ไทย-ยูกานดา ร่วมลงนาม MOU 3 ฉบับ

ไทย-ยูกานดา ร่วมลงนาม MOU 3 ฉบับ สานสัมพันธ์การค้าการลงทุน เชื่อม เอเชีย กับ แอฟริกา

ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจเยือนสหสาธารณรัฐแทนซาเนีย จากนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางถึงท่าอากาศยาน Entebbe International Airport เมืองเอ็นเท็บเบสาธารณรัฐยูกันดา และเดินทางต่อไปยังทำเนียบประธานาธิบดี เพื่อร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการและพบหารือกับ นายโยเวรี คากูทา มูเซเวนี ประธานาธิบดียูกันดา โดยถือเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรกของผู้นำไทยตามคำเชิญของ นายโยเวรี คากูทา มูเซเวนี ประธานาธิบดียูกันดา ซึ่งขณะนี้ไทยริเริ่ม Thai-African Intiative เพื่อเป็นเวทีการหารือระหว่างเอเชียและแอฟริกา เพื่อร่วมแสวงหาประโยชน์จากการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการพัฒนาระหว่างกัน โดยไทยต้องการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนระหว่างเอเชียและแอฟริกา ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ซึ่งด้านการค้าและการลงทุน ทั้ง 2 ประเทศ เห็นพ้องต่อการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทย-ยูกันดา ให้ครอบคลุมในหลายสาขาโดยเฉพาะความมั่นคงด้านอาหาร อาทิ การแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร พลังงาน และอุตสาหกรรมเหมืองแร่ โดย นายกรัฐมนตรีฯ ได้แจ้งถึงการพิจารณารายการสินค้านำเข้าจากลุ่มประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (Least Developed Countries-LDCs) ซึ่งจะได้รับสิทธิพิเศษในการยกเลิกภาษีนำเข้าและโควตา ตามโครงการ Duty free , Quota free market access ขององค์การการค้าโลก โดย ยูกันดา จะได้ประโยชน์ในโครงการดังกล่าว เมื่อไทยประกาศเจตนารมณ์ดังกล่าวในการประชุมองค์การการค้าโลกที่บาหลี อินโดนีเซีย ปลายปีนี้ ภายหลังการหารือเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และประธานธิบดียูกันดา ร่วมเป็นประธานในการลงนามความตกลงและบันทึกความเข้าใจ 3 ฉบับ ได้แก่

1. บันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการระหว่างรัฐบาลไทยและสาธารณรัฐยูกันดา
2. บันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหาร การค้าและการลงทุนในผลิตภัณฑ์และโภคภัณฑ์การเกษตร
3. บันทึกความเข้าใจระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาหอการค้าแห่งยูกันดา

จากนั้น เวลา 20.10 น. ตามเวลาท้องถิ่น นายกฯและคณะ จะเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งตามกำหนดการจะเดินทางถึงไทยเวลาประมาณ 10.30 น. ของวันที่ 2 ส.ค.