สส.คึกสภาวิปรัฐย้ำวันนี้ไร้นิรโทษ-มท.1ขออย่าตื่นใช้พรบ.

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยัน รัฐบาลหนุนร่างนิรโทษ ฉบับ 'วรชัย' ร่างเดียว แจงใช้ พ.ร.บ.มั่นคง ก่อนมีม็อบ เพราะมีสถานการณ์ ขณะ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผย เตรียมกำลัง 3,000 นาย รปภ. ม็อบ

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า การที่พรรคเพื่อไทย เป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงสังสรรค์พรรคร่วมรัฐบาลนั้น ถือเป็นเรื่องปกติ และเป็นงานประจำทุกปีอยู่แล้ว ส่วนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญทั่วไป ยังเป็นไปตามแถลงการณ์เมื่อวานนี้ พร้อมยืนยัน พรรคร่วมรัฐบาล ให้การสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับ นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และขอให้เชื่อใจรัฐบาลว่าจะไม่นำร่างอื่นมาสอดแทรก เพราะหลักใหญ่ยังใช้ร่างนิรโทษของ นายวรชัย ส่วนเรื่องดาวสภานั้น ทางพรรคไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ เพราะไม่ใช่สาระ เป็นเพียงเรื่องปลีกย่อยและสีสันเท่านั้น 

ทั้งนี้ ในส่วนของม็อบนอกสภาฯ ทางรัฐบาลมีการติดตามตลอดเวลา ส่วนสาเหตุที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ล่วงหน้า เป็นเพราะมีสถานการณ์เกิดขึ้น ซึ่งการกระทำของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ก็เหมือนกับรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงขอทุกฝ่ายอย่าตกใจ

 

บชน.ส่งตร.แล้ว3,000ลงพท.มั่นคงรปภ.ถกเปิดสภา

เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องในการเตรียมความพร้อมดูเเลการชุมนุมของกลุ่มต่าง ๆ ที่จะชุมนุม หลังการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ ในวันที่ 1 ส.ค. หลังจากที่ ครม. เห็นชอบประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ในเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตดุสิต เเละเขตพระนคร ระหว่างวันที่ 1-10 ส.ค. 2556 โดยระบุว่า หลังมีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ซึ่งจะมีผลตั้งเเต่เวลา 24.00 น. ของคืนนี้วันที่ 1 ส.ค.นั้น ในส่วนของนครบาล ได้มีการเตรียมความพร้อมในการดูเเล โดยจัดกำลังทั้งหมด 20 กองร้อย หรือ 3,000 นาย กระจายกำลังดูเเลจุดสำคัญทุกจุด โดยจะมีการปรับรูปแบบการทำงานให้สอดคล้องกับกฎหมายม เบื้องต้น ไม่มีการกำหนดเเผนเป็นพิเศษ เเต่จะยึดหลักการเจรจา โดยอยากให้เเกนนำกลุ่มต่าง ๆ มาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งพร้อมให้ความเป็นธรรมและดูเเลความสงบเรียบร้อย ในส่วนของผู้ชุมนุมที่ปักหลักอยู่ในพื้นที่ ที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง จะต้องออกจากพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม หรือสีใดก็ตาม เพื่อให้กฎหมายคงความศักดิ์สิทธิ์

ทั้งนี้ ไม่รู้สึกหนักใจ หลังมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าว  เพราะเชื่อว่าทุกฝ่ายหวังดีต่อประเทศชาติ ซึ่งหากมีการชุมนุมเกิดขึ้น สิ่งที่เสียหาย คือผลกระทบด้านการท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังยอมรับว่า มีความกังวลเรื่องของมือที่ 3 ที่จะสร้างสถานการณ์ เพื่อใส่ร้ายฝ่ายตรงข้าม พร้อมย้ำว่า กลุ่มผุ้ชุมนุม ที่จะออกมาเคลื่อนไหว ต้องเป็นการสงบปราศจากอาวุธ เเละอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย โดยจะต้องไม่มีการบุก หรือลุกล้ำสถานที่ราชการอย่างเด็ดขาด

 

กองทัพ ปชช. ยัน ม็อบลุย4ส.ค.

