สั่งประหาร"ด.ต.มนัส"กับพวกอีก 2 ค้ายาเสพติดกว่า 400 ล้าน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 มิถุนายน ที่ศาลจังหวัดลำปาง ผู้พิพากษาศาลจังหวัดลำปาง ออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาคดี ด.ต.มนัส เสือโพธิ์ อดีต ผบ.หมู่งานจราจร สน.ประชาชื่น กรุงเทพฯ ขับรถขนยาบ้ากว่า 1,200,000 เม็ด และยาไอซ์ 5 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท ถูกจับกุมวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ 2555 ยังมีผู้ต้องหาอีก 2 คน คือ นายฐิติ เพ็งสุข และ นายกฤษฎา เกตุประทุม ทั้งสองเป็นคนขับรถนำขบวนตรวจสอบด่าน ก่อนรถลำเลียงยาเสพติดจะมาถึง
ผู้พิพากษาศาลอ่านคำพิพากษาว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คน กระทำผิดจริง จึงตัดสินให้ลงโทษประหารชีวิต แต่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี และให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ หลังถูกจับกุม โดยเฉพาะข้อมูลในทางลับของกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด ทางศาล จึงลดโทษจากประหารชีวิต ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้เหลือโทษจำคุกคนละ 25 ปี
หลังผู้พิพากษาอ่านคำพิพากษาตัดสินคดีเสร็จผู้ต้องหาทั้ง 3 คนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจศาล ควบคุมตัวลงไปไว้ที่ห้องขังใต้ศาลจังหวัดลำปางทันที เพื่อรอให้รถเคลื่อนย้ายผู้ต้องขัง นำตัวไปเรือนจำกลางลำปาง ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง พร้อมอาวุธครบมือ กระจายกำลังดูแลรักษาความเรียบร้อยอย่างเต็มที่
สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นคืนของวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.2555 โดย ด.ต.มนัสได้ขับรถยนต์อีซูซุ มิวเซเว่น สีเทา ทะเบียน ญภ 8415 กรุงเทพมหานคร เป็นป้ายทะเบียนปลอม ขนยาบ้ากว่า 1,280,000 เม็ด และยาไอซ์ จำนวน 5 กิโลกรัม จาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย ไปส่งยังกรุงเทพมหานคร
จนกระทั่งขับมายังถึง อ.งาว จ.ลำปาง ได้ขับรถแหกด่าน ตรวจของตำรวจ สภ.งาว หนีไปพุ่งชนบ้านชาวบ้านพัง จากนั้น ด.ต.มนัส พร้อมอาวุธปืนประจำกายได้หลบหนีเข้าไปอยู่ในป่านานถึง 2 วัน ก่อนที่จะตัดสินใจใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อขอมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ นับเป็นคดีที่ใหญ่ที่สุดในปี 2555 ที่มีการจับกุมกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ และสามารถขยายผลยึดทรัพย์ได้มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท
โดยในการจับกุม ด.ต.มนัส ได้เพียงคนเดียว สามารถทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดของ พ.ท.ยี่เซ หรือที่เรียกว่า นายชัยวัฒน์ พรสกุลไพศาล เป็นชาวเขาเผ่ามูเซอดำ และเจ๊เพ๊ญ หรือ นางสุชาดา ทวยพา ที่ยังหนีการจับกุมตามหมายศาล หลัง ด.ต.มนัส ถูกจับกุมได้ นับเป็นการทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดครั้งใหญ่สุดในปีดังกล่าว มีการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายนานถึง 8 เดือน จึงถึงวันพิจารณาคดีตัดสินในที่สุด
ขอบคุณภาพข่าวจาก innnews