สธ.ดูแลสุขภาพปชช.ชายแดนไทย-ลาว
ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เผย การจัดการบริการสาธารณสุขตามแนวชายแดนไทย-ลาว ดูแล ปชช. 6 ล้านคนปี้นี้เน้นผ่าตัดนิ่วถุงน้ำดี
น.พ.ทวีเกียรติ บุญยไพศาลเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ประจำเขตบริการสุขภาพที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวเกี่ยวกับการจัดบริการสาธารณสุขตามแนวชายแดน ว่า ในด้านของ จ.อุบลราชธานี ซึ่งมีพรมแดนติดต่อกับเมืองปากเซ แขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของ สปป.ลาว กระทรวงสาธารณสุข โดยโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลศูนย์ มีความเชี่ยวชาญสาขาต่างๆ ได้ให้ความร่วมมือในการพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขของโรงพยาบาลจำปาสัก ซึ่งให้บริการดูแลสุขภาพประชาชน ประมาณ 6,000,000 คน ร่วมกับภาครัฐและเอกชนของ สปป.ลาว ให้มีศักยภาพและขีดความสามารถในการรักษาโรคต่างๆ สูงขึ้น
น.พ.ทวีเกียรติ กล่าวต่อว่า ในปี 2556 นี้ ได้จัดโครงการความร่วมมือทางวิชาการ ผ่าตัดโรคนิ่วในถุงน้ำดีผ่านกล้องทางหน้าท้อง (Laparoscope) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ และการผ่าตัดไส้เลื่อน โดยทีมผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ยกทีมงานพร้อมเครื่องมือผ่าตัด ไปทำการผ่าตัดผู้ป่วยรวมจำนวน 27 ราย ร่วมกับทีมแพทย์ของ สปป.ลาว ที่โรงพยาบาลจำปาสัก การรักษาได้ผลดี ผู้ป่วยพึงพอใจมาก เนื่องจากแผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก แค่ 1-2 ซม. เท่านั้น ทำให้ไม่เจ็บแผลมาก เสียเลือดระหว่างการผ่าน้อย ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว โดยหลังผ่าตัดนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลแค่ 2-3 วัน ก็สามารถกลับบ้านได้ แต่หากเป็นการผ่าปกติจะมีแผลผ่าตัดประมาณ 10 ซม. และต้องนอนพักที่โรงพยาบาลประมาณ 7 วัน หากโรงพยาบาลจำปาสักสามารถให้บริการได้ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่ารักษาให้ผู้ป่วย สปป.ลาว ได้ปีละประมาณ 24 ล้านบาท