ประชาพร้อมดูงานมั่นคงรอนายกฯนัดถกกปต.สางปมใต้
'พล.ต.อ.ประชา' เผย ได้รับมอบหมายให้ดูแลงานด้านความมั่นคงและปัญหาในภาคใต้ ระบุ อยากให้ความรุนแรงยุติโดยเร็ว ขณะ ใต้ยังป่วน คนร้ายลอบวางระเบิด อส.เจาะไอร้อง ที่ลาดตะเวนเส้นทาง บาดเจ็บ 2 นาย
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์ การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ซึ่งต้องรอให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคงก่อน แต่เบื้องต้น ตนเองได้รับมอบหมายจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ให้ดูแลศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สำนักข่าวกรองแห่งชาติ รวมถึง ดูแลพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และหน่วยงานความมั่นคงทั้งหมด
สำหรับแนวทางการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น จะดำเนินการต่อหรือไม่ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ต้องขอตามเรื่องก่อน เนื่องจากไม่ได้ตามมาตั้งแต่ต้น ในเรื่องการพูดคุยคงต้องขอรอฟังรายละเอียดจากผู้ปฏิบัติก่อนว่า เป็นอย่างไร ไปถึงขั้นไหนแล้ว โดยจะมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารายงานให้ทราบภายในสัปดาห์นี้ เพื่อให้งานเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้ดูเหมือนว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังค่อนข้างรุนแรง และใกล้ช่วงรอมฎอน ซึ่งทั้ง 2 ฝ่าย เหมือนว่าอยากให้ยุติความรุนแรง ส่วนจะมีการเร่งงานในส่วนนี้ เพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือไม่นั้น พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ถ้ายุติได้ใน 1-2 วันนี้ ก็ยินดี อยากให้ยุติโดยเร็ว ก็พยายามให้กำลังใจคนทำงาน
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกที่จะต้องดูแลความมั่นคงของประเทศนั้น เป็นเรื่องธรรมดา ต้องสู้
บึ้ม อส.เจาะไอร้อง เจ็บ2
เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด หนักประมาณ 5 กิโลกรัม ที่ประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ในพื้นที่ บ้านศาลา หมู่ 4 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ในขณะที่ อส.ประจำที่องค์การ อ.เจาะไอร้อง กำลังออกลาดตระเวนเส้นทาง ด้วยรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน 4 นาย ทำให้ อส.หมู่ใหญ่อีซอ ลาเต๊ะ อายุ 57 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่หัวเข่าขวา ได้รับบาดเจ็บ และ อส.ตรียูฮารี วาหลง อายุ 28 ปี ถูกแรงอัดของระเบิดมีอาการหูอื้อและแน่นหน้าอก ส่วนสาเหตุ เจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นการสร้างสถานการณ์ของผู้ไม่หวังดีในพื้นที่ ที่ต้องการสังหารเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อแสดงศักยภาพ
มทภ.4สั่งเข้มพิเศษรอมฎอน
พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยในช่วงเดือนรอมฎอนของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ว่า ได้มีการสั่งการให้มีการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ ก็เน้นไปที่ประชาชนที่จะเดินทางประกอบกิจศาสนาในช่วงกลางคืน ส่วนกรณีเหตุรุนแรงที่ทหารเสียชีวิตไป 8 นายนั้น เชื่อว่าไม่เกี่ยวกับการส่งสัญญาณในเรื่องของการพูดคุยสันติภาพแต่อย่างใดเป็นเพียงแต่พยายามใช้ความรุนแรงของกลุ่มคนร้ายเพื่อข่มขู่ ข่มเหงให้ประชาชนยอมจำนน
ส่วนการที่การปรับคณะรัฐมนตรีแล้ว นายกรัฐมนตรี เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นั้น เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบอะไร และไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) อยู่แล้ว ซึ่งทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ต้องปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ของ ผอ.รมน.อยู่แล้ว
ครูใต้เชื่อนายกฯควบกลาโหมส่งผลดีคุยBRN
นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการปรับคณะรัฐมนตรีแล้ว นายกรัฐมนตรี เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า น่าจะส่งผลดีต่อสถานการณ์ในพื้นที่ รวมถึง การพูดคุยสันติภาพด้วย เพราะจะเป็นการลดขั้นตอนในการสั่งการ ซึ่งน่าจะทำให้การทำงานเพื่อดับไฟใต้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ อยากให้ทางนายกรัฐมนตรีจะต้องลงมาดูแลปัญหาใต้ด้วยตนเอง ไม่ควรแต่งตั้ง รองนายกรัฐมนตรีดูแลความมั่นคง มาแก้ไขปัญหา
ส่วนของกรณี นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ นั้น นายบุญสม กล่าวว่า อยากฝากให้เข้ามาดูแลในเรื่องสวัสดิภาพ หรือความปลอดภัยของครู นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษาทุกระดับเป็นสำคัญ รวมไปถึงต้องให้ความสำคัญกับระบบการศึกษาใน 3 จังหวัดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังฝากให้ตามเรื่องสวัสดิการ ค่าครองชีพต่างๆ ของครูในพื้นที่ด้วย