DSIค้นร้านเสี่ยกังอุบลฯโยงรถหรูเณรคำอ้างโดนตุ๋น

DSIค้นร้านเสี่ยกังอุบลฯโยงรถหรูเณรคำอ้างโดนตุ๋น

DSIค้นร้านเสี่ยกังอุบลฯโยงรถหรูเณรคำอ้างโดนตุ๋น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ดีเอสไอ บุกร้าน 'เสี่ยกัง' จ.อุบลฯ อีกรอบ เจ้าตัวปัดไม่เกี่ยว อ้าง โดนตุ๋นด้วย ตั้งโต๊ะแถลงข่าวแสดงความบริสุทธิ์ด่วน ขณะที่ ป.ป.ส. เตรียมรายงานข้อมูลโครงข่ายยาเสพติด คดี 'เณรคำ' ต่อดีเอสไอ สัปดาห์นี้

นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ หัวหน้าศูนย์ข้อมูลและวิเคราะห์คดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า หลังจากทีมสอบสวนได้ประชุมคดี อดีตพระเณรคำ ที่ จ.อุบลราชธานี เช้านี้ ได้วางแผนการสอบสวน โดยเดินทางไปตรวจสอบที่ ร้านแสงเจริญ ซาวด์ แอนด์ มอเตอร์สปอร์ต ซึ่งเป็นร้านประดับยนต์ของ นายศุภราช วิริยพงศ์ หรือ "เสี่ยกัง" ที่ ปปง. มีมติให้ตามยึดและอายัดทรัพย์สินกว่า 60 รายการ ของ อดีตพระเณรคำ รวมทั้งของคนใกล้ชิดด้วยก่อนหน้านี้ โดยการตรวจสอบในวันนี้ คือตรวจสอบเอกสารอีกครั้ง ซึ่งเบื้องต้น ทาง เสี่ยกัง ให้การปฏิเสธ และระบุว่าตนเองเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย ที่ถูกหลอกให้ทำบุญกับ อดีตพระเณรคำ ด้วย ดังนั้น จึงเข้าข่ายเป็นผู้เสียหาย ในข้อหาฉ้อโกงด้วย ล่าสุด ได้เตรียมตั้งโต๊ะแถลงข่าวข้อเท็จจริงที่ร้านดังกล่าวแล้ว

 

ป.ป.ส.จ่อรายงานคดีสมีคำต่อDSIสัปดาห์นี้

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ เตรียมเข้าพบ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อรายงานข้อมูลโครงข่ายยาเสพติด ที่มีส่วนเกี่ยวกับคดี นายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระเณรคำ ฉัตติโก ประธานสำนักสงฆ์ขันติธรรม ตามที่ได้รับมอบหมายจากดีเอสไอให้ทำการตรวจสอบ

ส่วน นายวิรพล จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่นั้น พล.ต.อ.พงศพัศ ระบุว่า ทาง ป.ป.ส. ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดใดๆ ได้ เนื่องจากข้อมูลทั้งหมดจะไปปรากกในสำนวนการสอบสวน ซึ่งก็เป็นอำนาจหน้าที่ของดีเอสไอ ในการที่จะให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชน

 

เสี่ยกัง ยัน ไม่ใช่นอมินีเณรคำ แค่หารถให้

พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เดินลงพื้นที่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับร้องทุกข์กับ นายศุภราช วิริยพงศ์ หรือเสี่ยกัง เจ้าของร้านประดับยนต์ แสงเจริญ ที่ นายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระเณรคำ ฉัตติโก ประธานสำนักสงฆ์ขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.คอมผิวเตอร์ กระทำชำเราและพรากผู้เยาว์เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และฉ้อโกง ให้ดำเนินการจัดหารถยนต์ให้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จำนวน 35คัน มูลค่าร่วม 30 ล้านบาท

โดย เสี่ยกัง ระบุว่า รถยนต์ที่จัดหาให้นั้น นายวิรพล จะนำไปให้พระชั้นผู้ใหญ่ อดีตสื่อมวลชน คนสนิท ญาติ และนำไปใช้ในขบวนเดินทาง

ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้เป็นนอมินีครอบครองรถให้ นายวิรพล เป็นแค่คนจัดหา เพราะต้องการเงินส่วนต่างในการทำไฟแนนซ์ ทั้งนี้ รถยนต์บางคันนั้นใช้ชื่อตัวเองจ่ายไปก่อน และ นายวิรพล ก็จะมาผ่อนคืนทีหลัง ส่วนเงินที่จ่ายค่ารถไม่ทราบว่ามาจากที่ใด และขณะนี้นายวิรพล ก็ยังติดเงินอยู่ 9 ล้านบาท

 

DSIเร่งสางคดีเณรคำ-ยังไม่รับแจ้งถอนวีซ่า

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยถึงภาพรวมการทำงานในคดี นายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระเณรคำ ฉัตติโก ประธานสำนักสงฆ์ขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ และผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.คอมผิวเตอร์ กระทำชำเราและพรากผู้เยาว์เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และฉ้อโกง ว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอ เดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ และขณะนี้ อยู่ระหว่างการลงพื้นที่ตามจังหวัดต่าง ๆ ที่มีข้อมูล อาทิ จ.อุบลราชธานี เพื่อเร่งสืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐาน รวมถึงติดตามทรัพย์สินของ นายวิรพล เพิ่มเติม แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดต่าง ๆ ได้ เนื่องจากบางกรณียังไม่มีความชัดเจนมากพอ

ส่วนการติดตามตัว นายวิรพล นั้น นายธาริต ระบุว่า ค่อนข้างมีข้อจำกัด เนื่องจากเป็นอำนาจของหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ในการประสานกับแต่ละประเทศ เพื่อขอความร่วมมือในการผลักดัน นายวิรพล กลับมาดำเนินคดี แต่ก็ยืนยันว่าได้รับความร่วมมือจากต่างประเทศเป็นอย่างดี

ขณะที่การยกเลิกหนังสืออนุญาตเข้าประเทศ หรือวีซ่า ของนายวิรพล นั้น ล่าสุดยังไม่ได้รับแจ้งจากหน่วยที่เกี่ยวข้องว่ามีทางการประเทศใดยกเลิกวีซ่าของ นายวิรพล แล้ว ซึ่งคาดว่าอาจเป็นเพราะอยู่ในช่วงวันหยุด

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook