ภูชี้ฟ้า คึกนักท่องเที่ยวแน่นบ้านพัก

นายกอบต.ตับเต่า เผยเทศกาลปีใหม่นักท่องเที่ยวแน่น ภูชี้ฟ้า วันละ 1.5 หมื่นคน คาดเต็มยาวต่อเนื่องถึงกลางเดือนม.ค. ระบุวันหยุดยาวออกนโยบายปิดถนนขึ้นจุดชมวิวระยะทาง 2 กิโลเมตร ให้นักท่องเที่ยวใช้รถรับ-ส่งแทน เหตุลดการจราจรแออัดพร้อมลดอุบัติเหตุ นายบันเทิง เครือวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย เปิดเผยว่า เทศกาลวันหยุดปีใหม่พบว่ามีนักท่องเที่ยวแห่ขึ้นมาชมความงามของทะเลหมอกบริเวณวนอุทยานภูชี้ฟ้า อ.เทิง จ.เชียงราย อย่างล้นหลาม โดยนักท่องเที่ยวทยอยเดินทางมาตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.เป็นต้นมา โดยช่วงวันหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.2551-4 ม.ค.2552 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไม่ต่ำกว่า 1.5 หมื่นคน สำหรับที่พักซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ บ้านพัก ของส่วนราชการและเอกชนที่ให้บริการบริเวณอ.เวียงแก่นและอ.เทิง ที่รองรับนักท่องเที่ยวได้วันละไม่ต่ำกว่า 5,000 คน และลานกางเต้นท์หลายจุดที่รองรับนักท่องเที่ยวได้วันละ 5,000 คน เต็มหมดแล้ว และคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาจนถึงกลางเดือนม.ค.อย่างแน่นอน ทั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาอย่างเนืองแน่นส่งผลให้เกิดการจราจรแออัด ลานจอดรถบ้านร่มฟ้าไทย ที่สามารถรองรับได้เพียงวันละ 1,000 คันเท่านั้นไม่เพียงพอกับจำนวนนักท่องเที่ยว "ตอนนี้ที่จอดรถไม่เพียงพอทำให้นักท่องเที่ยวนำรถยนต์ส่วนตัวไปจอดบริเวณไหล่ทาง ทำให้เส้นทางเดินรถแคบลง ซึ่งทางอบต.ตับเต่า จึงแก้ปัญหาในวันหยุดยาวจะทำการปิดเส้นทางระหว่างลานกางเต้นท์จนถึงทางขึ้นวนอุทยานภูชี้ฟ้าที่มีระยะทางจำนวน 2 กิโลเมตร ไม่ให้นำรถยนต์ขึ้นตั้งแต่เวลา 04.00-.8.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่นักท่องเที่ยวจะได้เยี่ยมชมความสวยงามของทะเลหมอก ยกเว้นรถสี่ล้อแดงและรถบริการรับ-ส่งผู้โดยสารเท่านั้น" นายบันเทิง กล่าว อย่างไรก็ตาม นอกจากการชมความงามของทะเลหมอกบริเวณจุดชมวิวดอยผาตั้ง ความงดงามของแปลงปลูกนางพญาเสือ ชมดอกเสี้ยวบาน ฯลฯ แล้วในปีนี้อบต.ตับเต่ายังมีการเปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่เพิ่มเติมจากภูชี้ฟ้า คือบริเวณภูชมดาว หมู่ 20 บ้านพิทักษ์ไทย ต.ตับเต่า อ.เทิง หมู่บ้านชาวไทยภูเขาที่มีศิลปวัฒนธรรมชนเผ่าที่สวยงามอีกด้วย ทั้งนี้ ในปีนี้ตลอดทั้งปีคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวลดลงจากปี 2550 จำนวน 5-10% จากเดิมที่เดินทางมาจำนวน 200,000 คน เนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจที่ซบเซาและปัญหาการเมืองไทยที่ยังไม่มีความแน่นอน ดอยอ่างขางแน่นนักท่องเที่ยวแห่สัมผัสลมหนาววันละ 7 พันคน นายสมชาย เขียวแดง ผู้อำนวยการสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดปีใหม่ที่นักท่องเที่ยวทยอยเดินทางมาตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.2551 เป็นไปอย่างคึกคักนักท่องเที่ยวต่างทยอยเดินทางมาสัมผัสกับอากาศหนาวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้ (1 ม.ค.2552) ในส่วนบ้านพักทั้งของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง หน่วยงานราชการ โฮมสเตย์ และรีสอร์ทของเอกชนที่รองรับนักท่องเที่ยวได้วันละ 2,000 คนมีนักท่องเที่ยวแห่เข้าพักเต็มหมดแล้ว ทั้งนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ในส่วนของลานกางเต้นท์ในส่วนของสถานีเกษตรหลวงอ่างขางและพื้นที่ชาวบ้านที่รองรับได้สูงสุดจำนวน 5,000 คนก็เต็มแล้วเช่นกัน และจากการสอบถามเอกชนที่ให้บริการบ้านพัก โฮมสเตย์ของชาวบ้าน ลานกางเต้นท์ตามจุดต่างๆ และบ้านพักของสถานีเกษตรหลวงอ่างขางก็มีนักท่องเที่ยวจองเต็มโควตาเช่นกัน และคาดว่าจะเต็มไปจนถึงกลางเดือนม.ค.อย่างแน่นอน ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาจะต้องมีการโทรมาสอบถามล่วงหน้าก่อนไม่เช่นนั้นอาจไม่มีที่พักได้ "ตอนนี้บนดอยอ่างขางค่อนข้างแออัดมากทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและการจราจร เพราะนักท่องเที่ยวเดินทางมาโดยรถยนต์ส่วนตัวทำให้รถติดเป็นทางยาว ซึ่งก็ได้ประสานงานกับอำเภอและองค์การบริหารส่วนตำบลส่งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครและอ.ป.พ.ร. จัดระเบียบการเดินรถอีกด้วย" นายสมชาย กล่าว อย่างไรก็ตาม อยากฝากประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยวหากต้องการเดินทางมาเที่ยวบริเวณดอยอ่างขาง ให้ฝากรถยนต์ส่วนตัวไว้บริเวณวัดหาดสำราญ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ปากทางขึ้นดอยอ่างขาง และเช่ารถของเอกชนที่คอยให้บริการมีทั้งรถตู้และรถสี่ล้อแดง ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดมลภาวะทางอากาศ รวมถึงเป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่ผู้ขับขี่ไม่ชำนาญทาง และเพื่อไม่ให้การจราจรติดตั้งเพราะสภาพรถมีปัญหา เช่น เบรกไหม้ คลัชไหม้ เป็นต้น ททท.สรุปปีใหม่หาดใหญ่ นักท่องเที่ยวตปท.เพิ่มขึ้น สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานหาดใหญ่ สรุปตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่หาดใหญ่ ระหว่างวันที่ 29-31 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า อัตราเข้าพักโรงแรมในหาดใหญ่ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10,000 ห้อง ร้อยละ 80 เฉลี่ยห้องละ 2 คน 90 เปอร์เซ็นต์เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในปีนี้ ถือว่าดีกว่าปีที่ผ่านมา โดยเริ่มมาตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค.เป็นต้นมา และเป็นสัญญาณที่ดี สำหรับการท่องเที่ยวหาดใหญ่ ที่นักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้าน เริ่มมีความเชื่อมั่นและเดินทางเข้ามามากขึ้นในช่วงเทศกาล สำหรับการจัดกิจกรรมปีใหม่ในจังหวัดสงขลาที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ มีอยู่หลายจุดด้วยกัน เช่น เทศบาลนครสงขลา เทศบาลเมืองคลองแห สวนสาธาณะเทศบาลนครหาดใหญ่ และที่อำเภอสะเดา โดยเฉพาะที่อำเภอสะเดาที่มีกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติอัตราเข้าพักร้อยละ 90 ส่วนนักท่องเที่ยวจุดอื่นส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวจากจังหวัดและอำเภอใกล้เคียง เป็นหลัก จุดที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมีอยู่ 2 จุดด้วยกัน คือ หาดใหญ่ กับสะเดา วธ.แนะ5วิธีสร้างความสุขต้อนรับปีใหม่ เนื่องในเทศกาลปีใหม่หรือปีฉลู กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม มีข้อแนะนำอย่างง่ายๆ ที่ทุกท่านสามารถมอบความสุขให้แก่ผู้อื่นและตนเองในวันต้อนรับปีใหม่ 1 ม.