กองทัพปชช.นัดม็อบสวนลุม7ส.ค.ยกระดับชุมนุม
กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ออกแถลงการณ์ ยกระดับชุมนุมเข้มข้น นัดมวลชนรวมตัวพรุ่งนี้ ลั่น ร่วมพรรคประชาธิปัตย์ เผด็จศึกรัฐบาล ด้าน ศอ.รส. คาด ม็อบระดมมวลชนกดดันหน้ารัฐสภา พรุ่งนี้ สั่งใช้แผนกรกฎ 52 รับมือ
นายไทกร พลสุวรรณ พร้อมด้วย แกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ หรือ กปท. ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 หลังรัฐบาลไม่ปฏิบัติตามข้อเรียกร้อง 6 ข้อ และยืนยันที่จะพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดย กปท. ได้ประณาม พ.ร.บ.ฉบับนี้ว่า เป็นกฎหมายที่ทำลายหลักนิติธรรม นิติรัฐ ทำให้บ้านเมือง ไร้ขื่อแป คนทำผิดไม่ได้รับโทษ จึงประกาศยกระดับการชุมนุมระดับเข้มข้น พร้อมทั้งประกาศให้พี่น้องประชาชนมารวมตัวกันที่ สวนลุมพินี ในวันพรุ่งนี้ เวลา 09.00 น. เพื่อเตรียมความพร้อมสูงสุด โดย นายไทกร มั่นใจว่า จะสามารถเผด็จศึกรัฐบาลได้ ส่วนกรณีที่ พรรคประชาธิปัตย์ จะร่วมปราศรัยกับกลุ่มกองทัพประชาชนฯนั้น นายไทกร กล่าวว่าเป็นเรื่องที่ดีและยินดีต้อนรับสำหรับผู้ที่มีจุดหมายเดียวกัน ซึ่งไม่ใช่เพียงพรรคประชาธิปัตย์ เท่านั้น ที่อยากให้มา แม้แต่พรรคเพื่อไทย ก็ยังอยากให้มาร่วมด้วย
ส่วนแผนการเคลื่อนไหวจะมีการดำเนินการอย่างไรนั้น พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ กล่าวว่า จากประสบการณ์ทางทหารและการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามที่ผ่านมา จึงปฏิเสธที่จะเปิดแผนการจนกว่าจะถึงเวลาปฏิบัติ
กองทัพปชช. ไปปปช.ฟันผิดรัฐ
การชุมนุมของกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ เข้าสู่วันที่ 3 ซึ่งวันนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของเวที ทั้งเต็นท์อำนวยการและเต็นท์พักผ่อนของพี่น้องประชาชนที่มาร่วมชุมนุม จากเดิมที่อยู่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 ติดฝั่งถนนราชดำริ ก็ย้ายเข้ามาในบริเวณสวนลุมพินี โดย นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกองทัพประชาชน โค่นระบอบทักษิณ กล่าวว่า ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและรองรับการมาสมทบของมวลชนในวันนี้ ทั้งนี้ได้ยกเลิกกิจกรรมที่จะมีการไปยื่นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง รวมถึง ผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อเอาผิดรัฐบาลที่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ว่าเป็นกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากได้มีการปรึกษากับทีมกฎหมายแล้ว เห็นว่าควรจะยื่นต่อ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพราะเป็นองค์กรเดียวที่จะมีผลทำให้รัฐบาลหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยจะไปยื่น ในเวลา 14.00 น. อย่างไรก็ตาม ในเวลา 10.00 น. จะมีการแถลงยกระดับการชุมนุมด้วย
สำหรับบรรยากาศภายในสวนลุมพินี ยังคงมีประชาชน วิ่งออกกำลังกายและปั่นจักรยานตามปกติ ซึ่งสถานการณ์เป็นไปอย่างปกติ โดยยังไม่มีกิจกรรมใด ๆ มีเพียงการเปิดเพลงปลุกใจและพักผ่อนตามอัธยาศัย
ไทกร จ่อร้อง ป.ป.ช. เอาผิด ผบ.ตร. ลิดรอนสิทธิ์
นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ เปิดเผยกับ ผู้สื่อข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ที่ประชุมแกนนำ เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ได้มีมติยกเลิกการเดินทางไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ในกรณีที่ขอให้มีการตรวจสอบการประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรของรัฐบาล เนื่องจาก มองว่าเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในการชุมนุมอย่างสงบโดยปราศจากอาวุธนั้น
นายไทกร กล่าวว่า ที่ประชุมแกนนำ ได้มีความเห็น เนื่องจากมองว่า หากไปยื่นเรื่องต่อหน่วยงานดังกล่าว ก็จะไม่สามารถทำให้ รัฐบาลยุติการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงดังกล่าวได้
โดยในวันนี้ จะมีเพียงการเดินทางไปยื่นเรื่องต่อ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เท่านั้น เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบเอาผิด กับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีเป็นผู้ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สกัดกั้นประชาชนไม่ให้เข้าร่วมชุมนุม โดยมีนายพิเชฐ พัฒนโชติ เสนาธิการร่วม จะเดินทางไปยื่นเรื่องในช่วงเวลา 14.00 น.ของวันนี้
รอง ผบช.น. ยังประมาทไม่ได้ การข่าวชัดมือที่ 3 จ้องป่วน
พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ตาม พ.ร.บ.มั่นคง 3 เขต เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ผ่านไป 2 วัน กลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ที่ปักหลักชุมนุมที่ด้านหน้าสวนลุมพินี นั้น ถือว่ายังเป็นปกติ มวลชนยังไม่มากเท่าไร แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่สามารถจะประมาทสถานการณ์ได้ เพราะไม่รู้ว่าทางกลุ่มดังกล่าว มีใครอยู่เบื้องหลัง และจะทำอะไรบ้าง ดังนั้นการที่รัฐบาลประกาศ พ.ร.บ.มั่นคง ในจุดเสี่ยง ถือว่าเป็นการป้องกันเหตุที่ดีที่สุดในสถานการณ์เช่นนี้
นอกจากนี้ การข่าวของตำรวจยังระบุชัดเจนว่า ยังมีกลุ่มผู้ไม่หวังดี หรือ มือที่ 3 จ้องที่จะสร้างความปั่นป่วนให้เกิดความวุ่นวายอยู่ ดังนั้นจึงต้องเข้มงวดในการประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง ใน 3 เขตต่อไป ตามกำหนดเวลา อาทิ การปิดถนนสำคัญ ที่เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ 5 เส้นทาง ซึ่งอาจจะทำให้ประชาชนไม่สะดวกบ้าง แต่ก็เป็นการป้องกันไว้ดีกว่าแก้ และได้ระดมตำรวจจราจร มาอำนวยความสะดวกในช่วงที่มีการปิดถนนแบบ 24 ช.ม.ด้วย สำหรับโรงเรียนในเขตพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ. ปิดการเรียนในช่วงนี้นั้น ตนเห็นด้วยเพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และหากเกิดขึ้นตำรวจอาจดูแลไม่ทั่วถึงได้
ส่วนกรณีที่ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจะดาวกระจายไปตามจุดต่างๆ นั้น แม้ ณ เวลานี้ มวลชนจะไม่มากเท่าไร แต่ทางตำรวจจะเฝ้าจับตาดูต่อไป เพราะม็อบที่ไม่มีแกนนำชัดเจนเช่นนี้ ถือว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้เช่นกัน
ศอ.รส.คาดพรุ่งนี้ม็อบบุกรัฐสภาใช้แผนกรกฎ52
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) แถลงถึงสถานการณ์การชุมนุมประจำวัน ว่า ได้มีการชุมนุมกันทั้งสิ้น 2 จุด คือ กลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.6 สวนลุมพินี และเวทีผ่าความจริง ของพรรคประชาธิปัตย์ บริเวณแยกอุรุพงษ์ โดยจากการประชุมคาดว่าวันนี้กลุ่มผู้ชุมนุมจะมีการกระจายไปตามสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะองค์กรอิสระ เพื่อเตรียมพร้อมปราศรัยระดมมวลชนเข้ากดดันที่ด้านหน้าอาคารรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ ซึ่งทางผู้อำนวยการ ศอ.รส. ได้มีการสั่งให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยปฏิบัติตามแผนคำสั่งของ ศอ.รส. ฉบับที่ 1/2556 และแผนกรกฎ 52 ในการรับมือกับกลุ่มผู้ชุมนุม
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า มีการ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมบางรายมีหมายจับในคดีอาญา รวมถึงมีแกนนำอย่างน้อย 2 คน ที่ยังอยู่ในเงื่อนไขการประกันตัวของศาล ซึ่ง ผอ.ศอ.รส ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายเตรียมดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาล ในการเพิกถอนการประกัน โดยเมื่อวานที่ผ่านมา ศาลได้สั่งลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนพกพาอาวุธเข้าไปในพื้นที่ 3 เขตที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายใน จำนวน 2 ราย ได้แก่ นายสมชาย อานันท์ และ นายวุฒิศักดิ์ จันทร์หนองฮี โดยพิพากษาจำคุก 1 เดือน ปรับ 500 บาท
และสำหรับกรณีที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ได้ออกหมายเรียก 4 บุคคล ที่โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสม เกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมือง ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อประชาชนนั้น ทาง ศอ.รส. ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันนี้ ศอ.รส. ได้เชิญที่ปรึกษาจาก 18 กระทรวง เข้าประชุมหารือทำความเข้าใจ และเตรียมความพร้อมในการรับมือกลุ่มผู้ชุมนุม โดยจะมีการแถลงผลการประชุมในเวลา 16.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