วัดระดับ "ความดุ" กุนซือพรีเมียร์ลีก
ตั้งแต่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก่อตั้งมามีผู้จัดการทีมมากมาย
ที่ได้รับการยกให้เป็นกุนซือมหาโหด จอมโวยวาย
ที่พร้อมจะพ่นไฟใส่ทุกคนที่ทำให้ตนเองไม่พอใจ
มาดูกันว่าในฤดูกาลนี้มีกุนซือคนไหนที่โหดพอจะเข้าขั้นนั้นบ้าง
อาร์แซน เวนเกอร์ (อาร์เซน่อล)
ด้วยอากัปกิริยาที่มักจะออกมายืนลุ้นอยู่ข้างสนามพร้อมด้วยท่าทางที่เคร่ง ขรึมและสีหน้าที่เคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล คนนี้เคยก่อเหตุฟาดปากกับกุนซือคนอื่นๆมาแล้วนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น มาร์ติน โยล, มาร์ติน โอนีล, อลัน พาร์ดิว, มาร์ค ฮิวส์ และที่ขาดไม่ได้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คู่แค้นตลอดกาล
ระดับความดุ 8/10
พอล แลมเบิร์ต (แอสตัน วิลล่า)
ชายคนนี้เป็นคนที่มีท่าทีสงบนิ่งเสมอ แต่หลังจากเกม พรีเมียร์ลีก ที่พบกับ เชลซี ที่เจ้าตัวเจอคำตัดสินที่ค้านสายตาเข้าไปเพียงครั้งเดียว ถึงกับระเบิดอารมณ์พร้อมตรงเข้าไปตวาดใส่ทีมงานผู้ตัดสินเลยทีเดียว
ระดับความดุ 6/10
มัลกี้ แม็คเคย์ (คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้)
กุนซือของทีมน้องใหม่คนนี้ได้รับการยกย่องอย่างมากในเรื่องของการยับยั้ง ชั่งใจ ไม่โวยวายแบบขาดสติเหมือนกุนซือคนอื่นๆ แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็เคยได้ใบแดงในศึก โอลด์ ดาร์บี้ สมัยเป็นนักเตะมาแล้ว ฉะนั้นถ้าไม่ถึงขีดสุดจริงๆ แม็คคีย์ คงจะไม่ยอมสำแดงพิโรธออกมา
ระดับความดุ 3/10
โชเซ่ มูรินโญ่ (เชลซี)
คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมากถึงกิตติศัพท์ของผู้จัดการทีมคนนี้ เพราะไม่ว่าจะเป็นจังหวะเล็กจังหวะน้อย กุนซือชาวโปรตุเกสก็พร้อมจะตวาดใส่ทุกคนที่ทำให้เขาไม่พอใจ หลังจากที่กลับมาคุมทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” อีกครั้ง เราก็เริ่มได้เห็น “จ่ามู” คนเดิมกลับมาแล้ว
ระดับความดุ 9/10
เอียน ฮอลโลเวย์ (คริสตัล พาเลซ)
แม้ว่า พรีเมียร์ลีก เพิ่งจะเริ่มต้นไปเพียงสัปดาห์เดียว แต่นาย ฮอลโลเวย์ คนนี้ก็ประเดิมโทษจาก เอฟเอ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากตามโวยใส่ผู้ตัดสินไปตลอดทางจนถึงห้องพัก
ระดับความดุ 8/10
โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ (เอฟเวอร์ตัน)
คงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะพยายามยั่วโทสะของอดีตกุนซือ วีแกน ผู้นี้ เพราะ มาร์ติเนซ คือผู้จัดการทีมอีกคนที่มักตอบโต้สิ่งยั่วยุต่างๆด้วยความสงบนิ่ง ถึงกระนั้นความอดทนของเจ้าตัวอาจเปลี่ยนไป หลังจากตัดสินใจมารับความกดดันที่มากกว่ากับ เอฟเวอร์ตัน
ระดับความดุ 4/10
มาร์ติน โยล (ฟูแล่ม)
ระดับความดุ 6/10
สตีฟ บรู๊ซ (ฮัลล์ ซิตี้)
ถ้าหาก มูรินโญ่ คือผู้ที่เกรี้ยวกราดที่สุด บรู๊ซ ก็คงอยู่คนละด้านกัน เพราะกุนซือ ฮัลล์ ผู้นี้แทบไม่เคยแสดงอาการโวยวายออกมาให้เห็นเลย แม้แต่จะประท้วงผู้ตัดสินแต่ละครั้ง เจ้าตัวจะค่อยๆเดินไปเงียบๆ พยายามรอจังหวะที่เหมาะสมแล้วค่อยสอบถามอย่างรู้มารยาท แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาโมโหไม่เป็นหรอกนะ
ระดับความดุ 2/10
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส (ลิเวอร์พูล)
กุนซือ ลิเวอร์พูล ผู้นี้แทบไม่เคยก้าวเท้าออกจากเขตของตัวเองเลย แม้แต่ตอนที่กำลังอารมณ์หลุด หรือโมโหกับฟอร์มการเล่นที่ไม่เอาไหนของนักเตะ เพราะเจ้าตัวถือคติ หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า โดยเฉพาะการต้องเถียงกับผู้เล่นต่อหน้าสาธารณะ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่เงียบที่สุดใน พรีเมียร์ลีก เลยทีเดียว
ระดับความดุ 2/10
มานูเอล เปเยกรินี่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
ในฐานะที่ยังใหม่กับฟุตบอลอังกฤษ กุนซือชาวชิลีผู้นี้ยังคงมาในมาดเงียบขรึม ไม่มีการต่อปากต่อคำ หรือตวาดนักเตะของตนเอง แต่อีกสักพักคาดว่าน่าจะได้เห็นตัวจริงของ มานูเอล เปเยกรินี่ อย่างแน่นอน
ระดับความดุ 4/10
เดวิด มอยส์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
ยังจำเมื่อครั้งที่เจ้าตัวปะทะคารมกับ อาร์แซน เวนเกอร์ และ เชส ฟาเบรกาส ได้หรือไม่ มอยส์ นั้นเป็นอีกคนที่พร้อมจะระเบิดอารมณ์ออกมาโดยไม่เกรงใจใคร และที่สำคัญเขาเป็นผู้ที่ได้สืบทอดตำแหน่งของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เตรียมตัวเตรียมใจได้เห็นลูกตาที่แทบจะถลนออกจากเบ้า การแยกเขี้ยวพร้อมคำราม รวมทั้งการโบกไม้โบกมือออกท่าทางในฤดูกาลนี้ได้เลย
ระดับความดุ 7/10
อลัน พาร์ดิว (นิวคาสเซิ่ล)
เมื่อปีก่อน พาร์ดิว เคยก่อเหตุผลักหลังของไลน์แมนมาแล้ว รวมทั้งความเดือดดาลหลังทีมแพ้ในเกมดาร์บี้ ไทน์แวร์ แต่โดยปกติแล้วเจ้าตัวเป็นคนที่ให้ความเคารพต่อผู้ตัดสินและคู่แข่งเสมอ แต่ชายคนนี้ก็พร้อมจะระเบิดอารมณ์ได้ทุกเวลาเช่นกัน
ระดับความดุ 6/10
คริส ฮิวจ์ตัน (นอริช ซิตี้)
ฮิวจ์ตัน ได้พิสูจน์แล้วว่าการเป็นผู้จัดการทีมนั้นไม่จำเป็นต้องดุเสมอไป เพราะอดีตนายใหญ่ของสาลิกาดง ขึ้นชื่อในเรื่องการหลีกเลี่ยงการโต้เถียงทุกรูปแบบนับตั้งแต่เริ่มรับงาน คุมทีมมา เจ้าตัวแทบไม่เคยมีปากเสียงกับใครเลย อย่างมากก็แค่ค้านผู้ตัดสินบ้างยามที่ทีมตัวเองตกเป็นฝ่ายเสีย เปรียบ
ระดับความดุ 1/10
เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ (เซาแธมป์ตัน)
ระดับความดุ 1/10
มาร์ค ฮิวจ์ส (สโต๊ค)
สปาร์กี้ นั้นพกความดุดันมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะแล้ว จนกระทั่งมาเป็นกุนซือ ดีกรีความดุเดือดเลือดพล่านก็ไม่เคยลดลงแม้แต่นิดเดียว เพราะถ้าหากพลิกดูรายชื่อคู่กรณีของเจ้าตัวล่ะก็ คุณจะคาดไม่ถึงว่ามันเยอะแค่ไหน
ระดับความดุ 9/10
เปาโล ดิ คานิโอ (ซันเดอร์แลนด์)
สมัยเป็นนักเตะเคยบ้าดีเดือดอย่างไร พอมารับงานคุมทีมก็ยังคงอนุรักษ์ความเกรี้ยวกราดเช่นนั้นอยู่ กุนซืออิตาเลียนรายนี้เหมือนกับระเบิดที่อาจปะทุได้ทุกนาทีหากมีใครเผลอไป สะกิดเข้า เพราะทั้งนักเตะและแฟนบอลของ สวินดอน ต่างได้รับรู้รสสัมผัสมาแล้วว่าพายุนั้นโหมกระหน่ำได้หนักแค่ไหน
ระดับความดุ 9/10
ไมเคิ่ล เลาดรู๊ป (สวอนซี)
เป็นกุนซืออีกคนที่มีสไตล์ทำทีมแบบนิ่มนวล แม้แต่เส้นกั้นขอบสนามยังแทบไม่เคยได้รู้จักกับเงาของ เลาดรู๊ป เลย กุนซือชาวเดนมาร์กคนนี้ถูกเปรียบเหมือนดั่งภูเขาน้ำแข็งที่นิ่งสงบ ซึ่งเป็นวิธีการเฉพาะตัวเพื่อใช้กับลูกทีมของตนโดยเฉพาะ แล้วก็ได้ผลดีเสียด้วย
ระดับความดุ 1/10
อันเดร วิลลาส-โบอาส (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์)
สมัยที่คุม เชลซี นั้นเจ้าตัวยังคงแสดงความห่ามออกมาให้เห็นบ้างเป็นครั้งคราว แต่หลังจากย้ายมารับงานที่ สเปอร์ส แล้ว เห็นได้ชัดว่า วิลลาส-โบอาส เปลี่ยนไป สามารถคุมอารมณ์และยับยั้งชั่งใจได้ดีขึ้น
ระดับความดุ 6/10
สตีฟ คลาร์ค (เวสต์บรอม)
หลังจากที่รับงานเป็นผู้ช่วยให้คนอื่นมานาน พอถึงคราวที่ คลาร์ค ได้ขึ้นมาเป็นกุนซือเองบ้าง เจ้าตัวกลับยังคงเลือกใช้ความนิ่งเงียบเหมือนเดิม ไม่มีปากมีเสียงกับใคร หรือแม้แต่คิดจะค้านคำตัดสินของกรรมการก็ตาม
ระดับความดุ 2/10
แซม อัลลาไดซ์ (เวสต์แฮม)
อายุที่มากขึ้นเรื่อยๆอาจทำให้ บิ๊กแซม นิ่งลงไปเยอะ เพราะเมื่อทศวรรษก่อนเจ้าตัวยังคงรักษาความเดือดดาลของตัวเองเอาไว้ได้ แต่ในช่วงหลังนี้ ภาพการยืนเถียงกับผู้ตัดสินข้างสนามนั้นดูจะลดน้อยลงไปมาก แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่า บิ๊กแซม คนนี้หมดเขี้ยวเล็บแล้ว
ระดับความดุ 8/10
ข้อมูลจาก www.hikicker.com
ที่มา : Daliymail
บทความโดย : Colin Young
แปลและเรียบเรียง : ธนันต์ อยู่ในศิล