ค. 2552 ได้แก่ 1. การทำบุญตักบาตร เป็นประเพณีนิยมและวิถีปฏิบัติของคนไทยมาเนิ่นนาน การทำบุญตักบาตร เนื่องในเทศกาลปีใหม่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว ถือเป็นความสุขทางใจอย่างหนึ่งที่เราตั้งจิตปรารถนาให้เกิดกุศลเจตนาอันดีในการดำเนินชีวิตของเราในปีใหม่ตลอดทั้งปี อันจะส่งผลให้เราและครอบครัว ตลอดจนญาติสนิท มิตรสหาย มีความสุขความเจริญรุ่งเรืองตลอดไป 2. การส่งบัตรอวยพร เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ด้วยการส่งบัตรอวยพรพร้อมข้อความที่เราเขียนอวยพรส่งความสุขให้แก่บุคคลที่เราเคารพรักและนับถือ เพื่อเป็นการแสดงถึงความปรารถนาดี การระลึกถึงไมตรีมิตรภาพที่มีให้แก่กันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ส่งและผู้รับเกิดความรู้สึกที่ดีแก่กัน และมีกำลังใจที่จะเผชิญกับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี 3. การมอบของขวัญ เนื่องในเทศกาลปีใหม่ ส่วนใหญ่ของขวัญที่นิยมนำไปมอบให้แก่กันในช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้แก่ กระเช้าของขวัญ แจกันดอกไม้สด หรือของขวัญที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้ให้ การมอบของขวัญให้กัน ถือเป็นการแสดงความเคารพ รักและนับถือ ที่ผู้ให้มีต่อผู้รับ เพื่อตอบแทนความมีน้ำใจ ความปรารถนาดีที่มีให้แก่กันมาตลอดทั้งปี และแม้ว่าของขวัญนั้นจะมีคุณค่ามากหรือน้อยเพียงใดก็ตาม ก็ไม่อาจเปรียบได้กับความรู้สึกที่ผู้ให้ต้องการเห็นผู้รับมีความสุขและสมหวังกับสิ่งที่ปรารถนา เพราะถ้าผู้รับมีความสุข ผู้ให้ก็จะมีความสุขด้วย 4. การทำทาน เราไม่จำเป็นต้องทำทานโดยการบริจาคเงินทองหรือสิ่งของเท่านั้น แต่การทำทานในที่นี้คือ การให้โอกาส เป็นการให้โอกาสทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น สิ่งใดในปีที่ผ่านมาที่เราเคยทำไม่ดีหรือผิดพลาดไป ทั้งในเรื่องของการทำงานหรือกับเพื่อนร่วมงาน ปีใหม่นี้เราควรให้โอกาสตัวเอง โดยการทบทวนเรื่องราวต่างๆ แล้วปรับปรุงแก้ไขปัญหาต่างๆ เหล่านั้นให้ดีขึ้นกว่าเดิม พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้แก้ไขปัญหาหรือข้อผิดพลาดต่างๆ เช่นกัน เมื่อเราให้โอกาสแก่กันและกัน เท่านี้ก็ก่อให้เกิดความสุขทั้งแก่ตัวเราเองและผู้อื่น เพราะถ้าเรามอบความรู้สึกดีๆ ให้แก่ผู้อื่นแล้ว เราก็จะได้รับความจริงใจและมิตรภาพจากผู้อื่นเช่นกัน 5. การคิดดีทำดี การทำจิตใจของเราให้ดี โดยการคิดดีและตั้งใจที่จะกระทำความดีต่อผู้อื่นและสังคมโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน จิตใจของเราก็จะเป็นสุข เพราะการที่เรามอบสิ่งดีๆ หรือความรู้สึกที่ดีๆ ให้แก่ผู้อื่นก่อน เราก็จะได้พบแต่สิ่งที่ดีๆ กลับมาเช่นกัน วธ.ชี้เด็กแห่เข้าผับสวดมนต์ข้ามปีที่วัดเงียบเหงา นายปกรณ์ ตันสกุล รองอธิบดีกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า จากการที่กรมการศาสนาได้ร่วมมือกับวัดในกรุงเทพฯและปริมณฑล 22 วัด เช่น วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร วัดสระเกศราชวรวิหาร วัดยานนาวา วัดราชาธิวาส ราชวรวิหาร วัดพระราม 9 วัดดอนเมือง จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีเมื่อค่ำคืนของวันที่ 31 ธ.ค. 2551 - 1 ม.ค. 2552 เพื่อต้อนรับวันปีใหม่นั้น ภาพรวมแม้จะมีประชาชนเข้าวัดพอสมควร แต่จะมีจำนวนมากเฉพาะวัดดังๆ เช่น วัดชนะสงครามฯ วัดสระเกศฯ เท่านั้น ส่วนวัดอื่นๆยังมีประชาชนเข้าไปทำบุญ และร่วมสวดมนต์ข้ามปีน้อยมาก อาจเป็นเพราะมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบน้อยเกินไป ไม่มีแม้แต่ป้ายโปสเตอร์บอก อีกทั้งไม่มีผู้หลักผู้ใหญ่ไปร่วมงาน รู้แต่เพียงในบรรดาลูกศิษย์วัดด้วยกัน และประชาชนที่ไปทำบุญเป็นประจำอยู่แล้ว "ผมถือว่ากิจกรรมปีนี้สอบตก จากการสอบถามวัยรุ่นบางคนที่มาร่วมงาน บอกว่าไม่ทราบว่าที่วัดมีงาน มาเพราะพ่อกับแม่ชักชวนมา แต่พอมาทำบุญแล้วก็รู้สึกดี อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าปีนี้เราทำประชาสัมพันธ์ให้คนมาสวดมนต์ข้ามปีที่วัดน้อยเกินไป บรรยากาศจึงเงียบเหงากว่าปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีกระแสสังคมให้ประชาชนไปเคาท์ดาวน์กันแถวพารากอน เวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ ไม่ใช่วัด โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นแห่กันไปเที่ยวผับ จึงไปตายที่ผับจำนวนมากตามข่าว" รองอธิบดีกรมการศาสนา กล่าว นักท่องเที่ยวแห่เดินทางกราบไหว้หลวงพ่อทวด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 07.00 น. วันที่ 1 ม.