สโมสรสมาชิกโหวตรับธรรมนูญฟีฟ่าแต่ค้าน72เสียง

ประชุมรับรองธรรมนูญใหม่ฟีฟ่า ถกเครียดร่วม 3 ชั่วโมง สรุปสโมสรรับรองทุกข้อ เว้นข้อที่ 21 เรื่อง 72 เสียง 'บิ๊กกร๊อง' วิรัช ชาญพานิชย์ ขอเคลียร์ 2 สัปดาห์

นายวรวีร์ มะกูดี รักษาการนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานการประชุมพิเศษเพื่อรับรองธรรมนูญใหม่ตามข้อบังคับของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ที่ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ (หนองจอก) ซึ่งบรรยากาศในช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีการกั้น ตั้งแต่หน้าสนามฟุตบอล วรวีร์ มะกูดี โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล 3 จำนวน 155 นาย ควบคุมความสงบเรียบร้อยในพื้นที่การจัดการประชุม ในช่วงเช้าบรรยากาศชุลมุนเล็กน้อย เนื่องจากสมาคมฟุตบอลฯ ไม่อนุญาตให้สโมสรสมาชิกที่ไม่มีใบมอบอำนาจจากสมาคมฟุตบอลฯ เข้าไปในพื้นที่การประชุมเด็ดขาดโดยปิดประตูเหล็กกั้นให้เฉพาะสมาชิกที่มีใบมอบอำนาจของสมาคมฯ เท่านั้น จึงทำให้สมาชิกสโมสรจำนวนหนึ่งเกิดความไม่พอใจ และได้ต่อว่า สมาคมฟุตบอลฯ ว่าจำกัดสิทธิ์สมาชิกในการเข้ารับฟังข่าวสาร เกี่ยวกับการโหวตรับธรรมนูญใหม่ หลังจากนั้น มร.เธียร์รี่ เลอเกอเนส และ มร.เจมส์ จอห์นสัน สองตัวแทนจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้เรียกแกนนำกลุ่มฝ่ายค้าน ทั้ง วิรัช ชาญพานิชย์, พินิจ งามพริ้ง สองผู้สมัครท้าชิงเก้าอี้นายกฯ และ ทัดเทพ พิทักษ์พูลสิน ตัวแทนจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, อรรณพ สิงห์โตทอง ตัวแทนจากชลบุรี เอฟซี เข้าหารือเป็นการส่วนตัว โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จากนั้น นายพินิจ เป็นตัวแทน มาให้สัมภาษณ์ว่า ฟีฟ่าตกลงที่จะให้นำเรื่องมาตรา 21 ที่กำหนดผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งจำนวน 72 เสียง จากธรรมนูญเดิม 182 เสียงมาพูดคุยในที่ประชุมอีกครั้ง พร้อมออกคำสั่งให้สมาคมฟุตบอล ปล่อยสโมสรสมาชิกที่ถูกกักอยู่ด้านนอกเข้ามาเพื่อตรวจสอบใบมอบอำนาจด้านหน้าโต๊ะลงทะเบียน ทำให้สามารถเปิดการประชุมได้ในเวลาประมาณ 15.00 น. โดยมีสโมสรสมาชิกเข้าร่วม 163 เสียง รวมกับสภากรรมการฯ อีก 14 เป็นทั้งหมด 177 เสียง จากทั้งหมด 201 เสียง และไม่เปิดให้สื่อมวลชนเข้ารับฟัง

ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้นร่วม 3 ชั่วโมง "บิ๊กกร๊อง" นายวิรัช ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า "สมาชิกสโมสรฝั่งเรา ที่ได้รับหนังสือเชิญและหนังสือมอบอำนาจจากสมาคมฯ มีเพียง 50 สโมสร หลายๆ คน เป็นระดับประธานสโมสร กลับไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมได้ ซึ่งทางฝ่ายตำรวจรักษาความปลอดภัย บอกว่าเป็นคำสั่ง "เสธ.ตุ้ม'' พล.ท.ชินเสณ ทองโกมล ประธานผู้ตัดสินแต่อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการหารือกันกับทางผู้แทนจากฟีฟ่า สโมสรสมาชิกที่ไม่ได้รับจดหมายแต่มีหนังสือมอบอำนาจอย่างเป็นทางการจากทางประธานสโมสร สามารถเข้าร่วมประชุม ได้อย่างครบถ้วน "ส่วนการหารือกับทางฟีฟ่า เป็นการชี้แจงเรื่องธรรมนูญใหม่ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องของจำนวนเสียงสมาชิกสโมสรเอไอเอส ลีกภูมิภาค รวมทั้งหลายๆ สโมสรที่โดนตัดสิทธิ์ ทุกคนจะติดใจแค่เรื่องของสิทธิสโมสรสมาชิกที่จะได้สิทธิ์เลือกตั้งทั้งที่มา และจำนวน 72 สโมสร ตอนนี้ขอไปพูดจากับสโมสรสมาชิกในกลุ่มก่อนและจะหารือกันอีกครั้งว่าจะสรุปอย่างไร คงใช้เวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งทุกคนเห็นด้วยกับธรรมนูญใหม่ของฟีฟ่ายกเว้นข้อเดียว ข้อ 21 เรื่องที่มา และจำนวนว่ากี่เสียง ถ้าการเจรจาไม่ลงตัวสโมสรสมาชิกจะเลือกคณะกรรมการที่มาดูแลการเลือกตั้งนายก สมาคมฯ เอง" ขณะที่ "บังยี" กล่าวว่า สำหรับการโหวตธรรมนูญใหม่ของฟีฟ่าครั้งนี้ผ่านแล้ว แต่ขอสงวนข้อ 21 ซึ่งได้มีการหารือกับผู้แทนของฟีฟ่า บางอันเห็นด้วย แต่ผมรับได้ แต่ในหลักการเราไปฝ่าฝืนและขัดกับคำตัดสินของฟีฟ่า ไม่ได้ ส่วนเรื่องของ 72 เสียง ทาง คุณวิรัช ได้ขอสงวนไว้ แต่ก็มีการพูดคุยกับฟีฟ่า ซึ่งใน 2 ลีกสูงสุด รับรองแล้ว เหลือแต่ลีกภูมิภาค ที่จะมีการเลือกตั้งในโซน แต่ละโซนให้สิทธิ์ผู้แทนแต่ละภาค ทุกอย่างเป็นข้อเสนอแนะ หรือเป็นข้อที่เสนอเข้ามา เป็นเรื่องที่คุยกับฟีฟ่า ส่วนเรื่องที่ประชุมขอสงวนทั้งข้ออยากให้บรรยากาศที่มีแต่ความสับสนวุ่นวายจบไปอยากให้ทุกอย่างเป็นไปแบบสงบเรียบร้อย การเสนอเรื่องจำนวนมีระยะเวลา 2 สัปดาห์ ที่ต้องไปหารือกับสมัครพรรคพวกและสโมสรที่เป็นกลุ่มที่ต้องไปหารือ ถ้าก่อนหน้านี้จะมีการหารือกับสมาคมฯ ก็ไม่ขัดข้อง ผมก็ขอยืนยันที่จำนวน 72 เสียง เหมือนเดิม แต่ต้องดูตรงวิธีการสรรหามากกว่า โดยเฉพาะ 30 เสียงที่เป็นปัญหาของดิวิชั่น บังยี กล่าว --------------------------------------------------------------

 ติดตาม คลิป 'วิรัช' แถลงธรรมนูญใหม่ฟีฟ่า ได้ที่

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=471588