บุญจงแปรญัตตินิรโทษยันต้องชัดใครรอด

รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลั่น เตรียมแปรญัตติร่างนิรโทษ ม.3 วรรค 2 และ ม.4 พร้อมชี้ เสียเวลาเปล่า ดึงคนรัฐบาลร่วมเวทีปฏิรูปการเมือง ด้าน 'พล.อ.สนธิ' เผย กำลังทำการบ้านเพื่อร่วมถกเวทีปฏิรูปการเมือง

นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ยังต้องค้นหาความจริงกันต่อไป เนื่องจากผู้เสนอร่าง ไม่เคยบอกว่าคนที่ได้ประโยชน์ มีจำนวนเท่าใด และมีคดีใดบ้างที่จะนิรโทษกรรมให้ ส่วนขั้นตอนการแปรญัตติร่างดังกล่าวนั้นจะนำไปเสนอต่อที่ประชุมพรรคในวันนี้ เวลา 13.30 น. เพื่อขอความเห็นและแลกเปลี่ยนความคิด โดยจะเน้นที่ ม.3 วรรค 2 และ ม.4 คดีที่มีโทษสูง เช่น การหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ รวมถึงการเผาสถานที่ ทั้งเอกชนและราชการ อีกทั้งยังต้องมาตีความคำว่าแกนนำว่าเป็นใครบ้าง เพราะในร่างดังกล่าว ยังเขียนไม่ชัดเจน และยังไม่มีใครยอมรับว่าเป็นแกนนำที่แท้จริง

ทั้งนี้ ยังมองว่าการจัดเวทีสภาปฏิรูปการเมืองเป็นเรื่องที่ดี หากมีความจริงใจ แต่ถ้าหากไม่มีความจริงใจ จะทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย เพราะขณะนี้บ้านเมืองอยู่ในภาวะปกติอยู่แล้วเพียงแต่รัฐบาลนำร่างดังกล่าวเข้าสู่สภา จึงทำให้มีเชื้อไฟเกิดขึ้น ตลอดจนบุคคลที่รัฐบาลเชิญมาร่วมเวที ล้วนเป็นคนของรัฐบาล จึงกลัวว่าจะเสียเวลาเปล่า

 

'สนธิ''ชี้กำลังทำการบ้านเข้าร่วมเวทีปฏิรูป

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ หนึ่งในคณะเวทีปฏิรูปการเมืองเพื่อหาทางออกประเทศ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ในขณะนี้กำลังทำการบ้าน ว่าที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น และจะหาทางแก้อย่างไร ให้กับประเทศ เพราะการแก้ไขต้องเกิดขึ้นในสภา แต่รูปแบบนี้ถือเป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้สภาเสนอแนะแนวทางในการปฏิรูปได้ แต่จะต้องมองทุกด้านแบบองค์รวม คือ เศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง ส่วนรูปแบบจะเป็นอย่างไรนั้น ส่วนตัวก็ยังไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากยังไม่ชัดเจน และยังไม่ทราบว่ามีใครร่วมพูดคุยบ้าง ทั้งนี้ ปฏิเสธว่า ตนเองไม่ใช่คนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะมีความคิดเห็นที่ต่างกัน ส่วนตนเองจะเสนออะไรต่อที่ประชุมวันที่ 16 ส.ค.นั้น ยังตอบไม่ได้ เพราะต้องเห็นรูปแบบและต้องมาพูดคุยกันก่อน

นอกจากนี้ พล.อ.สนธิ ยังเชื่อว่า หากประชาชนตัดสินว่าเวทีดังกล่าวดี จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมด้วยส่วนกระแสข่าวว่าการจัดเวทีนี้เพื่อซื้อเวลา และเบี่ยงเบนประเด็น ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม นั้น มองว่าเป็นคนละเรื่องกัน

 

'อุกฤษ'หนุนเวทีปฏิรูปแนะรัฐชัดกรอบพูดคุย

นายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ส่วนตัวสนับสนุนเวทีสภาปฏิรูปการเมืองเพื่อหาทางออกประเทศ แต่ไม่ขอรับตำแหน่งทางการเมือง

อีกทั้ง มองว่า นายกรัฐมนตรี ให้ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และ นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาทาบเชิญ เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องดูก่อนว่าเวทีดังกล่าวมีบุคคลใดบ้างเข้าร่วมเจรจา พร้อมทั้ง อยากให้รัฐบาลกำหนดกรอบเวทีให้ชัดเจนว่าจะปรึกษาเรื่องใด เพราะบุคคลที่เข้าร่วมมีจำนวนหลายคน และหากคิดกรอบให้ อาจจะมีการตกผลึกช้า

ทั้งนี้ เชื่อว่า เวทีดังกล่าวไม่ได้ตั้งมาเพื่อเกี่ยวข้องกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะเป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎร และไม่เชื่อว่าจะเป็นการซื้อเวลา เพราะ นายกรัฐมนตรี มีความมุ่งมั่นในเรื่องนี้

 

'วัชระ'ชี้'วรชัย'เขียนร่างนิรโทษโยงม.112

นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า วันนี้ทางพรรคจะมีการประชุม ส.ส. เพื่อหารือเรื่องการแปรญัตติร่างนิรโทษกรรม ฉบับ นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย โดยมี คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ เชื่อว่า ร่างดังกล่าวจะทำให้ นายวรชัย ได้เก้าอี้รัฐมนตรีจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อต่างตอบแทนกันอย่างแน่นอน

พร้อมยืนยันว่า ทางพรรคไม่ได้มีการขัดข้องที่จะนิรโทษกรรมให้กับประชาชนที่มาร่วมชุมนุม แต่ร่างดังกล่าวมีความพยายามเขียนกฎหมายให้ครอบคลุมกับการสั่งการ ม.112 และ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงต้องดูในชั้นกรรมาธิการว่าจะเป็นอย่างไร อีกทั้ง สิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดไปก็ไม่มีความน่าเชื่อถือ เพราะพูดอย่างทำอย่าง และสาเหตุที่ทำให้บ้านเมืองแตกร้าวก็มาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงคนเดียวเท่านั้น โดยในวันพฤหัสบดี ที่ 15 ส.ค.นี้ จะมีการประชุมในชั้นกรรมาธิการ เป็นนัดแรก

 

'ชวลิต'บอกปฏิรูปปรองดองได้ขอหันหน้าคุย

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางข้าพบ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อเชิญเข้าร่วมเวทีสภาปฏิรูปการเมือง โดย พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ขอบคุณที่ให้ความสำคัญ และยินดีที่จะเข้าร่วมเวทีสภาปฏิรูปการเมือง ซึ่งการจะแก้ไขปัญหาได้นั้น ทุกฝ่ายควรหันหน้าเข้าหากัน ใช้ความเสมอภาคในการพูดคุยเพื่อนำไปสู่ความปรองดอง

ทั้งนี้ ส่วนตัวอยากให้มองว่าปัญหาที่แท้จริงเกิดจากอะไร เกิดจากที่นักการเมืองทะเลาะกัน และลุกลามไปสู่ประชาชน ดังนั้น ก็ควรแก้ไขปัญหาที่นักการเมืองก่อน และเชื่อว่า สภาปฏิรูปการเมือง จะนำไปสู่ความปรองดองได้สำเร็จ

ขณะที่ นายพงศ์เทพ เชื่อว่า พรรคฝ่ายค้าน จะเข้าร่วมสภาปฏิรูปการเมืองในภายหลัง เมื่อสภาปฏิรูปการเมืองมีความเป็นรูปธรรมมากขึ้น