นายกฯเตรียมถกครม.สัญจรนอกสถานที่
นายกรัฐมนตรี ทำบุญเนื่องในวันเข้าพรรษา ก่อนถก ครม.สัญจร เสื้อแดงอยุธยา แห่ต้อนรับ อย่างอบอุ่น ก่อนเดินทางดูแนวกั้นน้ำบางปะอิน-อยุธยา เชื่อ รับน้ำปีนี้ได้ขณะ ม็อบชาวนานับพันคนปิดถนนอยุธยาร้อง ครม.ช่วยแก้หนี้จนเกิดปะทะกับตำรวจ แล้ว
เช้าวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาตักบาตรพระสงฆ์ และสักการะหลวงพ่อโต ที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมถวายเทียนพรรษาและเครื่องไทยธรรม เนื่องในโอกาสวันเข้าพรรษา ขณะเดียวกัน ได้ตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างเขื่อนริมน้ำเจ้าพระยา ที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร และสักการะศาลเจ้าแม่ต้นจัน ที่บริเวณตลาดหัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา และเยี่ยมชมตลาดหัวรอ
ก่อนจะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 4/2556 ที่ ห้องประชุม อาคาร
เทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ จ.พระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เตรียมยื่นหนังสือข้อเรียกร้อง
อย่างเป็นทางการ ให้รัฐบาลเร่งรัดการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรอย่างเป็นระบบ
ก.พลังงาน จ่อขอครม.สร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์
ในการประชุม ครม.นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ หรือ ครม.สัญจร ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันนี้ มีวาระการประชุมที่น่าสนใจ คือ กระทรวงพลังงาน (พน.) ขอความเห็นชอบ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 5 เมกะวัตต์ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยขออนุมัติการเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนประจำปี 2556 สำหรับโครงการดังกล่าว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 631 ล้านบาท เพื่อช่วยเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน และรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นใน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ทาง ด้านกระทรวงการคลัง ขอความเห็นชอบ การขยายขอบเขตความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน เพิ่มเติม 3 ประเทศ คือ ศรีลังกา ภูฏาน และติมอร์-เลสเต และ สำนักงาน ป.ป.ช. เสนอขอความเห็นชอบ ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีการใช้นโยบายราคาเพื่อแก้ปัญหาสินค้า เกษตรที่เน่าเสียเร็ว เช่น หอมแดง หรือสินค้าเกษตรอื่นๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันกับตลาดโลก ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 (ฝ่ายเศรษฐกิจ) เสนอ
แดงอยุธยาแห่ต้อนรับนายกฯ อย่างอบอุ่น
บรรยากาศที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา มีเจ้าหน้าที่ ประชาชน กลุ่มคนเสื้อแดง มารอ มอบดอกกุหลาบต้อนรับอย่างอบอุ่น โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมโครงการซ่อมแซมฟื้นฟูและปรับปรุงระบบป้องกันน้ำท่วม ซึ่งเป็นเขื่อนริมน้ำเจ้าพระยา วัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นคันป้องกันน้ำท่วมที่มีความมั่นคงแข็งแรงแบบถาวร เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำล้นตลิ่งและอุทกภัย รวมถึง ไม่ส่งผลกระทบต่อทัศนียภาพริมแม่น้ำ โดยมีระยะเวลาในการก่อสร้าง 365 วัน จะแล้วเสร็จในวันที่ 2 กันยายน 2556 ขณะนี้ การดำเนินการก่อสร้างถือว่าเป็นไปได้ด้วยดี
จากนั้น เดินทางพร้อม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินมาดูแนวกั้นน้ำบริเวณถนนบางปะอิน-อยุธยา สายใน ตลอดแนว 14 กม. โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นการตรวจพื้นที่ที่เคยประสบปัญหาน้ำท่วม ซึ่งเชื่อว่า จะสามารถรองรับสถานการณ์น้ำในปีนี้ได้ โดยขณะนี้ ยังไม่มีรายงานว่าจะมีสานการณ์น้ำท่วมแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ในโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท จะช่วยในส่วนการป้องกันไม่ให้กระทบ โดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นพื้นที่ปลายน้ำ พร้อมกับบันทึกเทปรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ที่ตลาดโก้งโค้ง ก่อนเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร
ม็อบชาวนาปิดถนนอยุธยาจี้รัฐช่วยหนี้
พ.ต.อ.ชัยยะ เพ็ชรปัญญา ผกก.สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้ได้มีกลุ่มสมัชชาหนี้สินชาวนา ประมาณ 300-500 คน นั่งปิดถนนช่องหลัก โดยรอบศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่จะมีการประชุม ครม.สัญจร ในวันนี้ เพื่อเรียกร้องยื่นหนังสือให้รัฐบาลแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร ซึ่งกลุ่มดังกล่าว คือกลุ่มเดียวกันกับที่มาชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเดินทางตาม ครม. มาตั้งแต่ 05.00 น. จาก กทม. ทำให้การจราจรด้านหน้าศูนย์ราชการและใกล้เคียง ติดขัดอย่างหนักแล้ว ซึ่งตำรวจเร่งเจรจาให้เปิดเส้นทางการจราจรอยู่ในขณะนี้ แต่ทางผู้ชุมนุมยังไม่ยอมเปิดเส้นทาง จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว
ขณะที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ม็อบเกษตรกรเครือข่ายปลดหนี้สิน จากทั่วประเทศ กว่า 30 จังหวัด โดยการนำของ นายชัยวัฒน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล ชาวนาจังหวัดนครปฐม ได้ปิดถนนสายเอเชีย หน้าศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้ง 4 เลน รถติดยาวกว่า 10 กิโลเมตร จำนวนกว่า 1,000 คน กล่าวว่า เพื่อเรียกร้องกระทรวงการคลังปลดหนี้ พร้อมทั้งคนพิการทุพพลภาพทุกคน ซึ่งเกษตรกรปลดหนี้สิน ได้เดินทางไปที่กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน แล้วไม่ได้รับการดูแลจากหน่วยงานของรัฐ ที่มาปิดถนนสายเอเชีย จ.พระนครศรีอยุธยา วันนี้ เห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะมาประชุม ครม.สัญจร จึงอยากให้นายกฯ ได้รับทราบความเดือดร้อนของชาวนา และยื่นหนังสือ ซึ่งนายกฯ คงไม่ทราบความเดือดร้อน เพราะนายกฯ มาเครื่องบินไม่ได้นั่งรถยนต์ โดยมี พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นาย ดูแลความสงบเรียบร้อย
นายกฯ ใช้ทางเลี่ยงหลบม็อบชาวนาถก ครม.สัญจร
ภายหลังบันทึกเทปรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ที่ตลาดโก้งโค้ง เสร็จสิ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ต้องใช้เส้นทางเลี่ยงกลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย เดินทางจากหน้ากระทรวงการคลัง กรุงเทพฯ มารวมตัวปิดเส้นทางการจราจร อยู่บริเวณถนนสายเอเชีย หน้าศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรียกร้องให้แก้ไขปัญหาหนี้สิน และเตรียมยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี
ซึ่งขบวนรถนายกรัฐมนตรี และสื่อมวลชนที่ติดตาม ต้องเลี่ยงมาใช้เส้นทางเข้า ด้านหลังของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุวรรณภูมิ เพื่อจะเข้าไปประชุม ครม.สัญจร ในวันนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 1 กว่า 1,800 นาย รักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเข้มงวด โดยรอบพื้นที่
ม็อบเกษตรกรปะทะกับตำรวจแล้ว
ม็อบเกษตรกรเครือข่ายปลดหนี้สินจากทั่วประเทศ กว่า 30 จังหวัด ได้ปิดถนนสายเอเชีย หน้าศูนย์รวมราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่มี นายชัยวัฒน์ ชัยวัฒนศิริกุล ตัวแทนจากจังหวัดนครปฐม กลุ่มม็อบเกษตรกร ได้เปิดถนนสายเอเชีย ขาเข้ากรุงเทพ เพื่อให้รถวิ่งได้ตามปกติ แต่ได้ขยับกลุ่มเข้ามาประชิดหน้าศาลากลางจังหวัด ติดกับ ศูนย์รวมธุรกิจการค้า ติดเลนใน รถไม่สามารถวิ่งผ่านได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 1 กองร้อย ฝ่าวงล้อมสกัดไม่ให้ม็อบเดินผ่าน เพื่อไปพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่กำลังประชุม ครม.สัญจร บริเวณ วิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ปะทะม็อบกันอุตลุด มีความรุนแรงผลักดัน ทำให้มีปากเสียง กลุ่มม็อบได้ใช้เครื่องขยายเสียงโจมตีว่า รัฐบาลไม่สนใจตำรวจแล้ว ทิ้งประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังรังแกประชาชนอีก ส่วนขณะนี้ กลุ่มม็อบ ยังได้พยายามฝ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจะไปพบนายกรัฐมนตรี ให้ได้ โดยกล่าวว่า ถ้าไม่พบ จะไม่กลับ ยอมติดคุกให้เต็มเรือนจำอยุธยาเลย