นายกฯ ให้โอกาสยุทธศักดิ์ทำงานปัดกองทัพระแวงคลิป

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้า กห. วันแรกแล้วผบ.ทัพรอรับ ยืนยัน ร่วมงานกองทัพได้ มีเอกภาพ ปัดล้วงลูกทหาร มั่นใจใน 'พล.อ.ยุทธศักดิ์'ขณะ ตำรวจเข้มคุมตัวผู้กองปูเค็ม ด้าน'เฉลิม' ย้ำคลิปตัดต่อหวังผลการเมือง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ยุทธศักดิ์
ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.)
และ ผบ.เหล่าทัพ ยืนแถลงข่าวร่วมกัน โดยระบุว่า กองทัพจะทำงานยึดประโยชน์ของชาติเป็นหลัก ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะร่วมบูรณาการในการทำงานกับกองทัพ สนับสนุนงานด้านความมั่นคง โดยใช้หลักความเป็นเอกภาพ ให้แก้ปัญหาภาคใต้ และปัญหาต่างๆ อย่างรวดเร็ว ซึ่งการเข้ามานั่งในตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อีกตำแหน่งนั้น ไม่ได้มองเห็นจุดอ่อนในกองทัพ แต่ต้องการเข้ามาทำงานสนับสนุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ ยืนยันว่า จะไม่มีการแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บัญชาการเหล่าทัพอย่างแน่นอน

ส่วนกรณีคลิปเสียงสนทนาที่ออกมานั้น ก็พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ว่าไปตามขั้นตอน สำหรับกระแสกลุ่มต่อต้านที่เรียกร้องให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ลาออก เพื่อเป็นการรับผิดชอบต่อคลิปนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอโอกาสให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ได้ทำงานก่อน และดูกันที่ผลงานจะดีกว่า ซึ่งที่ผ่านมา ต่างก็ให้เกียรติกันในการทำงานมาตลอด 2 ปี ทุกคนทำงานอย่างดีที่สุดแล้ว พร้อมกันนี้ ปฏิเสธว่าคลิปดังกล่าวส่งผลให้การทำงานในกองทัพเกิดความระแวงต่อกันแต่อย่างใด

 

นายกฯ เข้า กห. วันแรก แล้ว

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางจากทำเนียบรัฐบาล เข้าปฏิบัติหน้าที่ พร้อมมอบนโยบายให้กับกองทัพ ที่กระทรวงกลาโหมแล้ว โดยเลี่ยงใช้เส้นทางถนนอัษฎางค์ ผ่านกระทรวงมหาดไทย จากนั้น ได้เลาะเส้นทางตรงด้านข้างกระทรวงกลาโหม เข้าด้านหน้ากระทรวง เนื่องจากเลี่ยงพบกับกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านด้านหน้าประตูทางเข้า จากนั้นสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในกระทรวงกลาโหม และมีการสวนสนามจากกองทหารเกียรติยศผสม ให้การเคารพเพื่อเป็นเกียรติแก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปการทำงาน ก่อนที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการระทรวงกลาโหม จะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

ทั้งนี้ เป็นที่จับตามองอย่างยิ่ง สำหรับท่าทีและการวางตัวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ภายหลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปเสียงสนทนาที่คล้ายเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ออกมา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารตรึงกำลัง 9 กองร้อย โดยรอบกระทรวง เพื่อป้องกันกลุ่มต่อต้านบุกเข้าไปด้านใน

ตร. คุม "ผู้กองปูเค็ม" สงบสติ ยัน ยังไม่แจ้งข้อหา - คุมขัง

พ.ต.อ.สรเสริญ ใช้สถิตย์ ผู้กำกับการ สน.พระราชวัง เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. กรณีที่ตำรวจควบคุมตัว ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือ ผู้กองปูเค็ม อดีตนายทหารกองทัพภาคที่ 3 และเป็นหนึ่งในแกนนำคนไทยหัวใจรักชาติ ไปยัง สน.พระราชวัง ว่า สาเหตุที่ควบคุมตัว เนื่องจาก ร.อ.ทรงกลด ลงไปนอนกางแขนกางขากลางถนนหน้ากระทรวงกลาโหม จึงเกรงว่าจะเกิดอันตรายจากรถที่วิ่งผ่านไปมาที่อาจไม่ทันสังเกตเห็น หรืออาจกีดขวางการจราจร ตำรวจเข้าไปห้ามแล้วก็ไม่ฟัง จึงนำตัวไปสอบปากคำ และสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก โดยขณะนี้ ยังไม่มีการแจ้งข้อหาดำเนินคดี หรือนำตัวเข้าห้องขัง เพียงนั่งพูดคุย โดย ร.อ.ทรงกลด ใจเย็น สงบลงแล้ว

ส่วนสถานการณ์ที่หน้ากระทรวงกลาโหม ขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และระฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปฏิบัติหน้าที่ตามกำหนดการ โดยยืนยันว่า ไม่มีผู้ชุมนุมด้านนอกก่อเหตุวุ่นวายเพิ่มเติม

นายกฯ เดินทางเข้า กห. แล้ว ผบ.ทัพ รอรับ

บรรยากาศที่กระทรวงกลาโหม ล่าสุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาถึงที่กระทรวงกลาโหมแล้ว เพื่อทำพิธีรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ท่ามกลางการต้อนรับจาก พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมผู้บัญชาการเหล่าทัพ อาทิ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขณะที่บริเวณด้านหน้ากระทรวงกลาโหม กลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดิน ยังคงชุมนุมเพื่อคัดค้านด้วยความเรียบร้อย ถึงแม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะกันผู้ชุมนุมให้ออกก็ตาม

 

เฉลิม ย้ำคลิปตัดต่อหวังผลการเมือง

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีคลิปฉาว พร้อมทั้งเผยแพร่เอกสารบทวิเคราะห์ที่เขียนขึ้นด้วยตนเองว่า แม้จะเป็นเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม จริงหรือไม่ก็ตาม แต่ถ้าฟังเนื้อหาสาระแล้ว น่าเชื่อว่า มีการตัดต่อเพื่อบิดเบือนสิ่งที่ผู้พูดต้องการจะสื่อสาร เพราะเนื้อหาบางตอนไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งตนเข้าใจว่า ผู้ตัดต่อ และเผยแพร่คลิปออกมา มุ่งหวังใส่ร้ายทางการเมือง อย่างที่เคยเตือนไว้ว่า การบริหารประเทศหลังจากนี้ รัฐบาลจะเจอกับขวากหนาม

ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงกรณีตามคลิปเสียงที่มีการสั่งให้มุบมิบดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ผ่านสภากลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ แล้วแปลงเป็นพระราชกำหนด เพื่อพา พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านโดยเร็ว ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ข้อกล่าวนี้เป็นไปไม่ได้ เพราะกฎหมายนิรโทษกรรม ไม่ต้องเข้าสภากลาโหม ไม่เกี่ยวกับสภาความมั่นคงฯ ทหารไม่มีอำนาจออกกฎหมายนิรโทษกรรม การออกกฎหมายเป็นอำนาจของสภา

'ประชา'ปัดตอบปมคลิปฉาวขอรอความชัดเจน

พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธแสดงความเห็น กรณีที่มีการเผยแพร่คลิปเสียงคล้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สนทนากับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม โดยระบุว่าต้องรอการตรวจสอบความชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน และขออย่ามองถึงเรื่องการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนการที่ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่า เป็นเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ จริงนั้น ถือเป็นการแสดงความเห็นส่วนบุคคล

 

ปชป. ยัน คลิปหลุดของจริง จี้ นายกฯ อย่าล้วงลูกทหาร

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวว่า จากการที่คนในรัฐบาลออกมาชี้แจงถึงคลิปชาย2 คนสนทนากัน เป็นคลิปที่มีการตัดต่อนั้น ขอยืนยันว่า คลิปดังกล่าวเป็นของจริง และตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้ ยังไม่มีหน่วยงานใดในรัฐบาลที่กล้าเข้ามาตรวจสอบ เพราะไม่มีคำสั่งจากนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ในโอกาสที่ นายกรัฐมนตรีเข้ากระทรวงกลาโหม และร่วมรับประทานอาหารกับ ผบ.เหล่าทัพ ขอเรียกร้องให้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้าย รวมถึง จะไม่ใช้สภากลาโหม ออกกฎหมายล้างผิดให้ใคร และขอให้อธิบายว่า เหตุใดจึงมีการพูดจาในลักษณะพาดพิงสถาบัน พร้อมกันนี้ ขอเรียกร้องให้คนเสื้อแดงเปิดคลิปดังกล่าวฟัง และขอให้ตอบตัวเองว่า มีเรื่องประชาธิปไตยอย่างที่ใฝ่หา ลดความเหลื่อมล้ำ เหมือนที่พูดคุยกับคนเสื้อแดงหรือไม่