นายกฯยินดีป.ป.ช.สอบงบบริหารจัดการน้ำ3.5แสนล้าน
นายกรัฐมนตรี ยินดี ป.ป.ช. สอบงบโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ขณะที่ 'พงศ์เทพ' ชี้ ไม่กังวลประชาธิปัตย์ ยื่นถอด ครม. ปมโครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน คาด 5 ก.ค. ชัดเจน อุทธรณ์ หรือไม่
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเยือนสาธารณรัฐโปแลนด์และตุรกี ว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้ จะไม่มีการตัดสินใจยุบสภาอย่างแน่นอน เนื่องจากเพิ่งมีการปรับคณะรัฐมนตรีไปเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน โดยขอเวลาให้ คณะรัฐมนตรี ทำงานก่อน พร้อมทั้งปฏิเสธว่า การปรับ คณะรัฐมนตรี ครั้งนี้ ว่าไม่มีแรงกระเพื่อม ในพรรคเพื่อไทย แต่อย่างใด และเชื่อว่าสมาชิกพรรคจะมีความเข้าใจ ว่ารัฐบาลทำเพื่อประโยชน์ของประเทศ ส่วนกรณีที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นถอดถอน นายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรี กรณีโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทนั้น ให้เป็นไปตามขั้นตอน รัฐบาลยินดีชี้แจงข้อมูลกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ขณะต้องรอคำสั่งจากศาลปกครองก่อนว่าจะยุติโครงการหรือเดินหน้าต่ออย่างไร
พงศ์เทพชี้5กค.ชัดอุทธรณ์โครงการน้ำหรือไม่
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่รู้สึกหวั่นใจต่อกรณีที่ทาง พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นถอดถอน ครม. ในโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เพราะโครงการนี้ รัฐบาลตั้งใจทำเพื่อประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประเทศ อย่างไรก็ตาม ในวันศุกร์ที่ 5 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น. จะเรียกประชุมคณะกรรมการพิจารณาคำสั่งศาลปกครอง ที่ให้รับฟังความเห็นจากประชาชนในโครงการนี้ ซึ่งจะมีความชัดเจนขึ้น
นอกจากนี้ นายพงศ์เทพ กล่าวถึง ความคืบหน้าเรื่องการให้มหาวิทยาลัย 3 แห่ง ไปศึกษาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้ มี 2 มหาวิทยาลัย ได้แจ้งผลการศึกษาวิจัยเสร็จสิ้นแล้ว โดยจะมีการแถลงข่าวในวันที่ 10 ก.ค.นี้ ซึ่งรัฐบาลจะนำผลการศึกษาวิจัยดังกล่าวมารวบรวมประกอบการตัดสินใจ เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป
ปปช.เร่งตรวจข้อมูลโครงการน้ำอยู่ในอำนาจหรือไม่
นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบการกระทำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ในกรณีดำเนินการโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ว่า เข้าข่ายเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ว่าในขณะนี้ ที่ประชุม ป.ป.ช. ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการตรวจสอบว่าเรื่องดังกล่าวนั้นอยู่ในอำนาจที่จะรับเรื่องไว้พิจารณาหรือไม่ ซึ่งหากรวบรวมข้อมูลเสร็จแล้ว ก็จะรีบส่งเรื่องให้ กรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณา สำหรับกรณีดังกล่าวนี้ เมื่อมีคนมายื่นร้องเรียนกับทาง ป.ป.ช.ให้ดำเนินการตรวจสอบ ตามกระบวนการและขั้นตอนเมื่อยื่นมาถูกช่องทางและกฎหมาย ป.ป.ช.ก็ต้องรับเรื่องไว้พิจารณา เพราะหาก ป.ป.ช.ไม่ทำตามก็อาจจะมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ ส่วนกระบวนการพิจารณาจะต้องรอการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด หากมีการยื่นอุทธรณ์หรือไม่นั้น นายวิชากล่าวยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะต้องดูความคืบหน้าข้อเท็จจริง หรือดูว่าพยานหลักฐานเพียงพอในการไต่สวนหรือไม่