเรื่องตัวเลขของการรับจำนำในขณะนี้ ยังคงมีความคิดเห็นที่แตกต่าง รวมไปถึงข้อมูลในการประเมิน โดยทางคณะอนุกรรมการปิดบัญชี ของทางกระทรวงการคลัง ประเมินการขาดทุนไว้สูงกว่าทางกระทรวงพาณิชย์ที่ได้มีการประเมิน โดยตัวเลขที่แตกต่างกันนั้น เกิดจากการประเมินมูลค่าสินค้าคงเหลือ ซึ่งในเรื่องนี้จะยึดตัวเลขใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่าจะมีการพิจารณา ในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ จนได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งเบื้องต้น มองว่าหากเป็นการดำเนินงานด้านงบประมาณนั้น จะมีการประเมินความเสี่ยงสูงเป็นหลัก โดยอาจยึดถือตัวเลขของทางคณะอนุกรรมการปิดบัญชี
ก็เป็นได้ เพราะมีตัวเลขที่สูงกว่าทางกระทรวงพาณิชย์
นอกจากนี้ นายวราเทพ ยังเปิดเผยภายหลังการประชุมในการติดตามดำเนินโครงการการรับจำนำข้าวเปลือก 4 จังหวัดภาคกลาง ว่า เบื้องต้นจากการสอบถามเกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า โครงการการรับจำนำข้าวของรัฐบาล มีต้นทุนในการดำเนินการที่สูง จึงจะมีการนำเรื่องดังกล่าวนั้น เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. ในวันที่ 17 มิถุนายนนี้ เพื่อหาแนวทางในการปรับปรุงโครงการ โดยมุ่งเน้นการลดภาระในการดำเนินโครงการเป็นหลัก แต่จะยังไม่คิดปรับลดราคาในการรับจำนำ ให้เหลือที่ 13,000 บาทต่อตัน และเรื่องทั้งหมดจะมีการสรุปเพื่อเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา ซึ่งคาดว่า ในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
ชวนนท์ถามนายกปมจำนำข้าวทำอย่างไรต่อ
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ อาทิ ตัวเลขเรื่องการจำนำข้าวที่ นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมากล่าวว่า ตัวเลข 130,000 ล้านบาทนั้น เป็นตัวเลขปีเดียว แต่ทางพรรคพูดหลายครั้งแล้วว่าเป็นตัวเลขที่นับใน 3 ฤดูกาล คือ ปี 2554-2555 ของนาปี นาปรัง 2555 และ 2555/2556 ของนาปี และการที่รัฐบาล นับเพียง 2 ปีเพื่อที่จะให้ดูว่าขาดทุนน้อยลง ก็ดูไม่แปลก แต่ถ้านับ 3 ฤดูกาล จะพบว่าขาดทุน 2.2 แสนล้าน จึงอยากถามนายกรัฐมนตรีว่าจะดำเนินเรื่องดังกล่าวต่อไปอย่างไร อีกทั้ง การขาดประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช.แสดงให้เห็นถึงความไม่รับผิดชอบ ตลอดจนประเทศไม่สามารถรับสภาพในการขาดทุนปีละ 2 แสนล้าน ให้เข้ากระเป๋านักการเมือง ปีละ 1.4 แสนล้าน ได้
ที่มา http://www.facebook.com/oakpanthongtae