แพทยสภาถกออกเกณฑ์ตัดไข่8ม.ค.นี้ วัย20ปีทำได้-อายุต่ำกว่าพ่อแม่ยินยอม
ชงแพทยสภาฟันธงร่างเกณฑ์ตัดไข่ 8 ม.ค.นี้ ระบุวัยตั้งแต่ 20 ปีทำได้เลย อายุ 18-20 ปี ต้องให้ผู้ปกครองเห็นชอบ มีจิตแพทย์ 2 คนร่วมประเมิน ทดลองแต่งสาว ใช้ชีวิตเป็นหญิง 1 ปี เสนอถกออกประกาศควบคุมสัก เจาะ ฝังมุกจุดสำคัญ เสี่ยงเน่า ติดเชื้อ
เมื่อวันที่ 6 มกราคม นาวาอากาศเอก (พิเศษ) นพ.อิทธพร คณะเจริญ ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา เปิดเผยว่า ตามที่มีปัญหาการตัดอัณฑะในกลุ่มเด็กผู้ชายที่ต้องการแปลงเพศเป็นหญิง แพทยสภาได้ตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การแปลงเพศ โดยทำประชาพิจารณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยจะเสนอร่างข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม เรื่องเกณฑ์การรักษาเพื่อการแปลงเพศ พ.ศ.... ให้ที่ประชุมแพทยสภาพิจารณาในวันที่ 8 มกราคมนี้
ทั้งนี้ สาระสำคัญของร่างข้อบังคับกำหนดว่า ผู้ที่จะแปลงเพศได้ต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ถือว่าเป็นผู้ใหญ่ไม่ต้องขอคำรับรจากผู้ปกครอง แต่หากอายุ18-20 ปี ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง แต่ถ้าต่ำกว่า 18 ปี กฎหมายจะไม่อนุญาตให้แปลงเพศถาวร อย่างไรก็ตาม ก่อนแปลงเพศจะต้องผ่านการวินิจฉัยจากจิตแพทย์ 2 คน เพื่อให้มั่นใจว่าต้องการแปลงเพศจริงๆ รวมทั้งจะต้องทดลองใช้ชีวิตข้ามเพศแต่งตัวเป็นผู้หญิง 1 ปี เพื่อดูผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน มีปฏิกิริยายอมรับได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาครอบครัว หรือที่ทำงานภายหลัง นอกจากนี้จะมีแพทย์ต่อมไร้ท่อเข้ามาดูแลช่วยเตรียมความพร้อมสภาพร่างกาย ส่วนกรณีเยาวชนอาจต้องมีกุมารแพทย์เข้ามาช่วยดูแล
ถ้าที่ประชุมแพทยสภาเห็นชอบ จะส่งให้ รมว.สาธารณสุข ลงนามเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา คาดว่าจะบังคับใช้ได้ 1 เดือนจากนี้ เพื่อคุ้มครองคนไข้ที่คิดจะแปลงเพศให้รู้ว่ามีมาตรฐานอย่างไร และสถานพยาบาลที่ให้บริการทั้งหมดต้องทำเป็นมาตรฐานเดียวกันตามเกณฑ์นี ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่ทั่วโลกยอมรับ นาวาอากาศเอก (พิเศษ)นพ.อิทธพร กล่าว
นาวาอากาศเอก (พิเศษ)นพ.อิทธพร กล่าวว่า ในวันเดียวกันจะหารือที่ประชุมแพทยสภาเพื่อออกประกาศแพทยสภามาควบคุมการสักเจาะ เนื่องจากการสักเจาะไม่ได้มาตรฐานอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณสำคัญ เช่น สักหัวนมสีชมพู สักริมฝีปากเพื่อลบรอยคล้ำดำ ซึ่งทั้ง 2 จุด อาจเกิดการติดเชื้อและเน่าได้ ถ้าเห็นว่าควรควบคุม ต่อไปการสักบริเวณดังกล่าวก็ต้องทำโดยแพทย์เท่านั้น ซึ่งการให้บริการสักเจาะน่าเป็นห่วงอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเปิดให้บริการข้างถนน และอาจหารือในที่ประชุมถึงกรณีฝังมุกว่าจะอยู่ในข่ายด้วยหรือไม่