DSIยันรู้DNAลูกพระเณรคำพรุ่งนี้-ชงจับสึก15ก.ค.

ดีเอสไอ เผย แม่ ''พระเณรคำ'' ยังไม่ยอมตรวจ DNA ได้ผลตรวจพ่อลูก 13 ก.ค.นี้ ชี้ชัด 15 ก.ค. ขาดจากความเป็นสงฆ์แน่ ก่อนขอศาลออกหมายจับ

นายอังศุเกติ์ วิสุทธิวัฒนศักดิ์ หัวหน้าศูนย์ข้อมูลและวิเคราะห์คดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้า ล่าสุด ในการรวบรวมพยานหลักฐานในคดีของพระเณรคำ ฉัตติโก ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี โดยมีผล คือ ทางมารดาของพระเณรคำ ยังไม่ยอมให้ตรวจดีเอ็นเอ เพื่อพิสูจน์ความเป็นพ่อลูกของ ด.ช.วัย 11 ขวบ ซึ่ง พงส. ไม่กังวลในประเด็นนี้ เนื่องจากได้ตรวจดีเอ็นเอของญาติพระเณรคำไปแล้ว ซึ่งประเด็นนี้ ในวันที่ 13 ก.ค. จะทราบผลตรวจและทุกอย่างจะชัดเจน โดยไม่ต้องรอตรวจมารดา ที่ไม่ยอมให้ตรวจอีกแล้ว

ส่วนการขอศาลออกหมายจับ ในฐานความผิด 8 ข้อหา พระเณรคำ ที่รับเป็นคดีพิเศษแล้วนั้น ต้องรอให้จัดการ
ทางสงฆ์ให้เรียบร้อยก่อน กล่าวคือ ต้องให้พ้นจากความเป็นสมณเพศสมบูรณ์ก่อน ซึ่งในวันนี้ (12 ก.ค.) จะเข้า
พบเจ้าคณะ จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี เพื่อสรุปในการขับพ้นสมณเพศ คาดว่าวันที่ 15 ก.ค.นี้ พระเณรคำ จะถูกจับสึกได้อย่างแน่นอน ต่อจากนั้น จึงจะได้ขอศาลออกหมายจับ เพื่อไม่ให้กระทบต่อพระพุทธศานาต่อไป

 

DSIพบพระเณรคำสั่งทำรถแจกอีก35คัน28ล.

พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการตรวจสอบรถหรูที่อยู่ในความครอบครองของ พระเณรคำ ว่า ได้สอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้อง พบข้อมูลที่ซื้อรถเบนซ์ ทั้งหมด 22 คัน ใช้เงิน 95 ล้านบาท โดยเมื่อวานนี้มีพยานเข้ามาให้ปากคำเรื่องนี้ว่า พระเณรคำ ได้ไปสั่งทำรถอีก 35 คัน คาดว่าไปให้คนอื่น เป็นเงินอีก 28 ล้านบาท จะใช้ชุดทำงานที่รับผิดชอบคดีสืบสวนขยายผลว่า รถดังกล่าวไปอยู่กับใครบ้าง ส่วนจะเข้าข่ายความผิดอย่างไร ต้องดูเจตนาทั้งผู้ให้และผู้รับว่า แต่ละคันนำไปใช้อย่างไร

ส่วนการตรวจสอบการจดทะเบียนรถหรูที่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งยังมีข้อสงสัยเรื่องการรับจดทะเบียนรถหรูผิดกฎหมายนั้น ขณะนี้กำลังตรวจเทียบกับบัญชีที่มีอยู่ พบว่า เจ้าของรถหรู ไม่อยู่บ้านและสภาพบ้านของเจ้าของรถหรู เป็นกระต๊อบ ไม่น่าจะนำรถหรูจดทะเบียนได้ถึง 3 คัน ก็จะเร่งสอบสวนเอาผิดต่อไป

 

พระชั้นผู้ใหญ่ฯจ่อเปลี่ยนปธ.สอบพระเณรคำ

ที่วัดป่าศรีสำราญ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จากกรณีที่มีข่าวว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงประธานคณะกรรมการสอบสวนอธิกรณ์ พระวิรพล สุขผล หรือ พระเณรคำ ฉัตติโก ประธานสำนักสงฆ์ขันติธรรม โดยพระชั้นผู้ใหญ่สายธรรมยุต เห็นว่า การดำเนินการสอบสวนหลวงปู่เณรคำล่าช้า  ติดขัดในบางขั้นตอน ดังนั้น อาจจะมีการแต่งตั้งประธานคณะกรรมการสอบสวนใหม่ จากเดิมคือ พระธรรมฐิติญาณ เจ้าคณะภาค 10 เป็น พระธรรมรัชมุณี รองเจ้าคณะภาค 10 เพื่อความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายนั้น

ด้าน พระครูวัชรสิทธิคุณ พระเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต และเป็นเลขานุการคณะกรรมการสอบสวนอธิกรณ์ พระเณรคำ กล่าวว่ายังไม่ทราบความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยหากจะมีการเปลี่ยนแปลงประธานกรรมการสอบสวน จะต้องมีการแจ้งให้ทราบเป็นลายลักษณ์อักษร