"เบล" แข้งดาวโรจน์คนใหม่ คู่ควรกับยี่ห้อ "ค่าตัวแพงสุดในโลก" ?
ฟุตบอล : วงการลูกหนังยุคปัจจุบันอาจมีนักเตะหลายคนที่ฝีเท้าจัดจ้านไม่แพ้แกเร็ธ เบล นักเตะดาวโรจน์ของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส แต่ตอนนี้ต้องยอมรับว่าไม่มีใครน่าสนใจเท่ากับดาวเตะทีมชาติเวลส์ คนนี้อีกแล้ว ซึ่งประโยคนี้ยืนยันได้จากข่าวในหน้าสื่อที่เหล่าทีมยักษ์ของยุโรปต่างพยายามทุ่มงบเดินหน้าคว้าเบล ไปค้าแข้งกับทีมให้ได้
ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจย่ำแย่ในยุโรป เรอัล มาดริด สโมสรเจ้าของสถิติซื้อนักเตะโดยจ่ายค่าตัวมากที่สุดในโลก 4 ครั้งหลังสุด ยังพร้อมทุ่มงบมากกว่า 80 ล้านปอนด์ มากกว่าสถิติค่าตัวของคริสเตียโน โรนัลโด้ ดาวเตะของทีมซึ่งซื้อมาจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2009 และคำถามยอดฮิตที่สุดในมหากาพย์ย้ายทีมครั้งล่าสุด คือ เบล คู่ควรกับป้ายราคาสูงพุ่งทะลุตัวเลข 85 ล้านปอนด์หรือไม่
ถ้าย้อนไปก่อนหน้านี้ 2-3 ฤดูกาล แน่นอนว่า คำตอบคือไม่ ช่วงที่นักเตะเวลส์ เพิ่งย้ายจากเซาแธมป์ตัน มาร่วมทีมสเปอร์ส เบล ยังเป็นที่รู้จักว่าเป็นนักเตะขัดโชคสำหรับทีม แต่หลังจากขยับตำแหน่งจากแบ็คซ้าย มาเป็นปีกซ้าย จนถึงเป็นแนวรุกกลางสนาม หรือกองหน้า ฝีเท้าของเบล เข้าขั้นน่าสนใจทีเดียว
"จิมมี่ลองบ็อตทอม" แฟนบอลในโลกไซเบอร์ลองนำสถิติของคริสเตียโน โรนัลโด้ ในฤดูกาล 2008-09 ซึ่งเป็นปีที่แฟนบอลมองว่า โรนัลโด้ เป็นนักเตะที่ฝีเท้าโดดเด่น เป็นแนวรุกริมเส้น และเป็นนักเตะที่น่าเกรงขามสำหรับทีมคู่แข่งมากที่สุดในเวลานั้นจนมีชื่อเข้าทำเนียบแข้งเรอัล มาดริด ร่วมกับหลุยส์ ฟิโก้, ซีนาดีน ซีดาน และกาก้า มาเปรียบเทียบกับสถิติของแกเร็ธ เบล ในฤดูกาล 2012-13
แม้สถานการณ์ของลีกและต้นสังกัด รวมถึงบทบาทในทีมของทั้งสองคนมีความแตกต่างกันพอสมควร แต่น่าสนใจว่า สถิติหลายหัวอย่างของเบล ในฤดูกาล 2012-13 เหนือกว่า สถิติของโรนัลโด้ ช่วงปี 2008-09
เบล มีสถิติพาบอลผ่านคู่แข่ง, ครอสบอล และจำนวนประตูที่ยิงได้มากกว่า เบล ยังยิงเข้ากรอบมากกว่า และมีสถิติความแม่นยำในการยิงมากกว่าเล็กน้อย ขณะที่เบล ยังเป็นผู้ยิงประตูเกินกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนประตูทั้งหมดที่ทีมสเปอร์สทำได้ โดยประตูที่สเปอร์ส ทำได้ เป็นประตูที่เบลยิงถึง 32 เปอร์เซ็นต์ และประตูที่เบลทำ ช่วยให้ทีมเก็บแต้มได้คิดเป็น 25 เปอร์เซ็นต์ จากคะแนนที่ทีมทำได้ 73 คะแนน ขณะที่ประตูที่โรนัลโด้ ทำได้ช่วยทีมเก็บ 12 คะแนน จาก 90 คะแนน คิดเป็น 13 เปอร์เซ็นต์จากคะแนนทั้งหมดที่ปีศาจแดงเก็บได้
สำหรับทักษะในการพาบอลผ่านคู่แข่ง มาร์ติน ลอว์เรนส์ จากเว็บ "ฮูสกอร์" ระบุว่า สถิติตัวเลขจนถึงช่วงท้ายฤดูกาล 2012-13 เบลมีสถิติเหนือกว่าเล็กน้อย โดยเบล มักกระชากแตะบอลพาบอลหนีคู่แข่งสำเร็จ 2.1 ครั้งต่อเกม ส่วนโรนัลโด้ แม้ดูมีลีลา เทคนิก หวือหวากว่า แต่สถิติอยู่ที่ 1.5 ครั้งต่อเกม ขณะที่การเปิดบอลโอเพ่น เพลย์ เบลมีอัตราความแม่นยำเฉลี่ยที่ 0.7 ส่วนโรนัลโด้ อยู่ที่ 0.3 ต่อเกม
ด้านความแข็งแกร่งและเกมรับ เบล ตัดบอลจากคู่ต่อสู้ได้ เฉลี่ย 1.5 ครั้งต่อเกม ขณะที่โรนัลโด้ มีสถิติอยู่ที่ 0.2 ต่อเกมตามลำดับ แม้หลายคนอาจเห็นโรนัลโด้ ไปช่วยตัดเกมจังหวะลูกตั้งเตะ แต่จากตัวเลขสถิติเฉลี่ยแล้วออกมาว่า โรนัลโด้ เคลียร์บอลได้ 0.6 ครั้งต่อเกม ขณะที่ เบล อยู่ที่ 2.2 ครั้งต่อเกม
สำหรับศักยภาพสำหรับผู้เล่นที่สร้างความแตกต่างให้กับผลการแข่งได้ ทั้งเบล และโรนัลโด้ ต่างมีความสามารถตรงจุดนี้ ในด้านการทำประตู เบลยิง 26 ประตู จากการลงเล่น 43 เกมให้กับสเปอร์ส ทำ 7 แอสซิสต์ รวมทุกรายการในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่การทำประตูของเบล อาจไม่หลากหลายเท่าโรนัลโด้ ซึ่งมีสถิติการยิงประตูด้วยเท้าซ้าย-ขวา (จาก 55 ประตู) มีจำนวนแทบจะใกล้เคียงกัน ส่วนเบล มีตัวเลขการยิงจากเท้าซ้ายเป็นส่วนใหญ่
สถิติข้างต้นอาจไม่ได้บ่งชี้และตัดสินฝีเท้านักเตะอย่างชัดเจน แต่เป็นหนึ่งในตัวช่วยให้เห็นภาพกว้างของนักเตะต่างๆ รวมถึงแกเร็ธ เบล ซึ่งเวลานี้ แข้งเวลส์แสดงให้เห็นพัฒนาการทั้งเรื่องผลงานในสนาม โดยสถิติทั้งหลายบ่งชี้ว่า เบล ทำผลงานโดดเด่นเหนือกว่าผลงานในปีที่ผ่านมาและมีแนวโน้มพัฒนาได้มากกว่านี้ แต่จะ "เก่ง" ถึงขั้นป้ายราคาสถิติโลกหรือไม่นั้น ก็ต้องยกให้ผลงานและแฟนบอลตัดสินกันในอนาคต