โหมโรงแดงเดือด!
สาวก "ผีแดง" และพลพรรคกองเชียร์ "หงส์แดง" คงจะใจจดใจจ่อรอวันนี้อยู่เป็นแน่ เกม "แดงเดือด" ครั้งที่ 160 ซึ่งเป็นการโคจรมาเจอกันเร็วสุดๆ ในซีซั่นนี้
แมตช์หยุดโลกที่ใครต่อใครบนโลกใบนี้รอคอย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล
ซึ่งผมเชื่อได้ว่าทุกสายตาจะจับจ้องไปยังสนามแอนฟิลด์ ซึ่งจะเป็นสังเวียนแข้งในวันที่ 1 ก.ย.นี้แน่นอน
โดยก่อนหน้านี้การเจอกันของทั้ง 2 ทีมเรียกได้ว่า "สูสี" เอามากๆ พบกัน 159 ครั้ง ลิเวอร์พูล ชนะ 53 แมนฯ ยูไนเต็ด ขนะ 62 และเสมอกัน 44 ครั้ง
นอกจากสถิติที่โคตรสูสีแล้ว ยังมีสิ่งที่เรียกว่า "ศักดิ์ศรี" ค้ำคอกันอยู่อีกด้วย
ในวันนี้ ผมจะขอวิเคราะห์วิจารณ์ตำแหน่งผู้เล่นในแต่ละตำแหน่งของทั้ง 2 ทีม เรียกได้ว่า เฮด ทู เฮด กันไปเลยละกัน!
ยกที่ 1 ผู้รักษาประตู
ซิมง มิโญเล่ต์ (ลิเวอร์พูล) ปะทะ ดาบิด เดเคอา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
เรียกได้ว่าเป็น 2 นายทวารที่ทำผลงานได้ดีเป็นระดับต้นๆ ของลีก โดยเฉพาะรายของฝั่งเจ้าบ้าน ที่นับตั้งแต่ย้ายเข้ามายังทัพ "หงส์แดง" โชว์ฟอร์มเซฟสวยๆ ไปแล้วหลายต่อหลายลูก รวมไปถึงเซฟลูกโทษที่จุดโทษในเกมแรกที่เอาชนะ สโต๊ค ซิตี้ ได้อีก ส่วนในรายของแข้งชาวสเปนนั้น ถือว่ากำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีขึ้นตามลำดับ หลังจากเคยพลาดลูกโด่งหลายต่อหลายครั้งในซีซั่นที่แล้ว ซึ่งเขาเป็นนักเตะ "ผีแดง" คนหนึ่งที่พัฒนาศักยภาพของตัวเองให้ดีขึ้นจนเทียบชั้นนายทวารระดับโลกได้เลย ทีเดียว แต่ยกนี้ต้องขอยกมือให้ชัยชนะกับ มิโญเล่ต์ ไปก่อน เนื่องจากประสบการณ์ที่มีมากกว่า แม้จะยังไม่เคยสัมผัสเกม "แดงเดือด" ก็ตามที
ผู้ชนะ - ลิเวอร์พูล
ยกที่ 2 กองหลัง
แดเนี่ยล แอ็กเกอร์ (ลิเวอร์พูล) วัดพลังกับ เนมานย่า วิดิช (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
ประสบการณ์ล้นหลามสำหรับเซ็นเตอร์แบ็ก 2 คนนี้ โดยเฉพาะในรายของผู้มาเยือน ที่ทั้งเป็นพระเอกและผู้ร้ายในศึก "เร้ด วอร์" มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนที่ถูกใบแดงไล่ออกจากสนามจนทำให้ทีมแพ้ หรือพังประตูชัยจนทำให้ต้นสังกัดเอาชนะไปได้
ส่วนในรายของ แอ็กเกอร์ ก็ไม่แพ้กัน ซึ่งทั้ง 2 คนย้ายเข้าร่วมต้นสังกัดในเดือนมกราคมปี 2006 ทั้งคู่ เรียกได้ว่าประสบการณ์ของเกมใหญ่ไม่แพ้กันเลยครับ
แต่ถ้าจะให้เลือกจริงๆ ขอเลือกไปยัง "วิด้า" เนื่องจากมีความนิ่งมากกว่าปราการหลังเจ้าถิ่น เรื่องเกมบุกของทั้งคู่นั้นต้องบอกว่าพอกัน แต่ถ้าการตั้งรับ แอ็กเกอร์ ดูจะเสียเปรียบเรื่องการเข้าบอลเล็กน้อย
ผู้ชนะ - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ยกที่ 3 กองกลาง
สตีเว่น เจอร์ราร์ด (ลิเวอร์พูล) ดวลทักษะกับ ไมเคิ่ล คาร์ริค (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
สองมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ ที่เรียกได้ว่าอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มายาวนาน โดยทาง "สตีวี่จี" นั้นไม่ต้องพูดเลยว่าดีกรีความเก่งนั้นมีมากขนาดไหน
ส่วน คาร์ริค ก็ทำผลงานได้ดีขึ้นในช่วงหลังๆ ถ้าให้ดูจากภาพรวมแล้ว กองกลาง "ปีศาจแดง" จะเป็นผู้ปิดทองหลังพระมากกว่าฝ่ายกัปตันทีม "เร้ด แมชชีน" ที่จะมีบทบาทในเกมรุกค่อนข้างเยอะ
โดยเฉพาะฟอร์มช่วงหลังๆ ผมว่า เจอร์ราร์ด ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเกมในวันอาทิตย์นี้ต้องมาดูกันครับ ว่าใครจะผ่านบอลได้ดีกว่ากัน
ซึ่งตอนนี้ผมมองว่าเกมในแดนกลางของผู้มาเยือน ยังไม่ลื่นเท่าทัพเจ้าบ้าน ยกนี้คะแนนน่าจะเป็นเอกฉันท์ ผมเลือก "พี่เจิด" เข้าวินแบบไม่ต้องคิดมากเลย
ผู้ชนะ - ลิเวอร์พูล
ยกที่ 4 กองหน้า
แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (ลิเวอร์พูล) ล่าตาข่ายแข่งกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
เป็นคู่เอกของรายการจริงๆ สำหรับ 2 กองหน้าที่กำลังทำผลงานได้อย่างน่ามหัศจรรย์ โดยเฉพาะกองหน้าผู้ดีวัย 23 ปีลงสนาม 2 นัดในลีก ยิงทั้ง 2 นัด!!
ซึ่งกลายมาเป็นกำลังสำคัญช่วงไม่มี หลุยส์ ซัวเรซ ได้อย่างถูกที่ถูกเวลาเลยทีเดียว แต่ก็อย่ามองข้ามดาวซัลโว 2 ซีซั่นกับ 2 ทีมอย่าง "อาร์วีพี"
ซึ่งเขาไม่ใช่แค่ดาวซัลโวเท่านั้น นับตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ในรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เขายิง "หงส์แดง" ทั้งไปและกลับ ซึ่งต้องนับว่ากลายเป็นกองหน้าที่ขาดไม่ได้ไปซะแล้ว แถมทั้งคู่ยังยิงประตูในฤดูกาลนี้เท่ากันที่ 2 ลูกอีกด้วย
เรียกได้ว่าสูสีถึงขั้นต้องวัดด้วยภาพถ่ายกันเลยทีเดียว ทำให้ผมขอเลือกแบบไม่เข้าข้าง ขอยกความคมของ ฟาน เพอร์ซี่ ให้ชนะไปแล้วกันนะ
ผู้ชนะ - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ยกสุดท้าย การเจอกันของ 2 กุนซือ
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส (ลิเวอร์พูล) vs. เดวิด มอยส์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
จากซีซั่นที่แล้วเจอกันในศึก "เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้" แต่ซีซั่นนี้เจอกันในศึก "แดงเดือด" เรียกได้ว่าดีกรีความดุเดือดนั้นยังเท่าเดิม แค่เปลี่ยนทีมเท่านั้น
ซึ่งต้องขอบอกว่า จากสถิติ เดวิด มอยส์ ไม่เคยคุมทีมชนะ ลิเวอร์พูล ได้เลยใน แอนฟิลด์ ตลอด 10 ปีที่คุม เอฟเวอร์ตัน ทำให้กลายเป็นโปรไฟล์ที่ไม่น่าดูเท่าไหร่นักสำหรับกุนซือชาวสกอตแลนด์
แต่ครั้งนี้ ศักยภาพของ มอยส์ ดีกว่าเดิม ทำให้มองว่าเขาจะไม่เหมือนเดิมในการพบกับ "หงส์แดง" ในครั้งนี้แน่ ซึ่งต้องมองเลยว่า 11 ผู้เล่นตัวจริงที่พวกเขาจะจัดลงสนามเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าแท็กติก ที่วางไว้
ต้องดูกันว่าใครจะอ่านเกมใครขาดกว่ากันครับ ซึ่งผมขอยกให้คู่นี้เสมอกัน!!
ผู้ชนะ - ไม่มี
หลายคนอาจจะโวยว่าทำไมผมถึงให้เสมอ ขอบอกตรงนี้ให้ทุกท่านได้วางใจเลยครับ ไม่มีใครจะทราบได้หรอกว่าใครจะชนะ
ซึ่งมันต้องรอวันนี้เท่านั้นแหละ ถึงจะทราบว่าใคร! จะเป็นฝ่ายกำชัยในนัดนี้
โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าอาจจะสมานฉันท์ จับมือเจ๊ากันไปแบบแฮปปี้ทั้ง 2 ฝ่าย เกมแบบนี้ มันต้องดูลึกไปถึงฎีกาเลยครับ
ใครผิดพลาดก่อนนั่นแหละ มีสิทธิ์คอตกกลับบ้านเลยทีเดียว
ไม่ว่าทุกๆ ท่านจะเชียร์ทีมไหน ขอให้ดูบอลกันอย่างสนุกเช่นเคย และขอให้เป็นผู้ชมที่ดีกันด้วยนะครับ ^^
P.D.