ค.2551 มีประชาชน และนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศนับแสนคน ต่างพาครอบครัวทยอยเดินทางด้วยรถยนต์ไปกราบไหว้ของพรหลวงพ่อทวด องค์ใหญ่ พระนามาภิไธยย่อ สก. ที่วัดห้วยมงคล ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ และทำให้การจราจรตั้งแต่แยกบายพลาสหัวหิน-หนองพลับ มีรถติดยาวถึง 10 กม.เนื่องจากส่วนใหญ่มุ่งเดินทางเข้าไปวัดห้วยมงคล หัวหิน ทำให้ทางวัดห้วยมงคล หัวหิน ซึ่งมีการประสานงานกับทาง ตชด.145 ปราณบุรี,ตชด.ค่ายนเรศวร หัวหิน,ตำรวจวังไกลกังวลหัวหิน ตำรวจภูธรหนองพลับ ,สารวัตรทหาร ,อปพร.และตำรวจหมู่บ้าน หลายร้อยนายมาดูแลความปลอภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้านักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปกราบไหว้หลวงพ่อทวด องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พระนามาภิไธยย่อ ส.ก. และรับน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิตและครอบครัวแล้ว ส่วนใหญ่นอกจากขอพรให้ครอบครัวแล้ว ยังขอให้คนไทยทั้งประเทศไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย และอยากให้หันหน้าพุดคุยกัน นอกจากนี้ พระครูปภัสสรวรพินิจ เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล หัวหิน ยังได้มอบพระของขวัญหลวงพ่อทวด ลอยองค์ซึ่งเตรียมไว้กว่า 1 แสนองค์เป็นพระของขวัญวันปีใหม่มอบให้กับพุทธศาสนิกชนที่เดินทางไปวัดห้วยมงคล หัวหิน ตลอดตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาซึ่งผ่านไปเกือบ 1 วันแล้วมีประชาชนไม่ต่ำกว่า 6-7 หมื่นคนที่เดินทางมาที่วัด ซึ่งทางวัดยังได้จัดตั้งโรงทานเลี้ยงอาหารกับทุกคนอีกด้วย นอกจากนั้นทั้งประชาชนและนักท่องเที่ยวนอกเหนือจากกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วยังได้เข้าเที่ยวชมทุ่งทานตะวัน ซึ่งกำลังออกดอกบานรับลมหนาว โดยส่วนใหญ่ต่างชื่นชอบและนำกล้องถ่ายรูปและโทรศัพท์มือถือมาถ่ายเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก ไม่เพียงเท่านั้นภายในวัดยังจัดบริการให้นักท่องเที่ยวนั่งช้างชมทุ่งทานตะวัน และการแสดงโชว์ของช้าง ซึ่งได้สร้างความประทับใจให้กับผู้มาท่องเที่ยวและไหว้พระเป็นอย่างดี ด้านนางปิ่นนาถ เจริญผล ผอ.ททท.ประจวบฯ กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวแห่เดินทางไปยังวัดห้วยมงคล หัวหิน เนื่องจากปีนี้ทางวัดเองได้หันมาปลูกทานตะวันในพื้นที่ของวัด เกือบ 100 ไร่และในช่วงนี้ดอกทานตะวันรุ่นใหม่ได้ออกดอกบานสะพรั่ง และยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในวัดห้วยมงคล ทั้งการปรับปรุงภูมิทัศน์ การสร้างศาลาริมน้ำ การนำดอกไม้เมืองหนาว การจัดอาหารเลี้ยงตลอดทั้งวัน และการนำช้างมาให้นักท่องเที่ยวนั่งในราคาประหยัดเพียงคนละ 100 บาท และการแสดงโชว์ของช้าง ประกอบกับปีนี้วันหยุดยาว และมีการโหมประชาสัมพันธ์ ประกอบกับวันนี้อากาศเริ่มหนาว เย็นไม่ร้อน ทำให้นักท่องเที่ยวพากันมาเที่ยวชม เนื่องจากมาแล้วนอกจากไหว้พระทำบุญ ยังมีกิจกรรมส่งเสริมท่องเที่ยวภายในวัด จึงทำให้นักท่องเที่ยวมีปริมาณมาก