นายไทกร พลสุวรรณ, นายพิเชฐ พัฒนโชติ แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ยืนยันกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ได้ประสานเสียงคณะเสนาธิการร่วม และกลุ่มพันธมิตรต่าง ๆ ทั่วประเทศแล้ว จะไม่เดินทางเคลื่อนไหวไปกดดันสภา ในการประชุมวันแรก แม้หากมี ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ลักไก่พิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ก็ตาม แต่ทางกลุ่มจะเฝ้าจับตาเป็นพิเศษ พร้อมประเมินสถานการณ์ไปพร้อม ๆ กัน ทั้งนี้ ได้ระดมมวลชนทั่วประเทศ เตรียมเคลื่อนไหวใหญ่ต่อต้านร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ในวันที่ 4 สิงหาคม ตามกำหนดเดิม และยืนยัน จะต่อต้านอย่างหนัก โดยมีเป้าหมายคือต้องชนะ

อย่างไรก็ดี นายไทกร ไม่รู้สึกกดดัน และยืนยัน จะไม่เกิดการปะทะรุนแรงกับกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุนรัฐบาลในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว

 

ฝ่ายค้านยื่น2กระทู้สด-รัฐบาลยื่น1กระทู้สด

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า วันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ โดย นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง จะยื่นกระทู้ถามสด กรณีท่อส่งน้ำมันรั่วไหลกลางทะเล จ.ระยอง ซึ่งเกิดผลกระทบและสร้างเสียความหายให้กับประชาชน รัฐล้มเหลวไม่ใส่ใจ ทำให้ปัญหาบานปลาย ขณะที่ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ในส่วนของภูมิใจไทย โดย นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา จะยื่นกระทู้ถามสด กรณีเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ของผู้สูงอายุ ที่รัฐบาลไม่ยอมตั้งงบประมาณไว้ตามที่กฎหมายกำหนดว่าถ้ามีผู้สูงอายุเสียชีวิต จะให้ศพละ 2,000 บาท ซึ่งขณะนี้มีผู้สูงอายุ เสียชีวิตไปแล้ว 2 แสนคน และยังไม่รับเงินจำนวนดังกล่าว

ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. กล่าวว่า ตนจะยื่นกระทู้ถามสด เรื่องมาตรการการอำนวยความสะดวกให้ผู้ชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตยและการดูแลเรื่อง พ.ร.บ.ความมั่นคง ว่ารัฐบาลมีแนวทางการดำเนินการอย่างไร ซึ่งทางด้านพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ตอบยืนยันว่าจะไม่มีการใช้อาวุธ แต่ดำเนินการตามหลักสากล

 

ตร. เริ่มวางกำลังพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.มั่นคง

บรรยากาศบริเวณโดยรอบรัฐสภา หลังเวลา 24.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่มีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มทยอยกระจายกำลังตามจุดต่างๆ โดยใช้สวนสัตว์ดุสิตเป็นศูนย์อำนวยกลร นอกจากนี้ ยังเริ่มมีการปิดถนนบริเวณด้านหน้ารัฐสภา ตั้งแต่ถนนอู่ทองใน ตลอดจนบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า  นอกจากมีเตรียมกำลังยังมีการเตรียมรถพยาบาล รถฉุกเฉิน อีกทั้ง เตรียมแท่งปูนขนาดใหญ่ ซึ่งหากมีเหตุฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ก็จะนำมาวางปิดกั้นถนน ขณะที่ตามจุดตรวจต่างๆ ประกอบด้วย บริเวณแยกวัดเบญจมบพิตร สะพานชมัยมรุเชฐ ถนนราชดำเนิน แยกการเรือน แยกอู่ทองใน แยกพิชัย นอกจากนี้ยังมี สายตรวจพิเศษ โดยจะขี่รถจักยานยนต์ไปตามเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตดุสิต และเขตพระนคร เพื่อลาดตระเวนดู หากพบรถต้องสงสัยก็จะเข้าตรวจค้นทันที

 

'นคร' เผย กระทู้ถามสดชัด 9.00 น. วันนี้

นายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ และในฐานะรองประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า เรื่องกระทู้ถามสดที่จะถามรัฐบาลในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญทั่วไป ในวันนี้ ยังมีหลายเรื่อง ซึ่งจะสรุปและมีความชัดเจน ในเวลา 09.00 น. ส่วนประเด็นยังเน้นที่ความเดือดร้อนของประชาชน รวมถึง คลิปสนทนาผู้อาวุโส 2 คน ที่เกี่ยวกับกองทัพ และน้ำมันรั่ว ซึ่งจะทำการหารือให้มีความชัดเจนอีกครั้ง

