สธ.ไม่พบสารปรอทและพีเอเอชอาหารทะเลระยอง

สธ.ไม่พบสารปรอทและพีเอเอชอาหารทะเลระยอง

สธ.ไม่พบสารปรอทและพีเอเอชอาหารทะเลระยอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผย ผลตรวจอาหารทะเลที่ระยอง ไม่พบสารปรอท และพีเอเอช รอผลอีก 3 สัปดาห์หน้า

น.พ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้า การเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพประชาชนจากปัญหาน้ำมันดิบไหลลงทะเลที่ จ.ระยอง ว่า ได้ตั้งวอร์รูมที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง ประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องด้านการแพทย์และสาธารณสุข ร่วมกับบริษัท ปตท. เพื่อวางแผนเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต และผู้เสี่ยงสัมผัสกับสารที่อยู่ในน้ำมันดิบ การปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมทั้งในอาหารทะเล น้ำบริโภคทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว

โดยจากการเก็บตัวอย่างอาหารทะเล ประเภทหอย แมลงภู่สด ปลาสด จำนวน 8 ตัวอย่าง จากตลาดเพ และตำบลแกลง ส่งตรวจหาสารโพลีไซคลิคอะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน หรือ สารพีเอเอช และโลหะปนเปื้อน 4 รายการ ได้แก่ สารปรอท ตะกั่ว แคดเมียม และสารหนู ขณะนี้ทราบผล 2 รายการ คือ 1.สารพีเอเอช ไม่พบทุกตัวอย่าง 2. สารปรอท ไม่พบในหอย ส่วนในปลาพบระหว่าง 0.019-0.203 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ไม่เกินมาตรฐาน ซึ่งสารปรอทที่ตรวจพบในปลาทะเลนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เนื่องจากสามารถพบได้ในธรรมชาติและปนเปื้อนในอาหารได้อยู่แล้ว ส่วนที่เหลืออีก 3 รายการคือ ตะกั่ว แคดเมียม สารหนู รวมทั้งน้ำบริโภคอยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะทราบผลทั้งหมดภายในสัปดาห์หน้า ส่วนการสัมผัสสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย ขณะนี้ได้เก็บปัสสาวะตรวจแล้ว 1,522 คน ทราบผลแล้ว 252 คน พบว่าค่าไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนดทุกตัวอย่าง

 

 

PTTGCปัดคลีนนิ่งอ่าวพร้าว5สค.จ่อสรุปแนวทางเยียวยา

นายบวร วงศ์สินอุดม ประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้าการขจัดคราบน้ำมันบริเวณหาดอ่าวพร้าว จ.ระยอง ว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำบิ๊กแบ็กสำหรับเก็บคราบน้ำมันลงเรือเพื่อขนออกจากพื้นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแต่ถังขนาด 1 คิว ที่มีความล่าช้าจากการขนจากเรือเล็กไปสู่เรือใหญ่ ซึ่งหลังจากเก็บอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือเสร็จสิ้น จะมีการเฝ้าระวังเรื่องทำความสะอาดอีกครั้ง ทั้งนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้คือ ขยะที่มีจำนวนมากจากประชาชน ที่เข้ามาช่วยขจัดคราบน้ำมัน ที่เกรงว่าจะทำให้เกิดความลำบากต่อการจัดการขยะของเกาะ ขณะที่การขอความร่วมมือจิตอาสาร่วมทำความสะอาดครั้งใหญ่ หรือ บิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ในวันจันทร์ที่ 5 ส.ค.นี้ ที่ออกมาเป็นข่าว นายบวร ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้เป็นผู้จัด เนื่องจากระยะเวลายังเร็วเกินไป ไม่เหมาะแก่การจัด ทั้งนี้จะขอจัดการ
บริเวณหน้างานให้เสร็จสิ้นก่อน และจะมีการประกาศบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ให้ทราบทั่วกัน

นอกจากนี้ ในส่วนของการเยียวยาได้มีการพูดคุยกับผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปแนวทางในการเยียวยาได้ภายในอาทิตย์หน้านี้ ส่วนมูลค่าความเสียหาย ยังไม่มีการประเมิน รวมถึงแผนการฟื้นฟู ซึ่งเป็นเรื่องในระยะยาว จะมีการทำแผนร่วมกับหน่วยงานต่างๆ หาแนวทาง เพื่อร่วมทำงานคืนเกาะเสม็ดและระบบนิเวศกลับคืนมา

 

กองทัพเรือลำเลียงบิ๊กแบ็กอ่าวพร้าวเข้าฝั่ง

ในวันนี้ กองทัพเรือ โดยพล.ร.ท.รุ่งศักดิ์ เสรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้เดินทางโดย ฮ.กองทัพเรือ เพื่อสำรวจคราบน้ำมันทางอากาศ ซึ่งพบว่า เหลือเพียงคราบแผ่นฟิล์มบางๆ เท่านั้น สำหรับการจัดเก็บคราบน้ำมันส่วนใหญ่สำเร็จเกือบ 100% แล้ว นอกจากนี้ ยังได้อำนวยการในการปฏิบัติการทางเรือ เพื่อลำเลียงถุงบิ๊กแบ็กที่บรรจุคราบน้ำมันและทรายที่ปนเปื้อนคราบน้ำมันจากอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ส่งขึ้นฝั่งที่ท่าเรือมาบตาพุด
จ.ระยอง เพื่อส่งมอบให้ ปตท. ดำเนินการต่อไป

โดยกองทัพเรือ ได้จัดเรือหลวงมันใน บรรทุกบิ๊กแบ็กรวม 2 เที่ยว จำนวน 320 ตัน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกัน ยังได้ส่งเรือลำเลียงพล ของเรือหลวงอ่างทอง 2 ลำ และเรือลำเลียงพล ของเรือหลวงจักรีนฤเบศร
 อีก 2 ลำ เพื่อลำเลียงถุงบิ๊กแบ็กจากชายหาด ขึ้นสู่เรือระบายพลขนาดใหญ่ นำขึ้นสู่ฝั่งที่ท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยอง ให้เสร็จสิ้นภายในวันนี้

ซึ่งการปฏิบัติดังกล่าว เป็นไปตามคำสั่งของ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่สั่งการให้ ทัพเรือภาคที่ 1 ให้การสนับสนุนกำลังพล พร้อมเรือและอากาศยาน ตลอดจนสิ่งของที่จำเป็นต่างๆ ให้การสนับสนุน ตามที่จะได้รับการร้องขออย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อแก้วิกฤติการขจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลในครั้งนี้

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook