ตรังน้ำท่วมสูง80ซม.รถผ่านไม่ได้-สังขละบุรีน้ำเชี่ยวกราก
ฝนถล่มตรัง น้ำท่วมหลายจุดบางเส้นทางรถผ่านไม่ได้ ระดับน้ำสูงกว่า 80 เซนติเมตร ขณะที่ อ.สังขละบุรี ฝนตกต่อเนื่อง แม่น้ำซองกาเลียไหลเชี่ยวกราก ด้าน อ.แม่สอด แม่น้ำเมยลดสู่ภาวะปกติ พบรถมือสองจากญี่ปุ่น จมกว่า 3,000 คัน
หลังจากที่ฝนตกหนักติดต่อกันตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะนี้ได้เกิดน้ำท่วมถนนทางหลวงแผ่นดิน 4046 ตรัง - สิเกา กิโลเมตรที่ 23 ระดับน้ำท่วมสูง 80 เซนติเมตร ม.3 ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา รถยนต์ไม่สามารถผ่านไปมาได้ และพื้นที่ ม.4 ต.นาเมืองเพชร ระดับน้ำ 30 เซนติเมตร รถผ่านไปมาได้ เจ้าหน้าที่ ปภ. ได้ส่งเรือท้องแบนไปช่วยเหลือแล้ว ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว
นายเจษฎา วินสน ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัดตรัง แจ้งว่า ตามที่กรมทางหลวงชนบท ได้ดำเนินการก่อสร้างถนนสายแยก ทล.4046 - บ้านหาดปากเมง (สายนาเมืองเพชร - หาดปากเมง) อ.กันตัง ขอแจ้งให้ทราบว่าทางเบี่ยงที่บ้านบางสัก อ.กันตัง รถยนต์ไม่สามารถผ่านไปมาได้ เนื่องจากน้ำท่วมพัดทางเบี่ยงขาด ให้ผู้ใช้รถไปใช้เส้นบ้านบางสัก - บ้านควนตุ้งกู จนกว่าจะซ่อมทางเบี่ยงแล้วเสร็จ
ฝนยังถล่มสังขละบุรี-แม่น้ำเชี่ยวกราก
ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ยังมีฝนตกติดต่อกันทุกวัน ขณะที่ชาวบ้านต้องประสบกับปัญหาน้ำประปาไม่ไหลมาหลายวัน ไม่มีน้ำอุปโภค จนต้องหาภาชนะต่างๆ มารองน้ำฝนไว้ใช้ ส่วนแม่น้ำซองกาเลีย ยังมีกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก จึงทำให้ยังไม่สามารถดำเนินการซ่อมแซมสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ ได้
ทั้งนี้ ชาวบ้านที่เคยใช้สะพานมอญ เป็นเส้นทางการเดินทาง จะต้องเปลี่ยนไปใช้อีกเส้นทางหนึ่ง จากที่เคยเดินทาง 1 กิโลเมตร เป็น 10 กิโลเมตร ด้านแม่ค้าริมแม่น้ำซองกาเลีย ที่เคยขายสินค้าให้กับน้ำท่องเที่ยว กล่าวว่า ขาดรายได้ เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยว จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งซ่อมแซมโดยเร็ว
น้ำเมยลดสู่ภาวะปกติ-รถมือสองจมน้ำ3พันคัน
จากสถานการณ์อุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ แม่น้ำเมยล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมตลาดริมเมย ท่าเรือขนส่งสินค้า กว่า 20 แห่ง และโกดังสินค้าริมน้ำ ย่านธุรกิจการค้า บ้านเรือนราษฎร และสถานที่ราชการ ตามริมแม่น้ำเมย ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก ล่าสุด ระดับน้ำได้ลดลงเป็นปกติ แต่สิ่งที่ได้พบและได้รับความเสียหายกับนักธุรกิจค้ารถมือสอง ซึ่งเป็นรถถ่ายลำจากประเทศญี่ปุ่น ที่เตรียมส่งออกไปประเทศพม่า และจอดรอเตรียมการขนส่งจากท่าเรือริมแม่น้ำเมยฝั่งไทย ปรากฏว่า รถยนต์มือสองญี่ปุ่นกว่า 3,000 คัน ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด สร้างความเสียหายให้กับนักธุรกิจพม่า และนักธุรกิจไทย ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท โดยรถยนต์แต่ละคัน มีมูลค่าคันละเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 150,000 บาท โดยรถที่ถูกน้ำท่วมครั้งนี้ บางคันพอจะซ่อมแซมได้ แต่บางคันไม่สามารถซ่อมแซมได้แล้ว
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีรถยนต์อีกนับร้อยคัน ถูกกระแสน้ำเมยที่ไหลรุนแรงในช่วงฝนตกหนัก น้ำไหลหลาก พัดพารถจมหายไปกับสายน้ำในช่วงระดับน้ำขึ้นสูงเข้าท่วมจนเกือบมิดหลังคาตลาดริมเมย อีกทั้งยังพบว่า มีรถจักรยานมือสองจากญี่ปุ่น ที่จอดอยู่ตามท่าเรือ จำนวนนับแสนคัน ได้รับความเสียหายและถูกกระแสน้ำพักหายไปในแม่น้ำเมยนับหมื่นคันเช่นกัน