เสี่ยเจียงเปิดใจจาพนมเล่นFAST7ไม่บอก

เสี่ยเจียงเปิดใจจาพนมเล่นFAST7ไม่บอก

เสี่ยเจียงเปิดใจจาพนมเล่นFAST7ไม่บอก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

'เสี่ยเจียง' เปิดใจ ยัวะ 'จา พนม' เล่นหนังเรื่อง 'The Fast and the Furious 7' ไม่บอก

จากกรณีที่มีข่าวฮือฮา ว่าพระเอกนักบู๊ จา พนม ถูกค่ายฮอลลีวูด ติดต่อให้ไปเล่นภาพยนตร์ภาคต่อ The Fast and the Furious 7 ล่าสุด เสี่ยเจียง ออกมาเปิดใจกรณีนี้ว่า

เสี่ยเจียง : สำหรับความตั้งใจในวันนี้ จริง ๆ แล้วก็คือผมอยากจะคุยเรื่องของคุณจาพนม ให้สื่อมวลชนเข้าใจพร้อมกันเลย คือ กับจาได้มีการเซ็นสัญญากับบริษัทต่อ เพียงแต่ว่าในสัญญาฉบับนี้เขาขอมาว่าในเรื่องของการถ่ายโฆษณา และการถ่ายหนังต่างประเทศเขาจะขอเป็นคนดูแลเอง ซึ่งเขาขอมาตรงนี้ ผมก็ให้เขาไป คือให้เขาสามารถไปรับงานต่างประเทศ หรืองานโฆษณาได้โดยที่ไม่ต้องผ่านบริษัท ก็เพื่อที่อยากให้ผู้สื่อข่าวเข้าใจพร้อมกันตามนี้ด้วยว่า ทางสหมงคลฟิล์ม จะเป็นผู้ดูแลทางด้านภาพยนตร์ไทยเท่านั้น

 

Q. : แล้วอย่างนี้ทางสหมงคลฟิล์ม ไม่เสียผลประโยชน์เหรอ

เสี่ยเจียง : ผมว่าเราอย่าไปเรียกว่าเสียผลประโยชน์เลย มันก็ไม่ดี เราเป็นบริษัท เพราะฉะนั้นก็อย่าไปคิดว่าเรื่องจะเอาประโยชน์อะไร แล้วการที่เขาไปถ่ายหนังต่างประเทศได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาตินะ เป็นเรื่องที่เราต้องดีใจกับเขาด้วย ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ประโยชน์ หรือได้ส่วนแบ่งอะไรจากเขา ตัวผมตั้งแต่ทำบริษัทสหมงคลฟิล์มมาเราไม่เคยกินเปอร์เซ็นต์ใคร เราเป็นบริษัทที่ไม่ว่าใครจะมาอยู่กับเราแล้ว แล้วเขาต้องมาไปหาเงินมา เพื่อมาแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้กับเรา ตรงนี้เราไม่เคยทำ เราอยู่ด้วยการสร้างชื่อเสียงทำให้หนังไทยออกมาให้ดี

 

Q. : จริงๆ แล้วสัญญาใหม่ที่บริษัททำกับจาพนมนี่เริ่มมาตั้งแต่เมื่อไหร่

เสี่ยเจียง : สัญญาใหม่เริ่มเมื่อ ก.ค. ที่ผ่านมา

 

Q. : อย่างนี้แล้วเสี่ยหรือทางสหมงคลฟิล์มเองรู้สึกเสียดายไหมที่เป็นคนแรก ๆ เลยที่ตั้งใจจะพาจาไปฮอลลีวูด

เสี่ยเจียง : ไม่เสียดาย เพราะเขาอาจจะมีผู้จัดการใหม่ที่ดีกว่า ที่ทำได้ดีกว่า เราก็ควรให้เขาไป แล้วผมถือว่าเขาไปทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ และมีชื่อเสียง เราควรจะสนับสนุน ไม่ใช่เห็นแก่ตัว เอาประโยชน์อย่างเดียวไม่มี

 

Q. : สัญญาที่เซ็นมีระยะเวลากี่ปี

เสี่ยเจียง : 10 ปี

 

Q. : แล้วอย่างที่มีข่าวว่าเขาไปรับเล่นหนังเรื่อง THE FAST & THE FURIOUS 7 เขาได้มาปรึกษากับทางเราไหม

เสี่ยเจียง : ยังเพราะข่าวเพิ่งมาเมื่อศุกร์ - เสาร์นี้ ผมคิดว่าไม่ 2-3 วันนี้ หลังจากที่ผมแถลง เขาคงจะมาคุย เพราะว่าเขาต้องมาบอก ไม่ว่าเขาจะไปถ่ายโฆษณากับสินค้าใด ๆ เขาก็ต้องมาบอก เพราะเรื่องเหล่านี้ทั้งหมดมีอยู่ในสัญญา แต่ว่าบริษัทก็ให้เขาทำได้โดยไม่ต้องผ่านบริษัท แต่ต้องมาแจ้งให้ทราบแค่นั้นเอง

 

Q. : สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นทางตัวจาเองก็ยังไม่ได้มาแจ้งที่บริษัทเลยใช่ไหม

เสี่ยเจียง : ยัง แต่เรารู้เราเห็นแล้วว่ามีข่าวนี้ขึ้นมา เราก็อยากบอกให้ผู้สื่อข่าวรู้ก่อน แล้วให้ตัวเขาได้สบายใจ

 

Q. : น้อยใจไหม เสี่ยปั้นมาแล้วมาบอกเราทีหลัง

เสี่ยเจียง : อย่าไปน้อยใจเลย คนเรามันจะดังขึ้นมาแล้ว ใครอย่าไปว่าอะไรใคร พวกเราไม่เคยเห็นคนดังเหรอ (หัวเราะ)

 

Q. : นี่เสี่ยโกรธหรือเปล่า

เสี่ยเจียง : (หัวเราะ) ไม่โกรธหรอก ผมและบริษัททำหนังมา 50 ปีแล้ว ผมว่าดีนะ อย่างน้อยก็ทำให้ประเทศไทยให้ใครก็รู้จัก โดยเฉพาะอย่างที่เราทำหนังเรื่องต้มยำกุ้ง 2 -3D เราตั้งใจทำเป็น 3 มิติอยู่แล้ว มันเยี่ยมอยู่แล้ว เราก็อยากให้ทั่วโลกเขาได้รู้

 

Q. : ฟังอย่างนี้แล้วเสี่ยมีข้อกำหนดในสัญญาไหมว่าใน 10 ปี จะต้องเล่นหนังให้เรากี่เรื่อง ไม่อย่างนั้นถ้าเขาเทรับหนังโฆษณาหรือเล่นหนังต่างประเทศอย่างเดียว

เสี่ยเจียง : ผมว่ามันก็คงไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอก  เพราะจริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เชื่อว่าเขาก็ต้องเล่นหนังไทยต่อ

 

Q. : แต่ในสัญญาได้ระบุไหมว่าในแต่ละปีจะต้องเล่นหนังให้เรากี่เรื่อง หรือ 2 ปีต่อเรื่อง

เสี่ยเจียง : ไม่ระบุหรอก ผมเชื่อตรงนี้ เพราะผมเป็นคนยุติธรรม อันไหนได้ประโยชน์กว่าและดีกว่า เอาไปทำเถอะ เราไม่ต้องเห็นแก่ได้ ถึงเราไม่ได้มีเขา แต่บริษัทก็ยังมีคนทำหนังไทยอีกเยอะ คนอยากจะทำแอ็คชั่นโอ้โห หนังแอคชั่นไม่ใช่ทำง่าย ๆ

 

Q. :อย่างนี้เสี่ยปั้นตัวแทนไว้ไหม

เสี่ยเจียง : อย่าบอกว่าแทนจา เราบอกว่าเรามีนักแสดงใหม่ ขึ้นมาใหม่บ้าง มันก็ต้องมี แต่เราไม่รู้ว่าใครจะขึ้นมาเท่าเขาไม่เท่าเขา ถูกไหม คนเราอยู่ที่บุญวาสนา เชื่อผมซิ

 

Q. : เห็นว่าจริงๆ แล้วบริษัทยังมีโปรเจกต์ที่จาเขายังทำค้างอยู่กับที่บริษัทประมาณหนึ่ง แต่ว่าหนังเรื่อง THE FASTจะถ่ายเดือนหน้า แล้วต้องออกฉายปีหน้า มันจะมีผลกระทบอะไรเกี่ยวกับบริษัทกับโปรเจกต์ที่เราวาง ที่เราให้เขาทำไหม

เสี่ยเจียง : ไม่หรอก เพราะโปรเจกต์ "จา-ดอล์ฟ" ก็เป็นโปรเจกต์ที่เราตั้งใจฉายปีหน้าอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าอย่างการที่เขาไปถ่ายหนังฝรั่งเรื่องนี้ อย่างมากก็ถ่ายไม่เกินเดือน 2 เดือนเท่านั้น เชื่อผมเถอะ แล้วอีกอย่างนะ ผมคิดว่าผมให้เขาไปอย่างนี้ดีกว่า ให้เขาไปตัดสินใจเอง เพราะถ้าอยู่กับบริษัท สมมติว่าฝรั่งส่งบทมาให้ผมอ่าน ถ้าไม่ให้พระเอกของผมไปเป็นพระเอก ผมก็ไม่ยอมอยู่แล้ว แต่ถ้าตัวเขาอ่านแล้วตัวเขาพอใจ เราก็ไปว่าเขาไม่ได้

 

Q. : เสี่ยวางแผนแก้ปัญหาสมองไหลอย่างไรบ้างไหมในอนาคต อย่างถ้าเกิดดังมาแล้วไหลหมด

เสี่ยเจียง : แล้วแต่คนนะ คนเราเชื่อผมเถอะ มันอยู่ที่ความดี แล้วแต่บุญวาสนาใคร คนเราไม่แน่ ใครจะคิดว่าองค์บาก หนังเรื่องแรกของจาพนม คิดดูคุณปรัชญา กับผมทะเลาะกัน 3 เดือน ใครจะทำหนังบู๊ ลงทุนแบบนี้ แต่ใครจะรู้ เรื่องเดียวพลิกเปรี้ยงเลย แล้วก็มีคนซื้อไปถึงต่างประเทศเลย

 

Q. : ถ้าอย่างนี้เสี่ยเจียง มองถึงการไปต่างประเทศครั้งนี้ของจาอย่างไร เพราะอย่างที่ผ่านมาก็มีหลายสตูดิโอ ทั้งโกลเด้นฮาร์เวสท์ เคยจะจีบไปแล้วเหมือนทางเราถ้าไปบทไม่ดีก็อย่าดีกว่า ถ้าไปตอนนี้ช่วงนี้ถือว่าน่าจะไปได้ดีไหม

เสี่ยเจียง : ผมว่าเรื่องนี้อยู่ที่ตัวเขาดู ผจก.ใหม่ที่เขาไว้ใจดูบทแล้วเป็นไง ผจก.ใหม่เขาอาจจะไม่ได้ดูบทเท่าผมก็ได้ ผจก.ใหม่เขาอาจจะดูแค่ว่าได้เงินมา แล้วให้ไปเล่น ก็เป็นเรื่องของเขา ผมก็คิดว่าผมปล่อยดีกว่านะ เกิดมีเรื่องแบบนี้แล้วอย่ามีเรื่องราวกันเลย ต่างคนต่างสบาย ๆ เราเป็นคนพูดเอง ผมไม่รู้นะ ก่อนจะมีข่าวเรื่องนี้ขึ้นมา ผมเพิ่งพูดเรื่องที่ว่าหนังต่างประเทศทางเราปล่อยเขา เพิ่งพูดกับเขาเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ ข่าวก็ออกมาเลย เราไม่รู้ว่าเขาเตรียมการอย่างไร เขามาข อเราก็ให้ ให้ถ่ายแต่หนังไทยอย่างเดียวในเมืองไทยก็พอละ

 

Q. : ฟังอย่างนี้แล้วแสดงว่าเขามาขอแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการมาคุยเรื่องรายละเอียด

เสี่ยเจียง : ใช่ วันนั้นเขามาขอเรื่องโฆษณา เราก็ไม่ได้คิดอะไร เราก็ให้เขาไปเถอะ เขาก็มาขอว่าในเรื่องของหนังต่างประเทศ ขอเขาดูแลเอง ผมก็ไม่ได้อยากได้เปอร์เซ็นต์จากเขาอยู่แล้ว 

 

Q. : เสี่ยพูดถึงวาสนาบ่อย อย่างนี้เสี่ยมองว่า จาพนม จะมีวาสนาในฮอลลีวูดอย่างไร มีแนวโน้มอย่างไรบ้าง

เสี่ยเจียง : ผมไม่รู้สิ แล้วแต่เขานะ ว่าเขาจะทำได้แค่ไหน

 

Q. : เสี่ยคิดว่าพอไปไหวไหม

เสี่ยเจียง : คุณลองดูเฉินหลง หรือเจ็ทลี ว่าทั้งคู่ไปอยู่ฮอลลีวูดกี่เรื่องแล้ว แล้วตอนนี้มีเหรอ เดี๋ยวนี้ก็ไม่มี เรื่องหนังผมว่าขึ้นอยู่กับนักแสดง

 

Q. : ถ้าจาอยู่กับเสี่ย แล้วให้บริษัทดูแลเรื่องต่างประเทศให้เอง มันจะเป็นไปตามแผนตามเขาคิดเองไหม หรือว่าเสี่ยต้องรอให้มันเข้มข้นกว่านี้ไหม ถ้าเป็นเสี่ย เสี่ยจะทำอย่างไร

เสี่ยเจียง : ผมว่าเราต้องไม่ยอมแน่ ถ้าพระเอกเราไปเป็นอย่างผู้ร้ายหรือเป็นพระรอง เราก็คงไม่เอา

 

Q. : แต่ว่าดาราจากฝั่งเอเชียจะไปเป็นพระเอกเลยมันก็ยากมากนะ

เสี่ยเจียง : เราก็ไม่แคร์ ถ้าเป็นผมผมก็ไม่แคร์ ผมรอได้ ถ้าไม่เอาผม ผมก็ไม่ไป

 

Q. : อย่างนี้เสี่ยคิดว่าจาเขาใจร้อนไปไหม

เสี่ยเจียง : เราอย่าไปว่าเขาเลย บริษัทอยู่กับคุณจามา 10 ปี บริษัทสร้างหนังได้ 5 เรื่อง นั่นคือ ต้มยำกุ้ง 1, 2 และองค์บาก 1-3 ยังไม่ทำอะไรเลย สัญญาแรก 10 ปีนะ

 

Q. : เสี่ยมองว่าน้อยไปไหม?

เสี่ยเจียง : การทำหนังบู๊ ไม่ใช่เรื่องง่าย มันยากมาก อย่างของเมืองนอก ฝรั่งเขากำหนดไว้แน่นอน 3 เดือนจบ คุณรู้ไหมว่า ต้มยำกุ้งถ่ายไปทั้งหมด 100 กว่าคิว แล้ว 100 กว่าคิวเฉพาะกล้อง 3D เช่ามาถ่าย คิดค่าเช่าคิวละแสน แค่ค่ากล้องอย่างเดียว 100 กว่าคิว เป็นเงิน 10 ล้าน เราเป็นหนังไทยเราต้องคิดความเป็นหนังไทยเรา เพราะเราไม่ใช่จีน เราไม่ใช่อเมริกา เพราะเดี๋ยวเรื่องนี้ไปฉายที่ประเทศจีน เขาให้โรงหนังฉายที 3,000 โรง คุณลองคิดดู โรงภาพยนตร์รุ่นใหม่สมัยนี้ไม่ได้ใช้ฟิล์มแล้ว เพราะฉายด้วยระบบดิจิตอล ถ้าฉายด้วยระบบฟิล์ม ลองนึกภาพว่าถ้าหนังเรื่องนี้ใช้ฟิล์ม 3,000 ก๊อปปี้ จะต้องใช้เงินเฉพาะค่าฟิล์มอย่างเดียวเท่าไหร่ ก๊อปปี้ละ 30,000 บาท ก็ 9 ล้าน แต่พอเป็นดิจิตอลทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ทุกอย่างในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปเร็วเหลือเกิน เราไม่รู้ว่าเหตุการณ์ภายภาคหน้าจะเป็นอย่างไรอีก ที่ผมบอกวันนี้ก็เพื่อให้นักข่าวสบายใจไม่ต้องโทรหาผมเรื่องคุณจาอีก (หัวเราะ)

 

Q. : แล้วหนังเรื่องนี้เสี่ยจะดูหรือเปล่า

เสี่ยเจียง : เอามาฉายเราก็ต้องดูอยู่แล้ว เพราะขนาด FAST 5 เราก็ดูเพราะว่าเขาทำออกมาดี ถูกไหม


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook