ดารา “โดโด้” ยุทธพิชัย ชาญเลขา เป็นห่วงอดีตมิตซูโอะ เชื่อตกเป็นเหยื่อ

ดารา “โดโด้” ยุทธพิชัย ชาญเลขา เป็นห่วงอดีตมิตซูโอะ เชื่อตกเป็นเหยื่อ

ดารา “โดโด้” ยุทธพิชัย ชาญเลขา เป็นห่วงอดีตมิตซูโอะ เชื่อตกเป็นเหยื่อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความคืบหน้ากรณีอดีตพระมิตซูโอะ กับ สีกาแอน ไฮโซสาวใหญ่ ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 3 ก.ค. นายยุทธพิชัย ชาญเลขา หรือ โดโด้ ดารานักแสดงที่ถือว่าเป็นลูกศิษย์ที่มีความสนิทกับอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก คนหนึ่ง ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าว เกี่ยวกับสีกาแอนและคลิปที่ถูกนำมาเผยแพร่อย่างต่อเนื่องว่า ส่วนตัวเคยพบนางสุทธิรัตน์ มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อประมาณเดือนเมษายน ปี พ.ศ.2555 ขณะนั้นเป็นช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ และเป็นวันสรงน้ำพระพอดี 

โดโด้ ระบุว่า วันนั้นตนเดินทางไปกราบนมัสการพระอาจารย์ หลังจากที่นางสุทธิรัตน์เห็นตน ก็ได้เข้ามาทักทายและพยายามพูดคุยกับตนและพยายามตีสนิท แต่ตนไม่ได้คิดอะไร และยอมรับว่าเคยนั่งรถตู้ของนางสุทธิรัตน์หนึ่งครั้งเพื่อออกไปทำธุระที่บริเวณปากทางเข้าวัด โดยมีพระอาจารย์เดินทางไปด้วย และขณะนั่งปฏิบัติธรรมอยู่นั้นนางสุทธิรัตน์ ได้เอ่ยปากชวนตนว่า ไปทำนาด้วยกันไหม รวมทั้งชวนเข้าคอร์สเสริมความงามด้วย ซึ่งตนก็ไม่สนใจและไม่ได้พูดอะไรเนื่องจากกำลังนั่งปฏิบัติธรรมอยู่ ตนเป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์มายาวนานกว่า 10 ปี และเคยรับใช้พระอาจารย์อย่างจริงจังประมาณ 3 ปี ทั้งขับรถเพื่อนำพระอาจารย์ไปยังสถานที่ต่างๆ ตอนนี้รู้สึกสงสารและห่วงอาจารย์มาก แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เพราะท่านอาจารย์ได้ลาสิกขาแล้วและเดินทางไปอยู่ญี่ปุ่น พระอาจารย์ได้ติดต่อกลับมาที่ตน 2 ครั้ง ท่านห่วงใยจึงโทรมาเพื่อสอบถามทุกข์สุขเหมือนปกติ แต่หลังจากนั้นตนก็ไม่ได้ติดต่อท่านรับทราบแต่ทางข่าวทางสื่อมวลชนเท่านั้น

นายโดโด้แสดงความคิดเห็นว่า การกระทำที่นำคลิปออกมาเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง ถือว่ามีความสลับซับซ้อนเป็นอย่างมาก ตนมองว่าการกระทำในครั้งนี้จะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือไม่ ตนไม่ทราบ และไม่อยากออกความเห็นในเรื่องนี้ แต่ตนมองว่าการที่เขาเข้ามาที่วัดสุนันทวนารามถือเป็นเรื่องที่เข้าแล้วทำให้เกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงที่วัด ในเหตุการณ์ที่อย่างที่เกิดขึ้นผลทำให้พระอาจารย์มิตซูโอะตกเป็นเหยื่อของเหตุการณ์นี้ ยิ่งมีการเผยแพร่ภาพคลิปต่างๆ ยิ่งบั่นทอนความรู้สึกของศิษยานุศิษย์ และทำให้สังคมมองคำสอนของพระอาจารย์มิตซูโอะ แต่ตนมองว่าคำสอนของพระอาจารย์ในขณะที่เป็นพระถือเป็นคำสอนที่มีคุณค่ามาก แต่การกระทำเกิดขึ้นมันเหมือนกับกำลังทำลายหนังสือคำสั่งสอน ที่อดีตพระอาจารย์นำมาตีแผ่ลงในหนังสือ เพื่อให้ศิษยานุศิษย์เพื่อให้เด็กและเยาวชนที่มาปฏิบัติธรรมภายในวัดได้อ่าน แล้วเข้าใจง่ายตรงนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก  

แต่ในส่วนของนางสุทธิรัตน์จะดำเนินการอย่างไร ตนไม่ยุ่ง แต่ยิ่งนำคลิปต่างๆออกมาเผยแพร่ หรือการออกมาให้ข่าวว่าเป็นเพราะร่วมทำบุญแต่ชาติปางก่อนจึงทำให้มาเป็นเนื้อคู่กันในชาตินี้ ซึ่งก็เป็นสิทธิ์และก็สามารถกระทำต่อไปได้ ซึ่งผลของการกระทำต่างๆ จะเป็นสื่อที่ทำให้สังคมจะได้รับทราบว่าการกระทำของนางสุทธิรัตน์ในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง เปิดออกมาเท่าไหร่ก็เหมือนการเปิดเผยตัวตน ที่เป็นการแสดงออกถึงจิตวิญญาณหรือเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาให้สังคมได้รับทราบแล้วเช่นกัน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวสด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook