นายกฯบินบุรีรัมย์มหาสารคามดูโครงการพัฒนาตร.เข้ม

นายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางไปบุรีรัมย์ ตรวจเยี่ยมโครงการรัฐบาล และพบปะประชาชน ด้าน ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ เผย จัดกำลังตำรวจ 4 กองร้อย รปภ. ไม่ห่วงม็อบหน้ากากขาวประท้วง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางจากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานบุรีรัมย์แล้ว เพื่อตรวจเยี่ยมศูนย์นวัตกรรมการเรียนรู้ เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ชุมชนบ้านลิ่มทอง และตรวจเยี่ยมโครงการบริหารจัดการน้ำ จากนั้น กล่าวเปิดงานและทำพิธีเปิดโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกร ที่โรงเรียนบ้านโนนศิลา ต.ถลุงเหล็ก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พร้อมเยี่ยมชมผลการดำเนินงานตามโครงการรัฐบาลและพบปะประชาชน โดยแต่ละจุดที่นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่นั้น มีประชาชนเตรียมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น มีการนำดอกไม้ รวมถึงของดีพื้นบ้าน มามอบให้กับนายกรัฐมนตรีด้วย

ขณะที่ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ คอยดูแลความเรียบร้อยอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการชุมนุมต่อต้านของกลุ่มหน้ากากขาว กว่า 50 คน

 

ผู้การบุรีรัมย์ จัดตร. 4 กองร้อย รปภ.นายกฯ เข้มหน้ากากขาว

พล.ต.ต.รัฐพงษ์ ยิ้มใหญ่ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ตามที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาตรวจเยี่ยมศูนย์นวัตกรรมการเรียนรู้ เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ชุมชนบ้านลิ่มทอง และตรวจเยี่ยมโครงการบริหารจัดการน้ำ ณ บ้านนางสนิท ทิพย์นางรอง บ้านลิ่มทอง ต.หนองโบสถ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ในเวลา 09.30 น. วันนี้นั้น ทางตำรวจได้จัดกำลัง ปจ. และ จร. ดูแลความเรียบร้อย จำนวน 4 กองร้อย ส่วนกระแสข่าวว่า จะมีกลุ่มหน้ากากขาวมาประท้วงนายกรัฐมนตรีด้วยนั้น ซึ่งกลุ่มดังกล่าวมาชุมนุมกันทุกอาทิตย์อยู่แล้ว แต่มีจำนวนไม่มาก ประมาณ 50 คนเท่านั้น ซึ่งในวันนี้ ได้ส่งตำรวจดูแลความเรียบร้อยกลุ่มนี้แล้ว หากว่าจะมาชุมนุมที่ อ.นางรอง

 

เกษตรกรฝากนายกฯ ดูราคาจำนำข้าวที่ 15,000 บาท

บรรยากาศที่โรงเรียนบ้านโนนศิลา ต.ถลุงเหล็ก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ขณะนี้ มีเกษตรกรในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง กว่า 15,000 คน เข้าร่วมงานและรอต้อนรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ซึ่งเป็นวันแรกในการลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และเปิดโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกร

ขณะเดียวกัน นายอรุณ จันทร์ดี ตัวแทนเกษตรกรจาก จ.พิษณุโลก และ นายประมวล นนทะคำจันทร์ เกษตรกร จ.บุรีรัมย์ รู้สึกดีใจที่รัฐบาลมีโครงการบัตรสินเชื่อให้เกษตรกร ช่วยในค่าใช้จ่ายต้นทุนการปลูกพืชผล ทั้งนี้ หากรัฐบาลช่วยให้ราคาในการรับจำนำข้าว ให้อยู่ในราคา 15,000 บาทต่อตัน ก็จะทำให้เกษตรมีรายได้ที่ดีขึ้น

ขณะที่ นางสังวาลย์ ชัยพูน และ นางปิ่น ท้าวพยุง ตัวแทนเกษตรกรจาก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ขอให้นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ลดราคาสินค้าที่เป็นต้นทุนในการผลิต อาทิ เมล็ดพันธุ์พืช ปุ๋ย รวมถึงน้ำมันเพื่อเป็นเชื้อเพลิงในส่วนของการใช้เครื่องยนต์ ตั้งแต่กระบวนการปลูก ตัดหญ้า สูบน้ำ จนถึงการเก็บเกี่ยว พร้อมทั้งขอให้ลดดอกเบี้ยในการใช้บัตรสินเชื่อเกษตรด้วย