ศาลไม่อนุมัติค้นกุฏิ 'เณรคำ' หาดีเอ็นเอ
นิติวิทยาศาสตร์ เผย ศาลไม่อนุมัติค้นกุฏิ "พระเณรคำ" นำวัตถุพยานเทียบดีเอ็นเอหญิงถูกข่มขืนและลูก
พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้าคดีการตรวจสอบ พระเณรคำ ฉัตติโก แห่งสำนักสงฆ์ขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ ว่า การพ้นสภาพสงฆ์ ของพระเณรคำ ที่ระบุว่า เมื่อเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา เป็นเกณฑ์ตามกำหนดเวลาที่พระเณรคำต้องกลับมารายงานตัวกับคณะสงฆ์ โดยในวันนี้เวลา 09.00 น. คณะสงฆ์ จ.ศรีสะเกษ จะประชุมเพื่อหามติขับออกจากวัด และในช่วงบ่าย คณะสงฆ์ จ.ศรีสะเกษ กับ คณะสงฆ์ จ.อุบลราชธานี จะประชุมลงมติร่วมกันอีกครั้ง ส่วนสถานภาพความเป็นพระนั้น ต้องพิจารณาหลังจากนี้อีก 3 วัน
ส่วนผลการตรวจ ดีเอ็นเอ ไม่ได้เร่งรัดจะขอความร่วมมือญาติใกล้ชิดพระเณรคำ ให้ยินยอมก่อน ยืนยันว่า การดำเนินการกับพระเณรคำ ไม่ได้รอมติจากเถรสมาคม แต่หากพระเณรคำ พ้นจากความเป็นสงฆ์แล้ว ก็จะเป็นการดี เพราะกระทบกระเทือนต่อสถาบันศาสนา น้อยกว่า ส่วนเรื่องรถหรูของพระเณรคำ กำลังค้นหาเพิ่มเติม โดยบางคันที่หายไปพบว่า มีการนำออกไปต่างประเทศ ก็จะสืบไปว่า มีที่มาที่ไปอย่างไรและนำออกไปอย่างไร และรถที่อยู่ในความครอบครองทั้งหมด ที่มีมูลค่ากว่า 123 ล้าน เอาเงินมาจากที่ใด ส่วน 22 คัน ที่ต้องสงสัย คือ นำเงินสดไปซื้อ เอามาใช้แล้วไม่จดทะเบียนทีแรก กลับนำไปขายคืนจนขาดทุนไป 20-30 ล้าน นั้น ทำไปเพื่ออะไร ส่วนรถอีก 35 คัน ที่ซื้อมาแจกนั้น ทำเพื่อวัตถุประสงค์อะไร ก็ต้องดูทั้งขบวนการไปจนถึงปลายทาง
ล่าสุด พ.ท.นพ.เอนก ยมจินดา ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการตรวจสอบดีเอ็นเอ หญิงที่อ้างว่า ถูก พระเณรคำ ข่มขืน ก่อนอายุ 15 ปี จนมีลูกด้วยกันว่า ศาลไม่อนุมัติหมายค้น กุฏิและบ้านพักของพระเณรคำ เจ้าหน้าที่จึงไปเก็บวัตถุพยาน เช่น แปรงสีฟัน สบง จีวร มาตรวจเทียบดีเอ็นเอ ไม่ได้ ส่วนพ่อแม่และญาติพระเณรคำ ก็ยังไม่ยอมมอบดีเอ็นเอ มาให้เจ้าหน้าที่ ตอนนี้จึงทำได้เพียงการตรวจดีเอ็นเอของหญิงสาว ที่อ้างว่าถูกพระเณรคำข่มขืน เทียบกับลูก เพื่อยืนยันว่า เป็นแม่ลูกกันจริงก่อน ซึ่งขณะนี้ วิธีการที่จะตรวจเทียบดีเอ็นเอ ที่ง่ายที่สุดคงต้องรอให้ทางเอฟบีไอ จับตัวพระเณรคำ ได้ก่อน แล้วส่งผลมาเทียบกับทางแลปของนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้เหมือนกันทั่วโลก