ศาลนัดพิพากษาคดีทักษิณฟ้องแก้วสรรหมิ่น
ศาลอาญา นัดพิพากษา ให้ยกฟ้องคดี 'ทักษิณ' ฟ้องหมิ่นประมาท 'แก้วสรร' อดีต คตส. กรณีให้สัมภาษณ์ทางช่อง 5 กล่าวหาซุกหุ้น ไม่ได้โอนหุ้นจริง โดย'แก้วสรร' เผย ให้ข้อมูลโดยสุจริต ขอลดจัดตั้งมวลชน เลิกแบ่งฝ่ายได้แล้ว
ศาลอาญารัชดา นัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากกรณีเมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2550 จำเลยได้ใส่ความโจทก์ โดยการโฆษณาด้วยการกระจายภาพและเสียง ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชังจากบุคคลที่ได้ยินและประชาชนทั่วไป
สำหรับคดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้อง เนื่องจากคดีไม่มีมูล โจทก์ยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ เห็นว่า คดีมีมูลบางส่วนจึงให้ประทับรับฟ้อง และนำคดีเข้าสู่ระบบความ โจทก์ จำเลย นำพยานเข้าสืบต่อสู้กัน อย่างต่อเนื่อง จนศาลนัดอ่านคำพิพากษาในวันนี้ เวลา 09.00 น.
ศาลยกฟ้องคดีทักษิณ ฟ้องหมิ่นแก้วสรร กล่าวหาซุกหุ้น
ศาลอาญา รัชดา อ่านคำพิพากษา ในคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
จากกรณี เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2550 จำเลยได้ให้สัมภาษณ์ ทางช่อง 5 ในทำนองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะที่ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีนั้น ได้ทำการซุกหุ้น และไม่ได้โอนหุ้นจริง และกล่าวหาว่า โจทก์ เลี่ยงภาษี
โดยศาลพิเคราะห์ แล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลย เป็นการทำหน้าที่ของ คตส. ซึ่งทำการตรวจสอบจำเลย ที่เป็นนายกรัฐมนตรี บริหารประเทศ ย่อมต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เมื่อจำเลยทำหน้าที่ตรวจสอบโจทก์ ว่ากระทำการไปตามกฎหมายหรือไม่ ย่อมสามารถทำได้ จำเลยมีความชอบธรรมที่จะเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน ซึ่งเป็นประโยชน์ พยานหลักฐานของจำเลยมีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่า ไม่เป็นการกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา พิพากษายกฟ้อง
"แก้วสรร" เผย หลังศาลยกฟ้องให้เลิกแบ่งฝ่าย จัดตั้งมวลชน
นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. กล่าวภายหลัง ศาลยกฟ้อง ในคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฟ้องหมิ่นประมาท ว่า คดีนี้ศาลยกฟ้อง เพราะเห็นว่า เป็นการให้ข้อมูลต่อสาธารณชนโดยสุจริต มีหลักฐานทำให้เชื่อได้ว่า โจทก์กระทำการอย่างตนกล่าวหาจริง ซึ่งการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวเป็นประโยชน์ เพราะประชาชนจะได้รู้ว่ามีหลักกฎหมายใด ที่สามารถกล่าวหาบุคคลอื่นด้วยข้อเท็จจริง
นอกจากนี้ นายแก้วสรร ยังกล่าวถึง การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า หากนำมาดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ที่แสดงความเห็นต่างทางการเมือง ก็สามารถทำได้แน่ หากนำมาใช้ในคดีอาญา ก็ไม่ควรทำ พร้อมกันนี้ยังแนะกลุ่มการเมืองให้ลดการจัดตั้งมวลชนลง เลิกแบ่งฝ่าย ก็จะสามารถเข้าสู่การปรองดองได้