รวบ"อาเต๋อ"เครือข่ายนำ"สารซูโดฯ"ผลิตยาบ้า หลังหนีกบดานที่พม่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส.ได้เดินทางมายังสนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เพื่อรอรับตัวนายสมชัย หรืออาเต๋อ รักยอดยิ่ง ผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่ คดีร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (ชูโดอีเฟดรีน) ไว้ในครอบครอง โดยมี พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอนำกำลังมารอรับตัว เพื่อไปดำเนินคดี

พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า นายสมชัย หรืออาเต๋อ ตกเป็นผู้ต้องหาได้หลบหนีไปอยู่เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า สำนักงาน ป.ป.ส.จึงได้ประสานกับทางการพม่า เพื่อขอจับกุมตามหมายจับทางการไทย กระทั่งวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ทางการพม่าแจ้งว่า ได้จับกุมตัวนายสมชัยได้แล้ว ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ที่โรงแรมชเวดาไก เมืองย่างกุ้ง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.จึงได้เดินทางไปรับนำตัวไปสอบสวน ให้การรับสารภาพ ก่อนพาค้นบ้านพักที่อยู่ใน ต.สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ พบเครื่องทำลายเอกสาร เครื่องรีดปากถุง กล่องพัสดุถูกฉีกชื่อทิ้งกว่า 50 กล่อง ขวดยาเปล่า อุปกรณ์แกะเม็ดยา สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ และหนังสือเดินทาง โดยก่อนหน้านี้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ได้สืบทราบว่านายสมชัยได้ร่วมกระบวนการนำสารซูโดอีเฟดรีนมาผลิตเป็นยาบ้า ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเช่านายสันชัยใน ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ สามารถตรวจยึดของกลางเป็นยาแก้หวัด สูตรผสมชูโดอีเฟดรีน รวมมูลค่า 137,000 เม็ด พร้อมอุปกรณ์ในการแกะเม็ดยาออกจากแผง และเศษแผงยาเปล่า ก่อนนำไปทิ้งในป่าร้างบริเวณใกล้เคียงบ้านพักจำนวนมาก และบ้านพักอีกหลังหนึ่งใน ต.ตันเปา อ.สันกำแพง โดยที่แห่งนี้พบกล่องพัสดุไปรษณีย์ภายในบรรจุยาแก้หวัด 10,000 เม็ด ที่ส่งมาจากโรงพยาบาลทองแสงขัน จ.อุตรดิตถ์ หลังนายสันชัยตกเป็นผู้ต้องหา จึงได้หลบหนีไปยังประเทศพม่าดังกล่าว เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษ จึงได้ขยายผลก่อนประสานไปยัง ป.ป.ส.ประเทศพม่า เพื่อจับกุมตัวได้ดังกล่าว

พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวต่อว่า การจับกุมตัวครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือที่ดีระหว่างปรเทศต่อกันในกลุ่มอาเซียน โดยก่อนหน้านี้ สำนักงาน ป.ป.ส.ประเทศพม่าได้เคยประสานกับสำนักงาน ป.ป.ส.ของไทย ขอให้ช่วยติดตามจับกุมตัวนายอูฉ่วยนุ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลของประเทศพม่า ซึ่งเป็นสมุนของ พ.ท.ยี่เซ ในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส.ได้จับกุมตัวได้นายอูฉ่วยนุ ภายหลังนำตัวส่งทางการพม่าดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว