นายกฯจัดTVเทปเยือนตปท.คุยศก.จัดการน้ำ

นายกรัฐมนตรี จัดรายการ รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน แบบบันทึกเทป ยัน เยือนทาจิกิสถานลุยเศรษฐกิจ ถกจัดการน้ำ ขณะที่ รองนายกฯกิตติรัตน์ ยืนยัน เศรษฐกิจไทย ไม่ได้ถดถอย ค่าเงินบาทที่อ่อนอยู่ระดับเหมาะสม

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จัดรายการ รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ถึงการเยือนประเทศทาจิกิสถาน โดยระบุว่าการเดินทางเยือนต่างประเทศ แม้จะเหนื่อยกายแต่มีความสุข อีกทั้งการเยือนประเทศทาจิกิสถาน ในครั้งนี้ก็เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ในหลายด้าน เพราะประเทศดังกล่าวช่วยเหลือไทยด้านการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ตลอดจนการเดินทางเยือนดังกล่าว ยังเป็นการประชุมจัดการน้ำที่ทางทาจิกิสถานร่วมมือกับ สหประชาชาติ (UN)  ที่ต้องการให้ไทย ร่วมประชุมเพื่อเสนอบทเรียนด้านอุทกภัย ที่ต้องมีความร่วมมือกัน ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ที่ถือเป็นการต่อยอดการประชุมน้ำโลกที่ จ.เชียงใหม่ที่ผ่านมาด้วย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ นอกจากจะเป็นความร่วมมือของ 2 ประเทศแล้ว ยังเป็นการเปิดเส้นทางทางการค้าระหว่างเอกชนต่อเอกชน โดยในอนาคตไทยจะเปิดเที่ยวบินในเอเชียกลาง เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยวด้วย

 

กิตติรัตน์ ยัน เศรษฐกิจไทย ไม่ได้ถดถอย

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน ถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทย โดยยืนยันว่า เศรษฐกิจไทย ไม่ได้ถดถอย ซึ่งการที่เปรียบเทียบตัวเลขเศรษฐกิจ จะต้องเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้มองว่า ในช่วงไตรมาส 2 ปี 56 มีเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น คือ การที่ พม่าหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติให้กับไทย 1 สัปดาห์ จึงทำให้เอกชนต้องหยุดการผลิต รวมถึง ค่าเงินบาทที่แข็งค่าที่สุด ซึ่งเคยแข็งค่าถึง 28 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จึงทำให้มีผลกระทบต่อภาพรวมการส่งออก  เพราะฉะนั้นไตรมาสที่ 2 จึงเป็นแค่ปัจจัยประกอบ แต่ไม่ใช่เศรษฐกิจถดถอย
 
อย่างไรก็ตาม มองว่า ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในขณะนี้ ถือว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม และเป็นระดับที่ดีต่อการส่งออกให้สามารถแข่งขันและควบคุมเงินเฟ้อได้
 
ส่วนแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3  นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า รัฐบาลยังคงเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจการลงทุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งทำให้นักลงทุนต่างชาติมีความมั่นใจ นอกจากนี้ ยังมีกองทุนน้ำมัน ที่คอยดูแลราคาน้ำมันไม่ให้ผันผวน ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้