จนท.ส่งศพรถทัวร์ชน18ล้อที่สระบุรีตรวจนิติเวช

จนท.ส่งศพรถทัวร์ชน18ล้อที่สระบุรีตรวจนิติเวช

จนท.ส่งศพรถทัวร์ชน18ล้อที่สระบุรีตรวจนิติเวช
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เจ้าหน้าที่ทยอยส่งศพผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถทัวร์พุ่งชนรถ 18 ล้อ ที่สระบุรี ชันสูตรที่นิติเวช ร.พ.ตำรวจ แล้ว เพื่อยืนยันเอกลักษณ์บุคคล โดย นิติเวช เตรียมพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล พร้อมประสานญาตินำเอกสารมายืนยันร่วม พรุ่งนี้

บรรยากาศที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ในขณะนี้ได้มีญาติและเพื่อนเดินทางมารอรับศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์อุบัติเหตุรถโดยสารสายกรุงเทพมหานคร - ร้อยเอ็ด พุ่งชนรถพ่วง 18 ล้อ บนถนนมิตรภาพ ฝั่งขาเข้า ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จนเกิดไฟไหม้ลุกท่วมทั้งคัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 21 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ขณะเดินทางจาก จ.ร้อยเอ็ด มุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร หลังจากเจ้าหน้าที่นำศพส่งมาเพื่อตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์ และยืนยันสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างทยอยนำศพมายังสถาบันนิติเวชแล้ว ทั้งนี้ คาดว่าเจ้าหน้าที่มูลนิธิจะทยอยนำศพของผู้เสียชีวิตทั้งหมด มาให้แพทย์ชันสูตรได้ภายในเวลา 18.00 น.ของวันนี้

ทางด้าน พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา กล่าวถึงขั้นตอนการตรวจเอกลักษณ์บุคคลศพที่ถูกไฟคลอกจากอุบัติเหตุดังกล่าว ระบุว่า ต้องตรวจสาเหตุการเสียชีวิตว่า เสียชีวิตก่อนหรือหลังถูกไฟคลอก โดยดูจากปริมาณก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในร่างกาย รวมถึง ประมวลตำแหน่งที่นั่งบนรถทัวร์ เพื่อใช้เป็นแผนป้องกันอุบัติภัยในอนาคต ในรายที่มีประวัติการทำฟัน หรือตำหนิร่องรอยตามร่างกายสามารถพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลได้ภายใน 1 วัน ส่วนที่ถูกไฟคลอกและไม่มีประวัติการทำฟันต้องตรวจดีเอ็นเอจากบิดา มารดา หรือทายาท จะทราบผลภายใน 48 ชั่วโมง

 

นิติเวช ตรวจศพ รถทัวร์ชนสิบล้อ พรุ่งนี้

พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา ร.พ.ตำรวจ กล่าวถึงการเตรียมตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์อุบัติเหตุรถโดยสาร สายกรุงเทพมหานคร-ร้อยเอ็ด พุ่งชนรถพ่วง 18 ล้อ จนเกิดเพลิงลุกไหม้ บนถนนมิตรภาพ ฝั่งขาเข้า ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิเคลื่อนศพผู้เสียชีวิตมายัง นิติเวช ร.พ.ตำรวจ แล้ว จำนวน 19 ราย จากการตรวจสอบสภาพศพของผู้เสียชีวิต ในเบื้องต้นทั้ง 19 รายนั้น พบว่าสภาพศพส่วนใหญ่ ถูกไฟไหม้เสียหายค่อนข้างมาก จนไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าใครเป็นใคร ดังนั้น ผู้ที่คิดว่าเป็นญาติของผู้ตาย ให้เตรียมเอกสารในการตรวจพิสูจน์ คือ ประวัติแผลเป็น สิ่งของติดตัว แต่ถ้าหากไม่มีสิ่งของติดตัวผู้ตาย ก็ให้เตรียมประวัติการทำฟัน เพื่อให้ ทันตแพทย์ ร.พ.ตำรวจ มาทำการตรวจพิสูจน์ ซึ่งจะได้ผลที่รวดเร็วมาก แต่หากไม่มีประวัติการทำฟัน แพทย์จำเป็นต้องเก็บดีเอ็นเอ จากบิดา มารดา หรือ บุตร ของผู้ตาย ก็จะได้ข้อมูลที่ตรงมากที่สุด

อย่างไรก็ดี ผู้ที่คาดว่า เป็นญาติของผู้ตาย ให้เตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆ มายื่นที่ นิติเวช ร.พ.ตำรวจ ได้ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป

 

ขนส่งยืนยันรถโดยสารคันเกิดเหตุไฟไหม้ไม่ได้ติดก๊าซ

นายธงชัย พาณิชย์ดี นายสถานี บขส.ร้อยเอ็ด กล่าวถึงกรณีรถทัวร์ที่ประสบอุบัติเหตุ ชนกับรถบรรทุกที่ จ.สระบุรี จนเกิดเพลิงลุกไหม้ และมีผู้โดยสารเสียชีวิตจำนวนมาก ว่ารถคันดังกล่าวมีผู้โดยสารเต็มที่นั่ง 32 คน รวมพนักงานขับรถด้วย และเจ้าหน้าที่ประจำรถแล้วเป็น 35 คน ซึ่งมีรายชื่อทั้งหมดทุกคน แต่จะเป็นชื่อของคนโดยสารที่เดินทางไปในรถทั้งหมดหรือไม่ ยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากบางคนมาใช้ชื่อผู้อื่นซื้อตั๋วให้ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบกันอีกครั้ง

ส่วนสาเหตุของการที่มีข่าวว่า ผู้เสียชีวิตเกิดจากก๊าซของรถโดยสารระเบิดลุกเป็นไฟเป็นต้นเหตุซึ่งเป็นเรื่องที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากรถโดยสารของ บขส.คันเกิดเหตุ ไม่ได้ใช้ก๊าซ แต่ใช้น้ำมันดีเซลตามปกติ และการเกิดเพลิงไหม้ยืนยันว่า เกิดจากรถเทรเลอร์เป็นต้นเหตุ อย่างไรก็ตาม ทาง บขส.เอง ก็จะต้องรับผิดชอบความเสียหาย การเสียชีวิต และการบาดเจ็บของผู้เสียหายทุกคน เพราะมีการทำประกันภัยผู้โดยสารไว้ โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือตามเกณฑ์ที่ระบุไว้ตามกรมธรรม์อยู่แล้ว

 

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook