รปภ.หื่นมีดจี้ปล้ำแฟน ร.ต.ท. เหยื่อสู้มีดบาดมือตะโกนให้คนช่วย รอดหวุดหวิด

รปภ.หื่นมีดจี้ปล้ำแฟน ร.ต.ท. เหยื่อสู้มีดบาดมือตะโกนให้คนช่วย รอดหวุดหวิด

รปภ.หื่นมีดจี้ปล้ำแฟน ร.ต.ท. เหยื่อสู้มีดบาดมือตะโกนให้คนช่วย รอดหวุดหวิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อ 11 ส.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่ชุดสืบสวนคมประจักษ์ พ.ต.อ.สุรินทร์ ชัยชมพู รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สส.ฯ พ.ต.ต.สุรพล ทองเงิน สว.ฯ ร.ต.อ.วิบูลย์ นนทะแสง รอง สว.ฯ และกำลังชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี ชุดสืบสวน สภ.หนองหาน ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดี ชิงทรัพย์ ฯ ,บุกรุกในเคหสถานฯ, พยายามข่มขืนกระทำชำเราฯ ผู้ต้องหาคือ นายสัจธรรม หรือ กั๊ก คำเชียงตา อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 137 ม.6 บ้านท่าสวง ต.ทุ่งฝน อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี พร้อมของกลาง มี 1.คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กยี่ห้อคอมแพ็คสีดำ 1 เครื่อง 2.สร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง 1 เส้น 3.สร้อยสแตนเลสพร้อมจี้ 1เส้น 4.มือถือไอโฟน4สีดำ 1 เครื่อง 5.กระเป๋าสะพายสีชมพู 1 ใบ

พ.ต.อ.สุรินทร์ กล่าวว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.วันที่ 9 ส.ค. ขณะที่ น.ส.อ้อย (นามสมมติ) อายุ 22 ปี นอนพักผ่อนอยู่ในบ้านพัก ในพื้นที่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี มีคนร้ายสวมไอ้โม่งสีดำมือถือมีดทำครัว บุกเข้ามาจี้ทำร้ายร่างกาย น.ส.อ้อย แย่งมีดจนบาดเจ็บที่มือขวา จากนั้นคนร้ายจับเหยื่อนอนลงและถอดเสื้อผ้า จากนั้นคนร้ายก็ถอดเสื้อผ้าและพยายามบังคับข่มขืน ทำให้เหยื่อสาว ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน ก่อนที่คนร้ายจะผละออกไป แล้วจับมัดมือมัดเท้า ชิงเอาสร้อยทองไป 1 บาท กระเป๋าสะพายสีชมพู 1 ใบมีโน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง สร้อยสแตนเลสพร้อมจี้ 1 เส้น มือถือไอโฟนสีดำ 1 เครื่อง แล้วหลบหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ฮอนด้าสกูปี้ไอ สีแดง ไม่ติดทะเบียน ขับหลบหนีไปทาง อ.ทุ่งฝน จากนั้นเหยื่อสาวได้พยายามดิ้นจนหลุดจากเชือกที่มัดมือมัดเท้าวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน หลังเกิดเหตุทางตำรวจ สภ.หนองหานพยายามติดตามจับกุมคนร้ายตามเส้นทางหลบหนี โดยพบว่าคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์คันเดียวกันขับหลบหนีเข้าไปในตัวเมืองอุดรฯโดยมีหญิงสาวนั่งซ้อนท้ายไปด้วย

ด้าน พ.ต.อ.อารี เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้เข้าสอบปากคำผู้เสียหายพบว่าผู้เสียหายจำรอยสักรูปนกอินทรีกำลังจะตะปบเหยื่อที่หน้าอกซ้ายได้ ขณะที่คนร้ายถอดเสื้อผ้า โดยเห็นรูปนกอินทรีชัดเจนและจำได้ว่านายสัจธรรม หรือกั๊ก คำเชียงตา ก็มีรูปรอยสัก แบบเดียวกันนี้เนื่องจากมีความคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ของคนร้ายรับราชการครู เช่นเดียวกับพ่อแม่ของเหยื่อสาวที่เป็นเพื่อนสนิทกัน และเมื่อตำรวจตามตัวไปที่บ้านพักก็ทราบว่านายสัจธรรม หรือกั๊ก ได้ขับรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยมุ่งหน้าไปในตัวเมืองอุดรฯ กับอดีตภรรยา ต่อมาชุดสืบสวนได้สืบทราบว่านายสัจธรรม เอาสร้อยทองที่ชิงมาได้ไปขายที่ร้านทองในตลาดรังสินา เขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยใช้บัตรประชาชนของตนเอง จากนั้นชุดสืบสวนสืบทราบว่าคนร้ายแอบไปเช่าห้องพักอยู่ที่เอ็นที อพาร์ตเมนต์ถ.อดุลยเดช ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรฯ จึงบุกเข้าจับกุมตัวไว้ได้พร้อมยึดของกลางที่เหลือจากการขายไว้ได้ส่วนหนึ่ง

ด้านนายสัจธรรม หรือกั๊ก ให้การรับสารภาพว่า ตนทำงานเป็นรปภ.อยู่ที่คอนโดฯ ย่านถนนตก กรุงเทพฯ แล้วลาออกมาอยู่บ้านแต่ยังตกงานอยู่และพยายามขอคืนดีกับภรรยาเก่าที่แยกทางกันไปได้กว่า 1 ปีแล้วโดยมีลูกด้วยกัน 2 คน ช่วงตกงานก็ติดยาบ้า จากนั้นก็พยายามหาเงินเพื่อกลับกรุงเทพฯ ก่อนก่อเหตุเสพยาบ้าไป 1 เม็ด แล้วตัดสินใจยืมรถจักรยานยนต์ของอดีตภรรยา ไปหาซื้อไอโม่งและเอามีดทำครัวบุกไปที่บ้านของ น.ส.อ้อย ที่เคยแอบชอบมานานแล้วเพื่อชิงเอาทรัพย์สินและหวังข่มขืน จากนั้นหลอกอดีตภรรยา ให้ไปส่งที่ท่ารถในตัวเมืองอุดรฯ เพื่อเตรียมตัวเข้ากรุงเทพฯ แต่มาถูกจับได้เสียก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาแถลงข่าว ได้มี ตำรวจยศ ร.ต.ท. นายหนึ่ง ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของ น.ส.อ้อย มาร่วมสังเกตการณ์ด้วยและเปิดเผยว่า มีแผนจะแต่งงานกับแฟนสาวในปีนี้ โชคดีที่แฟนสาวรอดพ้นอันตรายมาได้

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ข่าวสดออนไลน์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook