ดูชัดๆ เปรียบเทียบสิทธิเลือกตั้ง 179-72 เสียง
ฟุตบอล : เปิดโผเปรียบเทียบรายชื่อสโมสรลูกหนังระหว่างการเลือกตั้งแบบฟีฟ่าและการเลือกตั้งแบบเดิมกูรูฟุตบอลชี้หากสมาคมฟุตบอลฯทำสำเร็จจะเป็นการล้างผีให้หมดป่าช้าและมีหลักการในการเลือกตั้งที่เป็นสากลบริสุทธิ์และยุติธรรม ไม่ต้องให้ใครมีผลประโยชน์ในการเลือกตั้งอีกต่อไป
สืบเนื่องจากปัญหาการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไม่เรียบร้อยมีคดีฟ้องร้อง จนกระทั่งฟีฟ่าแจ้งให้สมาคมฯไปสั่งพัทยา เอฟซี ถอนฟ้อง เพื่อดำเนินการเลือกตั้งตามกฎที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า รับรองให้เป็นไปตามหลักสากลของชาติสมาชิกกว่า 200 ประเทศ โดยกำหนดสัดส่วนตามสโมสรที่มีส่วนได้เสียต่อการพัฒนาวงการฟุตบอล ภายในวันที่ 30 กันยายน ประเทศไทยมีจำนวน 72 เสียง
กูรูลูกหนังที่คร่ำหวอดอยู่กับสมาคมฯ มาตลอดท่านหนึ่งได้กล่าวกับไทยลีกออนไลน์ ว่า หากสมาคมสามารถจัดการเลือกตั้งได้ตามที่ฟีฟ่ากำหนดได้นั้น จะถือว่าเป็นนิมิตรใหม่ของวงการลูกหนังเมืองไทย เพราะในอดีตที่ผ่านมานั้น มีการสอดแทรกเอาสโมสรลูกหนังที่มีกิจกรรมกับสมาคมเพียงครั้งและสองครั้งต่อปี เข้ามาเพื่อเป็นพรรคพวกในการเลือกตั้ง ฉะนั้นในแต่ละปี ยังไม่ทันเลือกตั้งก็รู้ได้ก่อนแล้วว่าใครจะนั่งนายกสมาคมฟุตบอล ฯ ซึ่งกูรูลูกหนังให้สังเกตรายชื่อทีมต่างๆ ในแบบเดิมทีมใด สโมสรใดมีผลงานมากน้อยขนาดไหนต่อการพัฒนาวงการฟุตบอลตามนโยบายของฟีฟ่าหรือไม่นั้น กูรูลูกหนังบอกว่า ไม่ต้องระบุชื่อสโมสรแต่คนในวงการฟุตบอลดูชื่อก็รู้กันอยู่แก่ใจ
“ก่อนโน้นคนสนใจกีฬาน้อย มีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาสนใจและรวมตัวกันเอาพรรคพวกของตนเองยึดครองสมาคมเป็นสมบัติของตนเองมาโดยตลอด ผมจำได้ว่า มีอยู่ครั้งหนึ่ง นายทหารใหญ่โตมีอิทธิพลมากๆ คนหนึ่งจะเข้าช่วยบริหารสมาคม แต่ก็ต้องรีบถอยเพราะกลัวเสียชื่อ เนื่องจากรู้ว่ามาแล้วก็ไม่ได้รับเลือก เลยถอยดีกว่า แต่ครั้งนั้นทราบว่านายทหารคนนั้นโดนนายป่าช้าหลอกเอาเงินไปเยอะมาก”
กูรูดังกล่าวยังกล่าวต่ออีกว่า หากรูปแบบการเลือกตั้งเป็นแบบฟีฟ่าและเป็นแบบที่มีข่าวออกมา จะนับเป็นครั้งแรกที่มีการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมที่สุด สมาคมฟุตบอลที่มีส่วนได้ส่วนเสียจริงๆ จะเป็นผู้มีการเลือกตั้ง พวกสโมสรผีจะหมดไป
”ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำใมต้องมีการต่อต้าน ทั้งๆ ที่มันค่อนข้างยุติธรรม และเป็นไปตามหลักการสากลที่ฟีฟ่ากำหนด ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะหากเราจะอยู่ร่วมโลกกับเขา ก็ต้องปฏิบัติตามกฏของเขา เรามีกฏหมายของเราก็จริงเหมือนอีกหลายประเทศที่บอกกฏหมายของประเทศเขาเป็นแบบนี้ สหประชาชาติเขาไม่ได้มาบังคับหรอก แต่คุณก็อย่ามาอยู่กับสหประชาชาติ ปกครองกันไปเอง โดนแบ่งชั้นหรือบอยคอทจากประชาคมโลก”
สำหรับการเปรียบเทียบคะแนนเสียงที่จะลงคะแนนเลือกตั้งระหว่างการเลือกตั้งแบบเดิมและแบบที่ฟีฟ่ากำหนดนั้น มีตารางดังนี้
แบบเดิม 179 เสียง เทียบกับจำนวนเสียงฟีฟ่ากำหนด 72 เสียง
สืบเนื่องจากปัญหาการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไม่เรียบร้อยมีคดีฟ้องร้อง จนกระทั่งฟีฟ่าแจ้งให้สมาคมฯไปสั่งพัทยา เอฟซี ถอนฟ้อง เพื่อดำเนินการเลือกตั้งตามกฎที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า รับรองให้เป็นไปตามหลักสากลของชาติสมาชิกกว่า 200 ประเทศ โดยกำหนดสัดส่วนตามสโมสรที่มีส่วนได้เสียต่อการพัฒนาวงการฟุตบอล ภายในวันที่ 30 กันยายน ประเทศไทยมีจำนวน 72 เสียง
กูรูลูกหนังที่คร่ำหวอดอยู่กับสมาคมฯ มาตลอดท่านหนึ่งได้กล่าวกับไทยลีกออนไลน์ ว่า หากสมาคมสามารถจัดการเลือกตั้งได้ตามที่ฟีฟ่ากำหนดได้นั้น จะถือว่าเป็นนิมิตรใหม่ของวงการลูกหนังเมืองไทย เพราะในอดีตที่ผ่านมานั้น มีการสอดแทรกเอาสโมสรลูกหนังที่มีกิจกรรมกับสมาคมเพียงครั้งและสองครั้งต่อปี เข้ามาเพื่อเป็นพรรคพวกในการเลือกตั้ง ฉะนั้นในแต่ละปี ยังไม่ทันเลือกตั้งก็รู้ได้ก่อนแล้วว่าใครจะนั่งนายกสมาคมฟุตบอล ฯ ซึ่งกูรูลูกหนังให้สังเกตรายชื่อทีมต่างๆ ในแบบเดิมทีมใด สโมสรใดมีผลงานมากน้อยขนาดไหนต่อการพัฒนาวงการฟุตบอลตามนโยบายของฟีฟ่าหรือไม่นั้น กูรูลูกหนังบอกว่า ไม่ต้องระบุชื่อสโมสรแต่คนในวงการฟุตบอลดูชื่อก็รู้กันอยู่แก่ใจ
“ก่อนโน้นคนสนใจกีฬาน้อย มีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาสนใจและรวมตัวกันเอาพรรคพวกของตนเองยึดครองสมาคมเป็นสมบัติของตนเองมาโดยตลอด ผมจำได้ว่า มีอยู่ครั้งหนึ่ง นายทหารใหญ่โตมีอิทธิพลมากๆ คนหนึ่งจะเข้าช่วยบริหารสมาคม แต่ก็ต้องรีบถอยเพราะกลัวเสียชื่อ เนื่องจากรู้ว่ามาแล้วก็ไม่ได้รับเลือก เลยถอยดีกว่า แต่ครั้งนั้นทราบว่านายทหารคนนั้นโดนนายป่าช้าหลอกเอาเงินไปเยอะมาก”
กูรูดังกล่าวยังกล่าวต่ออีกว่า หากรูปแบบการเลือกตั้งเป็นแบบฟีฟ่าและเป็นแบบที่มีข่าวออกมา จะนับเป็นครั้งแรกที่มีการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมที่สุด สมาคมฟุตบอลที่มีส่วนได้ส่วนเสียจริงๆ จะเป็นผู้มีการเลือกตั้ง พวกสโมสรผีจะหมดไป
”ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำใมต้องมีการต่อต้าน ทั้งๆ ที่มันค่อนข้างยุติธรรม และเป็นไปตามหลักการสากลที่ฟีฟ่ากำหนด ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะหากเราจะอยู่ร่วมโลกกับเขา ก็ต้องปฏิบัติตามกฏของเขา เรามีกฏหมายของเราก็จริงเหมือนอีกหลายประเทศที่บอกกฏหมายของประเทศเขาเป็นแบบนี้ สหประชาชาติเขาไม่ได้มาบังคับหรอก แต่คุณก็อย่ามาอยู่กับสหประชาชาติ ปกครองกันไปเอง โดนแบ่งชั้นหรือบอยคอทจากประชาคมโลก”
สำหรับการเปรียบเทียบคะแนนเสียงที่จะลงคะแนนเลือกตั้งระหว่างการเลือกตั้งแบบเดิมและแบบที่ฟีฟ่ากำหนดนั้น มีตารางดังนี้
แบบเดิม 179 เสียง เทียบกับจำนวนเสียงฟีฟ่ากำหนด 72 เสียง