ส่วนเรื่องผิดคิวนั้น ทางพรรคมีการพูดคุยอยู่ตลอดเวลา และเชื่อว่า รัฐบาลจะไม่มีการลักไก่นำร่างกฎหมายอื่นมาพิจารณาก่อน เพราะเชื่อในสัญญาสุภาพบุรุษ ทั้งนี้ หากรัฐบาลมีการผิดคิวจะวอล์กเอาต์ทันทีหรือไม่ ต้องดูเหตุผลก่อนว่า สิ่งที่รัฐบาลเสนอ ประชาชนได้ประโยชน์หรือไม่

 

บรรยากาศรอบทำเนียบปกติ ตร.ประจำการตาม พ.ร.บ.มั่นคงแล้ว

บรรยากาศบริเณรอบทำเนียบรัฐบาลท ซึ่งเป็นพื้นที่ตามประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ขณะนี้ ยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนประจำการรักษาความปลอดภัย ตั้งแต่เวลา 24:00 น. ที่ผ่านมา อาทิ บริเวณทำเนียบรัฐบาล ฝั่งถนนพิษณุโลก ตั้งแต่สะพานชมัยมรุเชฐ มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจราจล จำนวน 1 กองร้อย หรือ 150 นาย, ฝั่งถนนราชดำเนินนอก บริเวณประตูเข้าออกทำเนียบรัฐบาล จนถึงสะพานมัฆวานรังสรรค์ มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลความสงบเรียบร้อยเช่นกัน ทั้งนี้ การสำรวจในพื้นที่บริเวณดังกล่าว ยังไม่พบกลุ่มผู้ชุมนุมออกมาเคลื่อนไหวแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ในเวลา 11:00 น. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศอ.รส. ตร. อย่างเป็นทางการ

 

บรรยากาศโดยรอบลานพระรูปยังปกติ ตร. 2 กองร้อยตรึงเข้ม

บรรยากาศล่าสุด บริเวณถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่แยกวัดเบญจมบพิตร ถึงแยกกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ และลานพระบรมรูปทรงม้า ภายหลังมีการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ใน 3 เขต ประกอบด้วย เขตดุสิต พระนคร และป้อมปราบศัตรูพ่าย ตั้งแต่เมื่อเวลา 24.00 น. ที่ผ่านมา โดยทั่วไปยังคงเป็นไปตามปกติ ไม่มีการเคลื่อนไหวของมวลชนกลุ่มต่างๆ รวมไปถึง ยังไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายใดๆ เกิดขึ้น

ขณะที่ ด้านในกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีกำลังตำรวจ 2 กองร้อย ประมาณ 300 นาย ประจำการอยู่ เพื่อเตรียมความพร้อมหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน จะได้ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมเหตุได้ทันท่วงที

นอกจากนี้ มีการเตรียมรถพยาบาล รถฉุกเฉิน อีกทั้งเตรียมแท่งปูนขนาดใหญ่ ซึ่งหากมีความวุ่นวายเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ก็จะนำมาวางปิดกั้นถนน เพื่อป้องกันเหตุด้วย อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ไม่มีการตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด แต่อย่างใด ซึ่งคาดว่า อาจเป็นเพราะเกรงจะกระทบกับการจราจรของประชาชน

 

รองผบช.น.เผยส่งตร.1กองร้อยเข้าในรัฐสภาแล้ว

พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยภายหลังเดินทางไปตรวจดูความเรียบร้อยโดยรอบรัฐสภา ว่า สถานการณ์ทั่วไปยังคงเป็นไปตามปกติ ไม่มีการเคลื่อนไหวของมวลชนกลุ่มต่างๆ รวมไปถึงยังไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายใดๆ เกิดขึ้น ส่วนการวางกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลและป้องกันเหตุร้ายต่างๆ ภายใต้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในเขตดุสิต พระนคร และ ป้อมปราบศัตรูพ่ายนั้น เบื้องต้น ได้จัดส่งกำลังตำรวจปราบจลาจล จำนวน 1 กองร้อย เข้าไปสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภา ในการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในอาคาร และบริเวณโดยรอบ พร้อมกับจัดเตรียมกำลังเสริมในที่ตั้งจำนวน 2 กองร้อย ไว้ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน จะสามารถนำกำลังส่วนนี้ออกไปควบคุมเหตุได้ทันที

ขณะที่ ในช่วงเช้าวันนี้ จะไม่มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามพื้นที่เสี่ยง อาทิ บริเวณแยกวัดเบญจมบพิตร สะพานชมัยมรุเชฐ ถนนราชดำเนิน แยกการเรือน แยกอู่ทองใน และแยกพิชัย เนื่องจากเกรงว่า จะกระทบกับการจราจรของประชาชน ในช่วงเวลาเร่งด่วน

 

'ไทกร' ชี้ รัฐ 2 มาตรฐาน ใช้ พ.ร.บ.มั่นคงก่อนมีม็อบ

นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า
ทางกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ จะยังนัดชุมนุมประชาชน ในวันที่ 4 ส.ค. แม้ทางรัฐบาลจะออกมาประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ใน 3 เขต ของ กทม. ก็ตาม ส่วนจะตั้งม็อบชุมนุมในพื้นที่ใดนั้น จะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง แต่ยืนยัน เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับผู้เข้าร่วมชุมนุมอย่างแน่นอน 

ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่มีการเตรียมพัดลมขนาดยักษ์แบบติดเครื่องยนต์เพื่อต้านแก๊สน้ำตา และระดมรถขนถ่ายสิ่ง
ปฏิกูลไว้ตามที่มีกระแสข่าวเกิดขึ้น พร้อมทั้ง ทางกลุ่มยังหวังว่า รัฐบาลจะทำตามคำมั่นสัญญา ว่า จะไม่นำร่าง
อื่นเข้ามาสอดแทรก ส่วนที่เริ่มชุมนุม ในวันที่ 4 ส.ค. เป็นเพราะต้องการให้รัฐบาลนำไปทบทวน เพื่อถอนร่าง
นิรโทษกรรม ฉบับ นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ออกในวันที่ 7 ส.ค.นี้

นอกจากนี้ นายไทกร ยังกล่าวว่า จากการตววจสอบวาระในวันนี้ คาดว่า จะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น แต่การที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ทั้งที่ยังไม่มีการชุมนุม แสดงให้เห็นถึงความเป็นเผด็จการ และ 2 มาตรฐานอย่างชัดเจน

 

'อำนวย'ยันไม่ถกนิรโทษสอดไส้ปรองดอง

บรรยากาศการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญทั่วไป นัดแรกวันที่ 1 สิงหาคม ที่จะเริ่มการประชุมในเวลา 10.00 น. ล่าสุด บรรดา ส.ส. ต่างทยอยเดินทางเพื่อเตรียมตัวการประชุมอย่างต่อเนื่อง ด้าน นายอำนวย คลังผา ประธานวิปรัฐบาล กล่าวยืนยันว่า วันนี้จะยังไม่มีการพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรม เป็นเพียงกระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เท่านั้น ส่วนในวันที่ 7 ส.ค. ที่จะมีการพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรม ฉบับของ นายวรชัย เหมมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย จะไม่มีการสอดไส้ พ.ร.บ.ปรองดอง อย่างแน่นอน

ขณะเปิดเผยว่า วันนี้ จะมีการถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับของ นายนิยม วรปัญญา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เนื่องจากมีเนื้อหาเหมือนกับฉบับของ นายวรชัย อย่างไรก็ตาม การประชุมนัดแรกวันนี้ จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และจบในเวลา 17.00 น.

 

ตำรวจกว่า 700 นาย ยังคงเข้มรอบสภา

บรรยากาศการรักษาความปลอดภัย บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา ในวันเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญทั่วไปนัดแรก เป็นไปอย่างเข้มงวด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 700 นาย แบ่งเป็นตำรวจปราบจราจล 500 นาย ตำรวจควบคุมฝูงชน 200 นาย ที่กระจายกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยอยู่รอบ ๆ อาคารรัฐสภา ขณะที่ประตูทางเข้านั้น เปิดให้เข้าเพียงจุดเดียว คือบริเวณฝั่งตรงข้ามสวนสัตว์ดุสิต ซึ่งมีแผงรั้วเหล็กกั้น และเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างเข้มงวด โดยมีการตรวจค้นรถที่เข้าออกทุกคัน รวมไปถึงการห้ามพกพาอาวุธเข้ามาในพื้นที่เด็ดขาด

ทั้งนี้ กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิไปไตย หรือ กวป. ที่มีการชุมนุมกันที่บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา เพื่อสนันสนุนรัฐบาลในการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็ได้มีการยุติไปแล้ว เมื่อช่วงค่ำวานนี้ เหลือเพียงเวทีที่ยังไม่ได้รื้อถอนออกไป อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาดูว่า จะมีมวลชนกลุ่มอื่นใด เดินทางมาชุมนุมเพื่อให้การสนับสนุน หรือต่อต้านการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือไม่